บอย ปกรณ์ ตั้งทนายเตรียมเข้าชี้แจง ปปง. ปมซื้อแลมโบกินี่
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
บอย ปกรณ์ ตั้งทีมทนายเตรียมเข้าชี้แจงต่อ ปปง. กรณีซื้อรถแลมโบกินี่จาก นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคดียักยอกเงิน สจล.
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีคำสั่งอายัดรถแลมโบกินี่ ของ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ดารานักแสดงชื่อดัง เพื่อรอการตรวจสอบถึงที่มาที่ไป หลังพบว่า บอย ปกรณ์ ได้ซื้อต่อรถคันดังกล่าวมาจาก นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีลักทรัพย์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยมี นายภาดา บัวขาว หรือ โอ๊ต พราด้า เป็นคนกลางในการซื้อขาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืนยันแล้วว่า บอย ปกรณ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี เนื่องจากราคาที่ซื้อมาเหตุมีผล เส้นทางการเงินที่นำมาซื้อรถก็เป็นเงินส่วนตัวของ บอย ปกรณ์ อย่างชัดเจน รวมถึงก่อนหน้านี้ บอย ปกรณ์ ไม่มีประวัติเคยโอนเงินแก่กลุ่มผู้ต้องหาในคดีนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (13 มกราคม 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 มีรายงานว่า บอย ปกรณ์ ได้ตั้งทีมทนายเพื่อเข้าชี้แจงต่อ ปปง. ในกรณีซื้อรถแลมโบกินี่จากนายกิตติศักดิ์แล้ว และมีความพร้อมที่จะเข้าชี้แจงถึงที่มาที่ไปของรถคันดังกล่าว
โดย บอย ปกรณ์ เผยว่า เอกสารที่จำเป็นนั้นก็คือเอกสารชุดเดียวกับที่เคยเข้าชี้แจงกับตำรวจ แต่จะลองประสานเข้าไปทาง ปปง. เพื่อดูว่าต้องใช้เอกสารใดเพิ่มเติมบ้าง ช่วงนี้รอจังหวะที่ว่างจากงานเพื่อนเข้าชี้แจง เพราะจากการปรึกษาทนาย ทราบว่าหากมีเอกสารพร้อมก็สามารถเข้าชี้แจงได้ทันที โดยไม่ต้องรอหมายจาก ปปง. ซึ่งจะพยายามเข้าไปให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้รายงานเปิดเผยว่า สาเหตุที่ บอย ปกรณ์ ไม่ถูกตั้งข้อหารับของโจรในกรณีที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องมาจากนายกิตติศักดิ์เป็นผู้ซื้อรถคันนี้มาจากบริษัท คาร์แม็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกต้อง ไม่ผิดกฎหมาย เพียงแต่เงินที่นำมาซื้อเป็นเงินที่มาจากการยักยอก ซึ่งไม่เกี่ยวกับ บอย ปกรณ์ ที่นำเงินส่วนตัวมาซื้อต่อ
ขณะที่หลักฐานซึ่ง บอย ปกรณ์ มีอยู่ในตอนนี้ ยังอาจนำมาฟ้องเพื่อเรียกเงินคืนจากนายกิตติศักดิ์ได้ เพราะในสัญญาข้อสุดท้ายระบุว่า หากรถคันนี้เกี่ยวกับการกระทำผิด ขอให้นายกิตติศักดิ์คืนเงินให้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม บอย ปกรณ์ รับว่า ต่อให้ฟ้องนายกิตติศักดิ์ แต่ก็ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายจะมีเงินมาใช้คืนหรือไม่
