x close

รักหวานฉ่ำแบบฉบับ ภัคจีรา - มธุกร พสวงศ์

โอ๋ ภัคจิรา

รักหวานฉ่ำแบบฉบับของความพอดี ภัคจีรา - มธุกร พสวงศ์ (Woman’s Story)

          หากใครไม่เคยแต่งงาน คงไม่รู้ว่าความรู้สึกของการเป็นเจ้าสาวเป็นอย่างไร...ไม่ง่ายนักที่เราจะ ได้เจอกับรักแท้ เจอคู่ชีวิตที่ดีอย่างที่ใจวาดหวังไว้ แต่พรหมลิขิตก็มักจะมาอย่างถูกที่ถูกเวลาเสมอ วันนี้เรามีโอกาสได้เข้าไป เจาะลึกหัวใจรักของดาราสาวมากความสามารถ โอ๋- ภัคจีรา วรรณสุทธิ์ ซึ่งเธอได้ผ่านบททดสอบชีวิตมาอย่างมากมาย จนทำให้หัวใจของเธอแข็งแกร่งยิ่งนัก

          แต่แล้ววันหนึ่งหัวใจแกร่ง ๆ ดวงนี้ก็ต้องหวั่นไหว เพราะความรักจากผู้ชายอบอุ่น เฟี้ยต-มธุกร พสวงศ์ ทายาทเจ้าของร้านทองฮั่วเซ่งเฮง...เรื่องราวความรักครั้งนี้ของทั้งคู่จะ หวานชื่นจนน่าอิจฉาขนาดไหน เราไปติดตามกันเลยค่ะ..

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักครั้งนี้มาพบเจอกันได้อย่างไรคะ

          โอ๋- ภัคจีรา : ตอนเจอกันครั้งแรก ก็ไปเจอกันที่ร้าน ๆ หนึ่ง ซึ่งโอ๋ไปบ่อยมากค่ะ(ยิ้ม) ก็วันนั้นไปเที่ยวกันนี่แหละ ก็ไปเจอเพื่อน ๆ แล้วเพื่อนของเพื่อนเราก็รู้จักกัน ตอนนั้นพี่เฟี้ยตเค้าก็ยังไม่ได้เข้าไปทำงานที่ร้านทอง ก็ทำงานที่อื่นก่อน เลิกงานแล้วก็เลยออกมาเที่ยวกับน้อง ๆ ก็เลยได้เจอกันค่ะ (ยิ้ม) ได้ทำความรู้จักกัน แล้วก็ได้มีโอกาสคุยกัน จุดเริ่มต้นเรื่องราวก็เริ่มตั้งแต่รู้จักกันตรงนั้นเลยแหละ

แล้วครั้งแรกที่เจอกันความรู้สึกตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้างคะ

          โอ๋- ภัคจีรา : จริง ๆ เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยนะ แต่รู้ว่าเป็นพี่ชายของเพื่อน ตอนแรกที่เจอก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร ก็รู้สึกเหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง แต่พอได้คุยกัน เราก็รู้สึกว่าคุยกันแล้วมันสนุก เข้าใจกันดี คือนิสัยเค้าอาจจะเหมือนผู้หญิงหน่อย ๆ ด้วยความที่เค้ามีพี่น้องผู้หญิงเยอะ (หัวเราะ) ก็เลยคุยกันสนุกสนาน คุยกันรู้เรื่องเข้าใจดี

หลังจากวันนั้นมีการสานความสัมพันธ์กันต่อไปอย่างไรบ้างคะ

          โอ๋- ภัคจีรา : หลังจากวันนั้น เราก็เจอกันบ่อยขึ้น เป็นระยะ ๆ ที่ร้านนั้นแหละ(หัวเราะ) เพราะเราไปบ่อย ๆ อยู่แล้ว ก็ได้เจอกันไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นแฟนกันไปเลย เหมือนยังไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน (ขำ) มันไม่นานนะ รู้สึกเหมือนแป๊บ...เดียวเอง ก็เป็นแฟนกันแล้ว น่าจะประมาณ 2-3 เดือนนะตอนนั้น ก็เจอกันบ่อย จนเป็นแฟนกันเลย แล้วช่วงนั้น เวลาที่โอ๋ถ่ายละคร เค้าก็จะแวะไปหาตามกองถ่ายบ้าง ประมาณนี้อ่ะค่ะ (ยิ้ม)

          โอ๋- ภัคจีรา : ช่วงที่คบกัน เราก็เป็นแบบเรียบง่าย เหมือนกับทุก ๆ คู่ค่ะ คบกันไปเรื่อย ๆ ไม่ได้หวือหวาอะไร ก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป คุยกัน ใครมีปัญหาอะไรก็ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไข แล้วช่วงนั้นเราก็ต่างคนต่างทำงาน มันก็เลยทำให้ได้คุยกันเรื่องงาน แลกเปลี่ยนเรื่องงาน ส่วนชีวิตส่วนตัว เราก็เริ่มได้คุยกันมากขึ้น คือเริ่มมีชีวิตที่เรียกว่าเป็นแฟนกันอ่ะค่ะ คุยกันเรื่องส่วนตัว ไปกินข้าว ดูหนัง ปกติมาก ๆ ค่ะ

อะไรที่ทำให้คุณโอ๋มั่นใจว่าจะหยุดอยู่ที่ผู้ชายคนนี้คะ

          โอ๋- ภัคจีรา : ตรงนี้โอ๋รู้สึกว่าผู้หญิงทุกคน มันเหมือนได้รับการให้เกียรติในการขอแต่งงานอ่ะ แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังมากมายขนาดที่ว่าคบกับใครแล้ว เค้าต้องมาขอเราแต่งงานขนาดนั้น แต่คิดว่าผู้หญิงเราหากคบกับใครไปนาน ๆ มันก็ต้องมีความหวังที่จะแต่งงาน (ยิ้ม) ตรงนี้เป็นเรื่องธรรมดา แล้วโอ๋ก็รู้สึกว่า เค้าเองก็ต้องตัดสินใจเหมือนกัน กับการที่จะเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต เราเองก็ต้องตัดสินใจ แล้วสำหรับโอ๋ที่ตัดสินใจเลือกเค้า เพราะเค้าให้เกียรติเรา เราคบกันมาซักระยะหนึ่ง ก็ประมาณ 3 ปีแล้ว เราก็รู้สึกว่าเค้าเป็นทั้งพี่ เป็นทั้งเพื่อนที่ดีของเรา เค้าก็คงจะเป็นสามีที่ดีได้เหมือนกันก็เลยโอเค ก็ตัดสินใจว่าจะหยุดที่คนนี้แล้ว (ยิ้ม)

อย่างนี้มีเหตุการณ์การขอแต่งงานเกิดขึ้นไหมคะ

          โอ๋- ภัคจีรา : ไม่มีนะ (หัวเราะ) เป็นการคุยกันแบบปกติมากกว่าว่าจะแต่งงานนะ คือ เค้าก็บอกโอ๋มาหลายครั้งแล้วว่า เค้าอยากแต่งงาน คือด้วยความที่เค้าเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านด้วย เค้าก็คงจะเป็นคนที่วางสเต็ปชีวิตว่าอยากแต่งงาน มีลูก มีครอบครัว เหมือน ๆ กับผู้ชายทั่ว ๆ ไปแหละค่ะ แล้วเค้าก็คงคิดว่าจะมาหยุดที่เรา เรื่องแต่งงานเราก็คุยกันมาซักระยะหนึ่งแล้ว จนวันหนึ่งโอ๋ถามพี่เฟี้ยตว่า พี่จะแต่งงานจริง ๆ เหรอ เพราะยังไม่ได้บอกแม่ ไม่ได้บอกใครเลย เรื่องแต่งงานมันเป็นเรื่องซีเรียสนะ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ถึงแม้ว่าครอบครัวโอ๋เค้าจะไม่ซีเรียสก็ตาม แต่ด้วยความที่โอ๋เป็นคนที่ใคร ๆ รู้จัก มันก็ยากเหมือนกันที่อยู่ดี ๆ จะแต่งปุ๊บปั๊บ เดี๋ยวคนก็จะหาว่าท้องก่อนแต่งอีก (หัวเราะ)

          โอ๋- ภัคจีรา : เราก็เลยมีความรู้สึกว่าเราต้องวางแผนนะ ต้องแพลนคิวงานด้วย อยู่ดี ๆ จะมาแต่งปุ๊บปั๊บมันยาก ทั้งในการเชิญแขก เตรียมงาน ทุกอย่าง ตรงนี้คือความคิดเรา แต่เค้าก็ยังยืนยันว่าจะแต่งงาน แล้วเค้าก็โทรไปบอกแม่ว่าจะขอโอ๋แต่งงานนะ แม่ก็ยินดีด้วย (ยิ้ม) หลังจากนั้นก็ไปดูฤกษ์ แล้วก็มาบอกคุณแม่พี่เฟี้ยต เท่านั้นแหละคุณแม่พี่เฟี้ยตก็บอกว่า เอ้ย...เรื่องนี้มันสำคัญนะ จะไปดูกันเองได้ไง คุณแม่ก็เลยพาไปดู สุดท้ายก็ได้ฤกษ์วันที่ 22 พฤษภาคมค่ะ

ความรู้สึกแรกที่นึกได้ว่าจะแต่งงานจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไรคะ

          โอ๋- ภัคจีรา : บอกคำเดียวเลยว่ายุ่งมากค่ะ เพราะมันไม่ได้ทันรู้สึกว่าตื่นเต้นอะไร คืออย่างที่บอกว่างานแต่งงานเรามันกระชั้นชิดมาก มีเวลาเตรียมงานน้อยมาก แล้วโอ๋ก็ยังต้องถ่ายรายการตลอดเวลา อย่างการ์ดเชิญก็ยังต้องเอาไปแจกที่ธุรกิจกองถ่าย ซึ่งจริง ๆ ใจเราก็อยากไปเชิญด้วยตัวเองนะ แต่ด้วยเวลาที่มีมันน้อยมาก เพราะตอนนั้นเรารู้ว่าได้ฤกษ์วันที่ 22 พฤษภาคม ตอนเดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคมด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น มันมีเวลานิดเดียวในการเตรียมงานทุก ๆ อย่าง ทุกอย่างมันเร่งมาก ๆ เราก็เลยรู้สึกว่ายุ่งมากกว่าที่จะรู้สึกตื่นเต้น (หัวเราะ)

 



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

ติดตามบทความทั้งหมดในฉบับที่ 244


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รักหวานฉ่ำแบบฉบับ ภัคจีรา - มธุกร พสวงศ์ อัปเดตล่าสุด 28 เมษายน 2553 เวลา 11:19:13
TOP