x close

ซื้อขายประกันชีวิต... ทางโทรศัพท์



ซื้อขายประกันชีวิต...ทางโทรศัพท์ (Lisa)

          คุณเป็นคนหนึ่งที่ได้รับการถามขายประกันทางโทรศัพท์หรือเปล่า แล้วมีกฎหมายที่รองรับในเรื่องนี้มั้ย อ.ประมาณจะมาบอกให้ทราบ


          ชีวิตยุคปัจจุบันนี้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีครับ และเมื่อพูดถึงเทคโนโลยีก็คงไม่มีสิ่งใดสะดวกเกินไปกว่า "โทรศัพท์มือถือ" ครับ เพราะทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือนั้นมีสัญญาณการรับส่งกว้างไกลแถมค่าบริการก็ไม่แพงมาก ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจพันแปดร้อยล้านหรือกรรมกรค่าแรงไม่กี่สิบบาทต่อวันต่างก็มีโทรศัพท์มือถือเป็นเหมือนกันบัตรประชาชนไปแล้ว จะต่างกันก็แค่ราคาและบริการเสริมต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับว่าคุณพร้อมจะจ่ายค่าบริการเสริมต่าง ๆ หรือไม่

  ถามขายสินค้าและบริการ... ผ่านโทรศัพท์มือถือ

          เมื่อโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องในประเทศไทยจำเป็นต้องจดทะเบียนว่าใครเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ ดังนั้น บริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์มือถือก็ย่อมมีข้อมูลของลูกค้า ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจหากคุณจะได้รับข้อความสั้นหรือ SMS เพื่อขายสินค้าหรือบริการประเภทต่าง ๆ ซึ่งหากมันน่ารำคาญคุณก็สามารถโทรเข้าไปที่ศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือของคุณให้ระงับการรับ SMS โฆษณาขายสินค้าหรือบริการได้นะครับ นอกจากได้รับ SMS แล้ว บางคนอาจจะรำคาญใจกับการรับสายจากบริการด้านการตลาดทางโทรศัพท์ประเภทขายสินค้าหรือบริการต่างๆ โดยเฉพาะขายบัตรเครดิตหรือขายประกัน

          อันนี้หากไม่ต้องการคุณก็ต้องปฏิเสธไปเลยนะครับ เช่น ถ้าเขาเสนอให้สมัครเครดิต คุณก็อาจจะบอกว่า "ชื่อดิฉันยังอยู่ในบัญชีดำของเครดิตบูโรอยู่เลย" หรือไม่ก็ "กำลังจะย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต" ฯลฯ ส่วนการเสนอขายประกันชีวิตนั้นง่าย ๆ เลยครับ บอกไปเลยว่า "มีแล้ว พอแล้ว" หรือไม่ก็อบกว่าเป็นโรคร้าย โดยเฉพาะโรคที่ประกันฯ ทั้งหลายไม่อยากจะรับเป็นลูกค้า เช่น ความดันโลหิต เบาหวาน มะเร็ง ฯลฯ

  ถามขายประกัน...ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ

          บริการหนึ่งที่มักถูกเสนอขายทางโทรศัพท์มือถือก็คือ "การขายประกัน" ซึ่งผู้ที่ถูกเสนอขายมักเป็นผู้ถือบัตรเครดิต ซึ่งบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันภัยจะได้ข้อมูลลูกค้าจากบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิต แล้วจะมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปเชิญชวนให้ซื้อประกัน โดยที่นิยมมากคือการขายประกันอุบัติเหตุ โดยผู้รับโทรศัพท์มักได้รับการหว่านล้อมว่าการซื้อประกันผ่านโทรศัพท์เบี้ยประกันจะต่ำเฉลี่ยเดือนละ 150 - 200 บาท และได้รับวงเงินความคุ้มครองสูงถึง 100,000 - 500,000 บาท ซึ่งจากข้อมูลการร้องเรียนผ่านสายด่วนประกันภัย 1186 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ประชาชนจำนวนมากถูกหลอกให้ซื้อประกันภัยและประกันชีวิตทางโทรศัพท์ ซึ่งต่อมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วกลับไม่สามารถเรียกร้องค่าสินไหมได้ตามที่เสนอขายไว้

          เพื่อป้องกันการถูกหลอก ถ้ามีคนมาติดต่อขายประกันทางโทรศัพท์ ให้คุณสอบถามชื่อ นามสกุล ชื่อของบริษัทประกันภัย และเลขที่ใบอนุญาตการเป็นนายหน้าขายประกัน และถ้าคุณตัดสินใจไปแล้วไม่พอใจสามารถยกเลิกได้ภายใน 15 วัน

        
  อย่าพูดว่า "ค่ะ" "ตกลง" หรือ "สนใจ"

          ปัญหาหนึ่งที่เป็นผลจากการที่มีบริการเสนอขายประกันทางโทรศัพท์มือถือก็คือ บริษัทประกันหลายแห่งใช้วิธีการโทรศัพท์เข้าไปที่เบอร์มือถือของผู้บริโภคและชักชวนให้ทำประกันชีวิต โดยอวดอ้างว่ามีสิทธิประโยชน์มากมาย ผู้บริโภครายหนึ่งตัดความรำคาญเลยบอกว่า "ค่ะ" เพียงแค่คำเดียว ก็มีการบันทึกเสียงไว้ว่าผู้บริโภครายนั้นสมัครบริการประกันชีวิตแล้ว
พอต้องการยกเลิกก็ไม่ยอมและแจ้งว่าให้ชำระเงินงวดแรกก่อนแล้วค่อยยกเลิกภายหลัง แบบนี้ต้องไปฟ้องร้องเป็นคดีผู้บริโภคที่ศาลสถิตยุติธรรมใกล้บ้านท่านได้เลย แถมไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีอีกด้วยนะครับ เพราะไดรับการยกเว้นตามพ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 มาตรา 17 และมาตรา 18 ครับ

          อย่างไรก็ตาม คุณผู้อ่าน Lisa จำไว้นะครับ ว่าอย่าบอกรับทางโทรศัพท์ว่า "สนใจ" หรือ "ตกลง" เพราะอาจถือว่าสัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว และหากคุณต้องการยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยหรือประกันชีวิต คุณอาจต้องเสียค่ายกเลิกกรมธรรม์ตามระเบียบของบริษัทประกันก็เป็นได้ ดังนั้น ขอแนะนำว่าหากได้รับโทรศัพท์เสนอขายประกันให้ยืนยันเสียงแข็งว่า "ไม่" หรือไม่ก็ขอให้เขาส่งตัวแทนประกันมาพบเพื่ออธิบายผลประโยชน์ อย่าพูดแม้แต่คำว่า "สนใจ" เพราะอาจมีผลผูกพันท่านตามสัญญาประกันภัยทันทีเลยนะครับ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ซื้อขายประกันชีวิต... ทางโทรศัพท์ อัปเดตล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 13:39:41 3,329 อ่าน
TOP