10 วิธี หยุดกังวล (รักลุก)
ธรรมชาติของผู้หญิงจะวิตกกังวลได้ง่าย ไหนจะเรื่องงานทั้งในบ้าน นอกบ้าน เรื่องลูก ฯลฯ สารพัดปัญหารุมเร้า แต่ถ้ากังวลจนถึงขั้นนอนไม่หลับ หรือมีอาการปวดศีรษะ ปวดหลัง ร่วมด้วย ระวังนะคะ เพราะหมายถึงกังวลจนเครียดเกินปกติแล้วค่ะ
The National Mental Health Association มีเทคนิคง่าย ๆ ช่วยคลายความกังวล ดังนี้ค่ะ
1. ปฏิเสธบ้างก็ได้ หลายคนพูดคำว่า "ไม่" ไม่ค่อยจะเป็นเลยต้องรับเรื่องของคนโน้นคนนี้ไปทั่ว คราวหน้าถ้ามีใครขอร้องให้ทำอะไร หากเหลือบ่ากว่าแรงหรือไม่พร้อมก็ปฏิเสธบ้าง บอกเขาไปว่าคุณอยากช่วยเหลือนะ แต่ไม่ค่อยมีเวลาเลยจริง...จริง
2. ไม่ต้องเป็นฮีโร่ สำหรับคุณแม่ working mom งานบางชิ้น ต้องหาตัวตายตัวแทนค่ะ ไม่ใช่เป็นฮีโร่แบกรับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่คนเดียว ดูว่างงานไหนที่พอจะยกให้คนอื่นทำได้ ก็ปล่อยให้เขาทำแทนบ้าง
3. คิดทีละเรื่อง ถ้าคุณแม่กำลังจับงานชิ้นไหนอยู่ก็จงจดจ่อกับงานชิ้นนั้นค่ะ อย่าเพิ่งไปกังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึงหรืองานอื่น ๆ ที่กองพะเนินรออยู่บนโต๊ะ เพราะมีแต่จะเครียดกับเครียด
4. บริหารเวลา การรู้จักบริหารจัดการกับเวลา เช่น การเผื่อเวลาไว้สักนิดสำหรับข้อผิดพลาด เพราะงานบางอย่างอาจต้องมีการแก้ไข ที่สำคัญอย่าผัดวันประกันพรุ่งเป็นอันขาดค่ะ
5. หาเวลาพัก ในแต่ละวันควรเจียดเวลาคลายเครียดสัก 20 นาที ด้วยการนั่งในที่เงียบ ๆ หรือจะเปิดดนตรีสบาย ๆ คลอไปด้วยก็ได้ หรือหากิจกรรมอื่นที่ช่วยให้สงบทำแทนก็ได้ค่ะ เช่น งานฝีมือ ออกกำลังกาย ฯลฯ แต่ไม่ควรเลือกกิจกรรมที่ต้องมีการแข่งขันนะคะ เพราะจะทำให้เครียดยิ่งขึ้น
6. เขียนและเขียน เขียนเรื่องราวที่กังวลใจลงไปในสมุดบันทึก วิธีนี้อาจช่วยให้คุณแม่ได้รู้ที่มาที่ไปของปัญหาที่แท้จริง และมองเห็นทางแก้ไขได้อย่างตรงจุด
7. เพื่อนช่วยได้ ลองบอกเล่าเรื่องที่กำลังกังวลใจกับเพื่อนสนิทดูสิคะ เพราะการพูดออกมาอาจช่วยระบายความเครียดได้ และบางทีเพื่ออาจมีคำตอบดี ๆ ให้คุณแม่อีกด้วย
8. เผชิญความกลัว ความกังวลก็คือความกลัวอย่างหนึ่ง วิธีจัดการที่ดีที่สุดคือ เผชิญหน้ากับความกลัวอย่างกล้าหาญและมั่นใจ
9. กินแก้เครียด การกินช่วยคลายเครียดได้ค่ะ แต่ต้องกินอย่างถูกต้อง จำไว้ว่าอาหารที่มีคาเฟอีนและน้ำตาลในปริมาณมาก จะยิ่งทำให้คุณแม่รู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น
10. บุหรี่ไม่ใช่ทางออก บางคนคิดว่าบุหรี่ช่วยได้ แต่รู้มั้ยว่าบุหรี่มีผลต่ออารมณ์และทำให้เครียดได้โดยไม่รู้ตัว
หากลองแก้ไขด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วยังไม่หายเครียด ต้องรีบปรึกษาแพทย์แล้วล่ะค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ฉบับที่ 328 พฤษภาคม 2553