x close

สิ่งที่ควรทำ ในการวางแผนงานแต่งงาน

แต่งงาน

แปลและเรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หลังจากพบเจอประสบการณ์ตื่นเต้นในงานหมั้นมาหมาด ๆ สำหรับบ่าวสาวมือใหม่หลาย ๆ คู่ ที่ยังมีความไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ในการวางแผนการแต่งงานของคุณ มาทางนี้เลยค่ะ วันนี้เรามีคำตอบมาให้

1. วางตารางเวลางานแต่งงาน

          สิ่งสำคัญสิ่งแรกที่คุณควรคำนึงถึงคือ ระยะเวลาของการหมั้น ควรจะทิ้งช่วงระยะเวลาห่างจากงานแต่งงานนานเท่าไหร่ เรื่องนี้ควรคำนึงถึงหลักความเป็นจริงให้มากที่สุด ว่าคุณจะต้องใช้เวลาเตรียมงานแต่งงานนานเท่าไหร่ มีอะไรที่คุณต้องทำก่อนงานแต่งงานบ้าง แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว คู่แต่งงานโดยทั่วไปมักเว้นระยะห่างงานหมั้นและงานแต่งงานไปประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปีครึ่ง

          แต่ถ้าคุณอยากหมั้นและแต่งงานในระยะเวลาใกล้เคียงกัน คุณควรจะต้องมั่นใจว่า ทุกอย่างที่จะต้องทำก่อนและในงานแต่งงาน สามารถทำได้ทันในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ อย่าทำให้งานแต่งงานของคุณ มาหลอกหลอนให้คุณหัวปั่น ต้องรีบทำอะไรจนคุณอาจประสาทเสียไปกับงานแต่งงานของคุณ และทำให้คุณไม่ประทับใจไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ค่ะ

2. คำนึงถึงรูปแบบของงาน

          สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงรูปแบบของงานแต่งงานคือสถานที่ค่ะ ไม่ใช่ว่าสถานที่เป็นแบบหนึ่ง แล้วคุณอยากได้รูปแบบงานอีกแบบหนึ่ง (ไม่ว่าจะเป็นงานในโรงแรมหรูหรืองานในสนามหลังบ้านก็ตาม) ซึ่งก็จะทำให้งานดูแปลก ๆ ไป ตกลงกับคู่หมั้นของคุณให้เรียบร้อยว่าจะจัดงานแต่งงานที่ไหน แล้วค่อยหาว่าสถานที่ ๆ คุณเลือกเอาไว้นั้น เหมาะสมและสะดวกสำหรับจัดงานในวันและแบบที่คุณกำหนดหรือไม่ค่ะ

3. วางแผนงบประมาณในการจัดงานที่จะเกิดขึ้น

          อีกเรื่องหนึ่งที่คุณควรจะต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก นั่นก็คือเรื่องงบประมาณในการจัดงานนั่นเอง ซึ่งจะเป็นตัวจริงที่จะกำหนดขนาดและรูปแบบของงานแต่งงานของคุณ มาดูกันดีกว่าปัจจัยใดบ้างที่จะทำให้คุณต้องใช้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

          - พิธีที่เป็นทางการ : ยิ่งพิธีแต่งงานมีความเป็นทางการมากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ซึ่งคุณก็จะต้องคำนึงถึงรูปแบบงาน ของตกแต่ง และอาหารภายในงานด้วยนะคะ

          - วันและเวลา : ช่วงที่ราคาค่าสถานที่จะแพงมาก จะเป็นช่วงวันเสาร์, ตอนเย็น, ช่วงหน้าร้อน นั่นเอง เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากเปลืองค่าใช้จ่ายมากกว่าปรกติ ก็ควรหลีกเลี่ยงเวลาเหล่านี้นะคะ

          - สถานที่ : เช่นกัน ยิ่งสถานที่ใหญ่มากเท่าไหร่ อยู่ในเขตเมือง เดินทางสะดวกสบายมากแค่ไหน ก็ยิ่งต้องมีค่าใช้จ่ายมากเท่านั้น

4. กำหนดวันแต่งงาน

          การกำหนดวันแต่งงานนั้น ยากกว่าที่คุณคิดไว้มากนะคะ มีหลาย ๆ สิ่งที่คุณต้องตัดสินใจ เช่น ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเตรียมงานแต่งงาน วันแต่งงานของคุณ ไปตรงกับวันรับปริญญา วันพักร้อน หรือวันกำหนดคลอดของคนในครอบครัว ญาติ หรือแขกเหรื่อของคุณหรือไม่ แถมยังจะต้องตัดสินใจเลือกสถานที่, อาหารจัดเลี้ยง และวงดนตรีที่คุณพึงพอใจให้วันว่างตรงกันอีก ซึ่งบอกเลยว่าสิ่งพวกนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ที่คุณจะต้องคำนึงถึงจนอาจต้องก่ายหน้าผากแน่นอน หากจะต้องจัดคิวให้ลงตัวเป๊ะค่ะ

          อ่อ! แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงวันที่มีการจัดงานงานแสดงสินค้า คอนเสิร์ต หรืองานนิทรรศการใหญ่ ๆ ด้วยนะคะ เพราะอาจจะมีปัญหารถติด เดินทางลำบาก ซึ่งอาจจะทำให้แขกเหรื่อที่มาร่วมงานของคุณไม่ประทับใจได้ค่ะ ดังนั้น เราขอแนะนำเลยว่าให้คุณเขียนลิสต์สิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพื่อจะได้รู้ว่า ต้องทำอะไรอย่างไร และเมื่อไหร่ค่ะ

5. ประกาศกำหนดงานหมั้นของคุณ

          คุณอาจจะตัดสินใจติดต่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น, นิตยสารสำหรับศิษย์เก่าของสถาบันที่คุณเรียนอยู่ เพื่อประกาศข่าวงานหมั้นของคุณ อย่าลืมถามถึงค่าใช้จ่ายในการลงประกาศด้วยนะคะ และก็อย่าลืมหาหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อหนังสือพิมพ์ใหญ่ ๆ เผื่อไว้ด้วยก็ดีนะคะ หรือหากคุณไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ก็ลองหาเว็บไซต์สำหรับลงปประกาศงานหมั้นและงานแต่งงานฟรีก็ได้ค่ะ


แต่งงาน

6. เลือกรายชื่อเพื่อนและญาติ ที่คุณคิดจะให้พวกเขามาช่วยงานแต่งงานของคุณ

          และแล้วก็มาถึงเวลาที่คุณจะบอกเพื่อนสนิทมิตรสหาย และวงศาคณาญาติของคุณ เกี่ยวกับงานแต่งงาน ยิ่งคุณบอกพวกเขาเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถขอความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ จากพวกเขาได้เร็วเท่านั้น และจำให้ขึ้นใจว่า การมาช่วยเหลืองานแต่งงานของคุณนั้น อาจทำให้พวกเขาเสียเวลาและเสียเงินทองที่จะมาช่วยเหลือคุณ ดังนั้น บอกพวกเขารู้ถึงกำหนดการและแผนการทั้งหมดของคุณ และคุณควรจะแสดงออกให้พวกเขาเห็นว่าคุณชื่นชมพวกเขาจากใจที่มาช่วยเหลืองานของคุณ

7. เตรียมรายชื่อของแขกที่จะมาร่วมงาน

          ก่อนที่คุณจะเลือกรายชื่อของแขกที่จะมาเข้าร่วมงานแต่งงานของคุณ คุณควรจะกำหนดจำนวนของแขกที่มาร่วมงานเสียก่อน ซึ่งการกำหนดจำนวนนั้น คุณควรดูจากสถานที่จัดงานแต่งงานของคุณ (แน่นอนว่าคุณไม่สามารถอัดคนกว่า 300 คน ในเรือนกระจกเล็ก ๆ ได้) หากคุณพ่อคุณแม่ของคุณยืนยันหนักแน่นว่าคุณต้องเชิญเพื่อน ๆ และ ญาติ ๆ มาเป็นจำนวนมาก คุณก็ควรจะรับฟังท่านให้มาก ๆ โดยเฉพาะถ้าพวกท่านเป็นคนช่วยคุณออกเงินส่วนใหญ่!! แล้วจงจำไว้อีกว่า เมื่อคุณเชิญเพื่อนและญาติมากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายก็จะยิ่งสูงมากเท่านั้น เพราะฉะนั้น คุณควรจะจัดระบบรายชื่อแขกเหรื่อที่ควรเชิญมา ให้เหมาะสมกับขนาดของสถานที่และเงินที่คุณพึงจะจ่ายได้ค่ะ

8. เลือกผู้ช่วยจัดงานแต่งหรือออร์กาไนซ์ช่วยจัดงานแต่งงาน

          หากคุณและคู่แต่งงานของคุณเป็นคู่ที่มีงานหรือธุรกิจยุ่งสุด ๆ แนะนำให้คุณใช้บริการผู้ช่วยจัดงานแต่งงาน หรือบริษัทรับจัดงานแต่งงานโดยเฉพาะ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของคุณ ผู้ช่วยหรือบริษัทเหล่านี้จะช่วยเหลือคุณในเรื่องของการจัดหาสถานที่ เลือกบริษัทจัดเลี้ยง ลิสต์รายชื่อแขกเหรือ ไปจนถึงวางแผนไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันเลยทีเดียวค่ะ

9. เริ่มเสาะหาชุดแต่งงาน

          มันไม่เร็วเกินไปหรอกค่ะ ที่จะเริ่มหาชุดแต่งงานของคุณตั้งแต่งานหมั้น เพราะเชื่อว่ากว่าคุณจะได้ชุดที่ถูกใจ คุณอาจต้องใช้เวลาพอสมควร เริ่มต้นการค้นหาชุดโดยเลือกแบบที่เข้ากับคุณทั้งรูปร่างและความเป็นตัวคุณ เพื่อที่จะทำให้คุณดูดีที่สุดในวันแต่งงาน เลือกแบบสเกตช์ทั้งโครงสร้าง, คอเสื้อ, ชายกระโปรง และสี ที่จะทำให้คุณดูสวยโดดเด่นที่สุด

          ฤดูกาลก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน หากคุณแต่งงานในหน้าร้อน คุณควรที่จะเลือกชุดแต่งงานที่ทำมาจากผ้าบางเบา เช่น ชีฟอง, ลินิน หรือ ผ้าโปร่ง แต่ถ้าหากคุณจัดงานแต่งงานในช่วงหน้าหนาว คุณควรเลือกชุดแต่งงานที่ทำมาจาก ผ้าปักดอก, ผ้าขนเฟอร์ หรือผ้ากำมะหยี่ ซึ่งจะทำให้คุณอบอุ่นขึ้น ส่วนผ้าซาติน, ผ้าแพร และผ้าไหมนั้น คุณสามารถนำมาใช้ได้ทั้งปีค่ะ

          หวังว่าเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรานำมาฝากวันนี้ คงช่วยคุณเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ไม่มากก็น้อยนะคะ


เรื่องราวผู้หญิง ความสวยความงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย 
 

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สิ่งที่ควรทำ ในการวางแผนงานแต่งงาน อัปเดตล่าสุด 7 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 11:24:46 1,254 อ่าน
TOP