ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา
สำรวจหัวใจบอบช้ำของ... ณัฏฐ์เทพ (ไทยรัฐ)
หล่อเกินบรรยายแต่ใครจะรู้ว่าชีวิตรักของหนุ่มณัฏฐ์เทพต้องมาพบกับรักแบบน้ำเน่าในกองถ่ายละคร เปิดใจ ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เด็กปั้นของบอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ ภายหลังใส่เกียร์ว่างเรื่องหัวใจ ปล่อยให้ รักใหม่ กับน้องแอร์-ชีสเค้กดูแลหัวใจห่าง ๆ ทิ้งเรื่องเจ็บปวดใจเล็ก ๆ กับวุ้นเส้นเป็นเพียงความทรงจำในลิ้นชัก
ล่าสุดไทยรัฐออนไลน์จับหนุ่มหล่อของเอ็กแซกท์มาซอกแซกดูซิว่า นอกจากเรื่องงานละครแล้ว เขาจะมีเวลาไปทำงานอื่นอะไรอีกหรือไม่อย่างไร
ประเมินผลงานของเราที่ผ่านมามีอะไรที่ต้องแก้ไข เพิ่มเติมอะไรบ้าง
ณัฏฐ์ : ในเรื่องของการแสดงน่ะครับ ก็คิดว่า ยังสามารถที่จะพัฒนาไปได้อีก ต้องเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ เพราะว่าการแสดงมันไม่มีที่สิ้นสุด เวลาเปลี่ยนบทปุ๊บทำการบ้านใหม่ ก็ต้องทำความเข้าใจกับบทใหม่ คือ มันเล่นเหมือนเดิมไม่ได้ ฉะนั้นการแสดงถ้ามันไม่ซ้ำกันมันก็จะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ๆ เป็นการเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ทำการบ้าน เปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวเอง รายละเอียดในการแสดง
ให้คะแนนตัวเองเต็ม 10
ณัฏฐ์ : สัก 7 ก็แล้วกัน แต่ก็ถือว่าพยายามเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังมีบางที มาดูเทปแล้ว รู้สึกว่าน่าจะใส่รายละเอียดมากกว่านี้นิดนึง แต่ด้วยความที่บางทีอาจจะเป็นเพราะว่า ณ จุดนั้นมีสิ่งที่เราคิดมากกว่า อาจจะเป็นเรื่องของบท เรื่องของคิว ทำให้ใส่รายละเอียดได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร
ในแง่ของละครเวที
ณัฏฐ์ : ละครเวทีจะต่างกับละครทีวีโดยสิ้นเชิง คือยากกว่า พลาดไม่ได้ เพราะว่าบทมันต้องเป๊ะ คิวทุกอย่างต้องเป๊ะ ต้องจำว่าจะเดินไปตรงไหน อะไรยังไงบนเวทีจะมีมาร์ค มีการปรับเปลี่ยนของฉากใช้การซ้อมเยอะ จนบทมันซึมเข้าไปในสมอง แบบว่าพูดออกมาโดยอัตโนมัติ แบบว่าเค้าพูดอย่างนี้มาเราต้องตอบแบบนี้กลับ ถึงจุดนั้นเราไม่ได้กังวลกับบทแล้วกังวลกับการทำอารมณ์มากกว่า
วิจารณ์ข่าวตัวเองที่ผ่านมา
ณัฏฐ์ : ผมเองเป็นคนปกติธรรมดา มีอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง แต่ถามว่าในช่วงนึง คนมาโฟกัสกับเรื่องชีวิตส่วนตัวเรามากกว่างานที่เราทำ ผมว่านักแสดงทุกคนคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้น คงอยากจะให้โฟกัสในเรื่องงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว แต่ถามว่าเป็นไปได้ไหมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว คนสมัยนี้ก็อยากจะรู้ว่าชีวิตของนักแสดงเป็นอย่างไร ไปถึงไหนแล้ว ความรัก ชีวิตส่วนตัว เป็นอะไรยังไง ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องถูกจับตามอง ผมก็ชิน มันเป็นเรื่องปกติ ถามว่าหลัง ๆ ก็พยายามที่จะให้ความสำคัญในเรื่องของงานมากกว่า พยายามจะให้ลดความสำคัญในเรื่องส่วนตัวไปให้น้อยที่สุด เพราะว่าอยากให้คนมาโฟกัสกับงานของเรามากกว่า มองว่าตอนนี้ณัฏฐ์ทำอะไรอยู่ ณัฏฐ์มีละครเรื่องอะไร เป็นอย่างไง เล่นแล้วชอบไหม ผมว่าตรงนั้นคือสิ่งที่ผมต้องการมากกว่าที่จะให้มาดูว่า คนนี้ไม่เหมาะ คนนี้คบแล้วไม่ดี อย่างโน้นอย่างนี้
น้อยใจไหมเวลาข่าวในด้านลบกรอบใหญ่ แต่ว่าเรื่องงานกรอบนิดเดียว
ณัฏฐ์ : มันเป็นเรื่องปรกติไปแล้ว เพราะว่าสมัยนี้มีหนังสือแทบลอยด์ มีหนังสือกอสซิปเยอะ นักข่าวต้องทำงานหนักขึ้น ผมก็เข้าใจน่ะในอารมณ์นึง แต่ว่าน้อยใจไหมก็มีบางอารมณ์ครับ แต่ว่าเราเข้าใจมากกว่า รู้ว่ามันเป็นอย่างนี้ แล้วมันก็เลี่ยงไม่ได้บางทีแต่ว่าเราก็ต้องทำให้งานโดดเด่นด้วย ไม่ใช่แบบว่าให้เรื่องส่วนตัวโดดเด่นกว่า
นอกจากเล่นละครเราทำอะไรบ้าง
ณัฏฐ์ : เล่นกีฬาเป็นหลักเลย เล่นฟิสเนส เล่นเว็บบอร์ด เล่นบีบีกัน แล้วที่บ้านจริง ๆ แล้วผมทำธุรกิจ 2 อย่าง คือมีสนามบีบีกันอยู่ที่ถนนราชพฤกษ์ ตรงแถว ๆ พระราม 5 ชื่อว่า ราชพฤกษ์บีบีกัน อยู่ตรงข้ามกับโฮมโปรเลย คนปกติทั่วไปธรรมดาไม่เคยเล่นก็ไปเล่นได้ เพราะมีอุปกรณ์มีทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้ให้อยู่แล้ว และก็เปิดร้านอาหารให้คุณแม่ที่อาคารเมืองไทย-ภัทรสุทธิสาร ตรงข้ามกับธนาคารธนชาติ เป็นร้านขายอาหารไทยเป็นหลัก อาหารฝรั่งบ้าง มีข้าวไก่อบ ข้าวหมูอบ ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ มะกะโรนีอบชีส มีหลายอย่างและก็มีกาแฟด้วย คือเปิดให้คุณแม่เป็นร้านเล็ก ๆ คุณแม่เค้าจะได้ไม่เหงา
คุณแม่ว่ายังไงบ้างเข้ามาวงการนี้
ณัฏฐ์ : คือคุณแม่รู้อยู่แล้วว่ามันก็เหมือนกับสูญเสียความเป็นส่วนตัว แล้วก็อีกนัยนึงคือต้องเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชน เพราะว่าบางทีมีเด็กที่ชื่นชมเราและก็เอาเราเป็นแบบอย่าง เพราะฉะนั้นการวางตัว การพูดอะไร หรือทำอะไรก็ต้องระวังนิดนึง คุณแม่ก็คอยเตือน ดูแล ให้คำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา บางทีเวลาท้อใจในเรื่องของข่าวเค้าก็ให้กำลังใจ
เข้ามาวงการกี่ปีแล้ว
ณัฏฐ์ : 3 ปีแล้วครับ
รู้สึกว่ามีคนมาสนใจตอนไหน
ณัฏฐ์ : ถ้าเป็นช่วงแรกก็คงเป็นช่วงโฆษณาครับ ตอนนั้นผมทำงานประจำอยู่ ก็เริ่มมีงานอีเวนท์ อันนั้นคือช่วงแรก ช่วงที่สองก็คือละคร ละครเรื่องแรกก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ คนก็ยังไม่ค่อยจำได้ จนมาเรื่องที่สองเรื่องความลับของซุเปอร์สตาร์ เป็นเรื่องที่คนจำได้เยอะมาก และก็เป็นอะไรที่คนเริ่มหันมาให้ความสนใจเราในเรื่องของการแสดงมากขึ้น
พูดถึงละครเรื่องจับตายวายร้ายสายสมร เล่นกับ แท่ง-ศักด์สิทธิ์
ณัฏฐ์ : เคยแต่เจอกันตามงานเอ็กแซกท์ เจอกันตอนไปออกรายการสามหนุ่มสามมุม ก็จะเจอพี่แท่ง ก็เป็นพี่ชายคนนึงพอมาทำงานร่วมกันพี่แท่งเป็นคนน่ารัก สบาย ๆ เป็นกันเอง ตอนแรกเราคิดว่าพี่แท่งดังมาก เค้าหยิ่งหรือเปล่า เราจะทำงานด้วยยากหรือเปล่า แต่ไม่เลย พี่แท่งเป็นคนน่ารัก เค้าจะสอนเราเวลาคิวบู๊ เพราะผมไม่เคยเล่นมาก่อน
บี-น้ำทิพย์ ล่ะ
ณัฏฐ์ : ก็แฮปปี้ทำงานเข้าใจกันดี แต่ผมกับพี่บีก็ไม่ค่อยเข้าฉากกันด้วยเท่าไหร่แต่ก็โอเค เคยร่วมงานกันในละคความลับของซุเปอร์สตาร์ ซึ่งเล่นเป็นกิ๊กกัน
ทีมงานละครล่ะ
ณัฏฐ์ : เป็นอีกทีมนึงเลย เป็นทีมของยูม่าโดยตรง ดูแลนักแสดงดีมากครับ เรื่องอาหารการกิน เรียกว่าเจริญ คือของกินเยอะมาก ช่วงแรก ๆ มาอยู่กองน้ำหนักขึ้น 5 โลผมต้องรีบเอาออก แล้วก็ทีมงานการถ่ายทำทุกอย่างก็จะเป็นอีกแบบนึง ปรกติใช้ 3 กล้องตัดสลับกัน แต่ที่นี่ใช้ 2 กล้องเรคคอร์ดพร้อมกัน เพราะฉะนั้นการทำงานก็เป็นอีกสไตล์นึง เราก็ต้องปรับตัว แต่เรื่องของการให้เกียรตินักแสดง การดูแลนักแสดง ทุกอย่างโอเคมาก ๆ เลย ตอนแรกเราก็คิดออกมานอกบ้านเราก็กังวล เค้าจะดูแลดีไหม พอมาเจอกองนี้รู้สึกแฮปปี้มาก
ข่าวความรักที่เลิกไปให้บทเรียนอะไรบ้าง
ณัฏฐ์ : คงเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตในวงการ เพราะว่าเมื่อก่อนเราก็ไม่ค่อยรู้อะไร ถามอะไรก็บอกหมดจนบางทีรู้สึกสูญเสียความเป็นส่วนตัวเยอะ หลัง ๆ รู้สึกว่าจะพูดตามที่เราสบายใจพอ และอีกอย่างก็คือ การที่คบใครในวงการหรือการที่จะคบใครนอกวงการก็แล้วแต่ การที่อยู่ตรงนี้ต้องระวัง ต้องคิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไร
คุณบอยติงบ้างไหม
ณัฏฐ์ : ก็นิดนึงเค้าก็อยากให้คนโฟกัสเรื่องการแสดง งานละครมากกว่าเรื่องส่วนตัว เค้าไม่อยากให้เป็นข่าวมาก แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมายแค่เตือน ๆ เฉย ๆ
มุมมองของเราก่อนเข้าวงการกับตอนที่ได้มาสัมผัสแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
ณัฏฐ์ : ไม่เหมือนกันเลยครับ ผมไม่เคยคิดว่าจะก้าวเข้ามาในวงการนี้ด้วยซ้ำ และการเข้ามาเป็นเหมือนการจับพลัดจับพลูมากกว่า แต่ว่าในเมื่อเข้ามาแล้วตอนแรก ๆ เราก็ยังไม่แน่ใจว่าเราจะทำไปได้หรือเปล่า พอเรามาตรงนี้เต็มตัวรู้สึกว่าต้องเต็มที่ ได้โอกาสที่หลาย ๆ คนที่อยู่ในสังคมซึ่งอยากจะก้าวเข้ามาอยู่ตรงนี้ เพราะฉะนั้นเราทำให้เต็มที่ให้ดีที่สุดดีกว่า
ถ้าเรามีใครสักคนเราจะเผื่อใจสักหน่อยไหม
ณัฏฐ์ : เดี๋ยวนี้คนไทยก็แบ่งรับแบ่งสู้แล้ว เราต้องทำใจไว้เลยไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว อย่างที่เคยคาดหวังไว้มาก ๆ ตอนนี้เวลาคบใครก็ไม่คาดหวังอะไร ไปเรื่อย ๆ ตามธรรมชาติ เวลาผิดหวังจะได้ไม่เจ็บมาก
กับวุ้นเส้นยังสามารถร่วมงานกันได้ไหม
ณัฏฐ์ : ได้ครับ ทุกวันนี้ก็ยังมีงานกันบ้าง ยังเจอกันอยู่ และก็เป็นเพื่อนกันได้แล้ว ถึงจุดที่โอเคเราพร้อมที่จะเป็นพื่อนกันได้ ก็คุยกันบีบีคุยกันบ้าง
กับน้องแอร์ ชีสเค้ก
ณัฏฐ์ : ก็คุย ๆ กันละครับ อยากให้เวลาตัดสิน เป็นเรื่องอนาคตนะครับ ตอนนี้บอกอะไรไม่ได้
นิยามความเป็นณัฎฐ์
ณัฏฐ์ : ก็เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ถ้าเจอที่ไหนก็มาทักได้ เป็นคนปกติธรรมดา เป็นมนุษย์คนนึง เพียงแต่ภาพหน้าฉากเราเป็นนักแสดง แต่จริง ๆ ผมก็เป็นคนธรรมดา เจอกันก็เข้ามาทักทายพูดคุยได้ ง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่มีอะไรมาก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
