x close

โตโน่ ยันไม่คิดลบรอยสักคู่ แตงโม พร้อมเคลียร์ข่าวกิ๊ก เกรซ เดอะสตาร์


โตโน่ ภาคิน

              โตโน่ ภาคิน เผยไม่คิดลบรอยสักคู่ แตงโม ภัทรธิดา ชี้เป็นรอยสักที่มีความหมายในช่วงชีวิต ยืนยันไม่ได้กิ๊ก เกรซ เดอะสตาร์ เข้าใจเรื่องกระแสข่าว พร้อมเคลียร์ทุกประเด็นดราม่าแบบหมดเปลือก

              เรียกได้ว่าเป็นบุคคลในกระแส ที่ไม่ว่าขยับตัวทำอะไรก็กลายเป็นที่สนใจตลอด สำหรับนักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน หรือ โตโน่ เดอะสตาร์ หลังเลิกรากับนางเอกสาว แตงโม ภัทรธิดา แล้วเป็นประเด็นฮอตไปก่อนหน้านี้ และยังมีประเด็นดราม่าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ลบหรือไม่ลบรอยสักคู่กับแตงโม ข่าวลือเรื่องกิ๊กกับสาว เกรซ เดอะสตาร์ หลังหนุ่มโตโน่เดินทางไปเยี่ยม จนแตงโมออกมาโพสต์คล้ายตัดพ้อ เรื่องเม้นท์ใน IG แฟนคลับสาว ๆ แถมมีรูปถ่ายคู่พริตตี้ และกระแสข่าวอื่น ๆ อีกเพียบ ! ล่าสุด (27 กรกฎาคม 2558) หนุ่มโตโน่ ก็ได้ออกมาเปิดใจ ชี้แจงกับสื่อมวลชนแบบเคลียร์ชัดทุกประเด็น ดังนี้

ดูสดใสขึ้น เป็นอย่างไรบ้าง สภาพจิตใจดีขึ้นหรือยัง

             โตโน่ ภาคิน : ก็มีความสุขดีครับ เพราะว่าก็ทำงานด้วย แล้ววันนี้ก็เป็นงานที่ผมไม่ค่อยถนัด แล้วแฟน ๆ มากันเยอะแยะเลย มาดูผมเดินแบบ ผมก็รู้สึกเกร็ง ๆ ครับ

ดีใจไหม แฟน ๆ มากันแน่นเลย

             โตโน่ ภาคิน : ก็ดีใจครับ เพราะว่าเราก็ทำงานทุกวัน นาน ๆ คงทีได้มีโอกาสรับงานแบบนี้ ก็ดีใจที่ได้เจอพวกเค้า เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วตอนนี้ผมกับวงก็ทัวร์คอนเสิร์ตตอนกลางคืน นาน ๆ จะได้มาในผับ เอ๊ย ! มาในห้าง ก็ดีใจที่ได้เจอกับน้อง ๆ เพราะบางคนเขาก็ตามไปในที่ที่เราเล่นไม่ได้

แล้วสภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้าง ถือว่า 100 เปอร์เซ็นต์ไหม

             โตโน่ ภาคิน : ผมเข้มแข็งดีครับ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ จริง ๆ ผมก็ 100 เปอร์เซ็นต์ มาตั้งแต่แรกแล้วครับ ต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงผม แต่ว่าเรารู้ดีว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เรารู้ดีว่าเรากำลังทำเพื่อใคร ดังนั้นก็ไม่ต้องห่วง ผมตั้งใจทำงานให้มันเต็มที่ ผมรู้นะว่างานพวกนี้หรือชื่อเสียงพวกนี้ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอดหรอก แต่ในเมื่อเราได้เกิดมาทั้งที และเราทำงานตรงนี้ เรามีหน้าที่ตรงนี้ ไม่ว่าเขาจะรักเรานานหรือไม่รักเรานาน แต่หน้าที่ของเราคือทำให้เขามีความสุขที่สุด พัฒนาตนเองให้ดีที่สุด ตั้งใจให้มันดีที่สุด กับทุก ๆ งาน ทุก ๆ โอกาสที่มันเข้ามา ผมอยากจะทำเพื่อพวกเขา เพื่อพ่อแม่ เพื่อน้องสาวของผม

ตอนนี้กับแตงโม มีโอกาสได้พูดคุยกันบ้างไหม ได้ถามไหมว่าสภาพจิตใจเขาเป็นอย่างไรบ้าง

             โตโน่ ภาคิน : ก็มีบ้างนะครับ ถ้าโมไลน์มา ไม่ได้คุยกันเยอะครับ

ณ ตอนนี้ ถือว่ายังมีความรักให้กันอยู่ไหม

             โตโน่ ภาคิน : ก็อย่างที่ผมบอกไปครับ ที่เคยบอกไปตั้งแต่ครั้งสัมภาษณ์ตอนนู้น

เราไปเก็บของมาหมดเรียบร้อยหรือยัง

             โตโน่ ภาคิน : ของยังไม่หมดครับ ของเยอะ (เห็นว่าเราค่อย ๆ ทยอยเอามาบางส่วน ?) ใช่ครับ วันนั้นก็จะไปเอานั่นแหละ เรื่องของที่มันยังเหลืออยู่ เดี๋ยวก็จะไปทยอยขน

ถามถึงเรื่องแหวน ก่อนหน้านี้เห็นว่าโน่ทิ้งแหวนไว้ที่บ้าน ?

             โตโน่ ภาคิน : แหวนอยู่กับผมสิครับ ไม่เคยทิ้ง แหวนอยู่กับตัวผมครับ

ถ้าโน่ต้องกลับไปเอาของ แล้วต้องเจอเค้า เราพร้อมจะเจอไหม

             โตโน่ ภาคิน : ก็เจอได้ครับ แต่ว่าจริง ๆ แล้ว ผมว่าไปตอนที่พร้อม คือถ้าไปแล้วยังต้องรู้สึกหรือ... ก็อย่าเพิ่งก็ได้ครับ แล้วแต่ เอาที่สบายใจดีกว่าครับ

เห็นว่าตอนนั้นคุณพ่อแตงโมไปคอนเสิร์ตด้วย ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ?

             โตโน่ ภาคิน : ใช่ครับ ถึงแม้ว่าสถานะจะเปลี่ยนไป ระหว่างผมกับคุณพ่อโส แต่ไม่ได้หมายความว่าผมกับคุณพ่อต้องเกลียดต้องโกรธกันครับ

ที่โมไลน์มาหาเป็นอย่างไรบ้าง

             โตโน่ ภาคิน : ก็มีคุยบ้างตามปกติครับ ว่าวันนี้เขาทำอะไร หรืออะไรอย่างนี้

เรื่องรอยสักตกลงว่าอย่างไร จะลบหรือเปล่า

             โตโน่ ภาคิน : ผมยังไม่คิดจะลบอะครับ

โตโน่ ภาคิน

เหมือนเรายังเก็บไว้เป็นความทรงจำ ?

             โตโน่ ภาคิน : รอยสักพวกนี้ มันมีความหมายกับตัวผม แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับว่ารอยสักนี้จะมาดึงชีวิตใคร หรือจะมาทำให้ใครคิดต่อไปต่าง ๆ นานา ได้นะครับ คือนี่มันเป็นรอยสักที่... จริง ๆ มันก็อยู่บนตัวผม แล้วถามว่ามันมีความหมายในช่วงชีวิตนึงของผมไหม มันก็เป็นรอยสักที่มีความหมายในช่วงชีวิตนึงของผมครับ ผมเลยไม่ได้ดูซีเรียส ไม่ได้รู้สึกว่า มันจำเป็นต้องลบต้องอะไรครับ

กลัวว่ามองกลับไปแล้ว มันจะย้อนไปถึงเรื่องราวเก่า ๆ ไหม

             โตโน่ ภาคิน : ไม่นี่ครับ เพราะว่าเรื่องราวเก่า ๆ สำหรับผมแล้ว มันไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่ผมจำเป็นจะต้อง... ผมไม่ได้... ผมพูดไปหมดแล้วอะครับ

เหมือนโมเขาพูดว่า ถ้าเราหมดรักแล้ว ทำไมไม่ลบรอยสัก ?

             โตโน่ ภาคิน : โมพูดเหรอ ? คือผมไม่เชื่อว่าโมพูด ผมไม่เชื่อว่าโมพูดอย่างนั้นออกมา เพราะจริง ๆ พูดกับผมเลยก็ได้

ก่อนหน้านี้มันมีดราม่าออกมา เรื่องที่เราไปเยี่ยมน้องเกรซ แล้วโมขึ้น IG ตัดพ้อเรา

             โตโน่ ภาคิน : ไม่คิดว่าจะมีปัญหาครับ เพราะว่าน้องก็เป็นน้องสาวเราจริง ๆ แล้วเขาก็เจ็บหนักด้วย

ตอนนี้หลายคนเลยโยงไปว่าพี่โน่กิ๊กกับน้องเกรซหรือเปล่า

             โตโน่ ภาคิน : ไม่ใช่ครับ ผมจะไปกิ๊กกับเกรซได้ยังไง แล้วเกรซก็เจ็บหนักมากนะครับ ตอนนี้จมูกยังไม่ได้กลิ่นเลย กว่าจะใช้เวลาสมานกะโหลกก็ 6 เดือน แล้วน้องผมโตมากับรุ่นเดียวกัน น้องเจ็บหนักขนาดนั้น ผมจะต้องกลัวเป็นข่าวด้วยเหรอ กับการที่ผมไปเยี่ยมน้องผม ถ้าผมกลัว มันคงไม่ใช่ผมหรอกครับ น้องผมเจ็บ ผมก็ไป เท่านั้นเอง

น้องโดนโยงไปแล้วว่าเป็นมือที่สาม

             โตโน่ ภาคิน : โดนโยงมันก็คือโดนโยงจากสื่ออะครับ ที่พี่เห็นว่ามันน่าจะเป็นไปได้หรือว่า ถ้ามันจะทำให้มันเป็นประเด็นได้ มันก็อาจจะทำได้ แต่ว่า ผมจะบอกว่ายังไงดีพี่ ชีวิตของเรา เราใช้ชีวิต ครอบครัวก็คือครอบครัว เพื่อนก็คือเพื่อน ระหว่างผม แม้กระทั่งคุณแม่เกรซหรือตัวเกรซรู้นี่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น รู้ว่าเราเป็นยังไง ดังนั้นข่าวเนี่ย คนจะเข้าใจหรือจะเขียนอะไรไปยังไง มันก็เขียนกันได้หมดแหละครับ วันนึงเขียนว่าผมมีขาอยู่ขาเดียว ก็ต้องมีคนมาถามผมว่า โตโน่มีขาเดียวจริงมั้ย ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาอะครับที่มันจะเป็นประเด็นเป็นอะไรขึ้นมาได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เรากำลังทำอะไรอยู่ต่างหาก ผมก็เลยรู้สึกว่า ผมอยากทำแต่ละวันให้มันดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ เราไม่รู้ว่าวันข้างหน้ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง แต่ในเรื่องของข่าว ในเรื่องของกระแส จะมีคนไม่เข้าใจ จะมีคนเข้าใจผิด ผมว่ามันเป็นไปได้หมด มันเป็นธรรมดาของสังคม แต่มันไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องไปคอยพูดทุกอย่างเพื่อให้เขาเข้าใจเรา หรือเพื่อให้เขามารักเราหรอก แต่หน้าที่ของเราคือ การกระทำของเราต่างหาก ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่

ห่วงความรู้สึกของน้องเกรซไหม

             โตโน่ ภาคิน : น้องเข้มแข็งดีครับ แล้ววันนั้นก็หัวเราะ ก็ได้เห็นเค้ายิ้มได้ครับ

โตโน่ ภาคิน


น้องแกรนด์ก็โดนโยงมาด้วย กลายเป็นทุกคนโดนโยงมาหมดเลยกับโตโน่

             โตโน่ ภาคิน : ตอนนี้ผมอยู่กับใครก็คงจะอันตรายมั้งครับ (คงต้องทำตัวให้ชินใช่มั้ยตอนนี้) ก็... ไปกินข้าวกับผมซักมื้อมั้ยครับ แล้วเราก็ถ่ายรูป แล้วเราก็ลง IG กันเนอะ เดี๋ยวผมจะทำมืออย่างงี้ แล้วก็มีหัวใจ จะได้เป็นข่าวขึ้นมา ว่าผมเป็นแฟนกับนักข่าว คือว่าจะให้ผมทำยังไง ผมก็ยังหายใจอยู่ ผมมีชีวิตของผม แต่ว่าถ้าผมทำให้ใครเดือดร้อนเพราะมาอยู่ใกล้ผม ผมต้องขอโทษด้วยครับ แต่ว่า... มันไม่ใช่น่ะครับ ในตอนที่ชื่อเสียงก็มี มีทุกอย่าง ผมยังกล้าบอกว่าผมรักเลย ทุกวันนี้ถ้าผมทำอะไรทำไมผมจะไม่พูด ดังนั้นมันไม่ได้เกี่ยวหรอกครับว่ามันคืออะไร ในชีวิตผม ผมรักพวกพี่นะครับ (บอกนักข่าว) แต่คือเรื่องของการใช้ชีวิตตามสื่อเพื่อให้คนพึงพอใจ โดยที่มันไม่ได้มาจากใจเรา แล้วต้องโกหกคนอื่นเขาน่ะ มันอายตัวเองอะครับ อย่าไปทำ ผมก็ทำไม่เป็นหรอกครับ

เรื่องที่ไปเม้นท์สาวปริศนาที่ถ่ายรูปคู่ด้วย ?

             โตโน่ ภาคิน : ผมก็มีแฟนคลับผู้ชายเขาถ่ายรูปกับผม ผมก็ไปเม้นท์ แต่มันไม่เป็นข่าวครับ (มีรูปหัวใจ) ถ้าพี่ไปดูจริง ๆ อะ มันไม่มีอะไรเลย เรามีเวลาเราก็เม้นท์ เจอรูปใครเขาแท็กเรามาเราก็เม้นท์ อย่างที่ผมบอกแหละว่า อาจจะอยู่ยากหน่อย อยู่ใกล้ใครก็อาจจะเป็นเรื่องได้ แต่ผมก็ยังใช้ชีวิตของผมอะเนาะ ผมก็จะพยายามระวังแล้วกันนะครับ ถ้ามันมีอะไรไม่เข้าใจผมก็จะมาตอบแล้วกันครับ

แล้วเรื่องรูปกับแฟนคลับที่ว่าเป็นพริตตี้ล่ะ

             โตโน่ ภาคิน : ผมไม่สนใจหรอกครับว่าแฟนคลับของผมเขาจะทำอาชีพอะไร ไม่ว่าเขาจะทำงานอะไร เขามีเกียรติของเขา แล้วผมก็รักพวกเขา ผมก็อยากจะให้พวกเขามีความสุขแค่นั้นเอง


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โตโน่ ยันไม่คิดลบรอยสักคู่ แตงโม พร้อมเคลียร์ข่าวกิ๊ก เกรซ เดอะสตาร์ อัปเดตล่าสุด 28 กรกฎาคม 2558 เวลา 14:06:43 21,862 อ่าน
TOP