นมข้าวอะมิโน ทางแก้ของเด็กแพ้นม (รักลุก)
การผลิตนมข้าวอะมิโนเป็นรายแรก เพื่อช่วยแก้ปัญหาเด็กแพ้นมวัวและนมอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จ และนำชื่อเสียงมาสู่วงการแพทย์ของไทยอย่างยิ่งค่ะ และยังได้รับการตอบรับอย่างมากมาย จากบรรดาเจ้าตัวน้อย ที่แพ้นมวัวและนมอื่น ๆ ด้วย
ก่อนจะมาเป็น นมข้าวอะมิโน ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ ผู้นำการวิจัยนี้ ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนวงการแพทย์คิดว่าอาการแพ้นมวัวเป็นอาการของโรคไข้หวัดบ้าง ลำไส้อักเสบบ้าง เพราะเด็กมักจะมีน้ำมูกไหลเรื้อรัง ร้องกวน และอาเจียน ซึ่งแพทย์จะรักษาตามอาการ แต่เมื่อสามารถวินิจฉัยได้แล้วว่าอาการแพ้นมวัวเป็นอย่างไร จึงมีทางเลือกใหม่สำหรับเด็กคือนมถั่วเหลือง
แต่ก็ยังมีเด็กที่แพ้นมถั่วเหลืองอยู่ ในขณะนั้น มีตัวเลือกเป็นนมโปรตีนย่อยละเอียดและนมกรดอะมิโนจากต่างประเทศ ซึ่งมีปัญหาคือราคาของนมทั้ง 2 ชนิดแพงกว่านมผงทั่ว ๆ ไป โดยนมโปรตีนย่อยละเอียดมีราคากระป๋องละ 400 บาท มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ยังแพ้นมโปรตีนย่อยละเอียดอยู่ จึงต้องหันมากินนมกรดอะมิโนจากต่างประเทศที่ราคาสูงถึงกระป๋องละ 2,000 บาท ทำให้แต่ละเดือนพ่อแม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อนมให้ลูก รวมทั้งรสชาติของนมกรดอะมิโนก็ไม่อร่อย ทำให้เด็กที่อายุมากกว่า 6 เดือนไม่ยอมเกิน
จากปัญหาเหล่านี้จึงนำมาสู่การวิจัยนมเนื้อไก่ที่มีรสชาติดีกว่า และช่วยรักษาเด็กที่แพ้นมโปรตีนย่อมละเอียดได้ถึง 80-90% แต่ปัญหาก็ยังไม่หมด เพราะยังพบเด็กที่ยังแพ้นมเนื้อไก่ และฐานะทางครอบครัวไม่สามารถซื้อนมกรดอะมิโนจากต่างประเทศได้ รวมถึงยังมีกลุ่มเด็กที่กินนมจากต่างประเทศแล้วยังแพ้อยู่ คณะวิจัยจึงได้พัฒนาต่อมาเป็น "นมข้าวอะมิโน"ในที่สุดค่ะ
กระบวนการผลิตนมข้าวอะมิโน ขั้นตอนการวิจัยนมข้าวอะมิโนนั้น คุณหมอได้มองจุดอ่อนและจุดแข็งของนมกรดอะมิโนจากต่างประเทศ ว่าทำมาจากข้าวโพด ซึ่งเป็นสาเหตุให้เด็กมีอาการแพ้ จึงเปลี่ยนจากข้าวโพดมาเป็นแป้งข้าวเจ้า ที่มีวัตถุดิบอยู่ในประเทศไทย และมีกลิ่นหอม โดยการผลิตได้ย่อยให้คุณสมบัติของแป้งเป็นน้ำตาล ซึ่งละลายน้ำได้ดี และดึงโปรตีนของแป้งข้าวเจ้าออกเกือบหมด พร้อมเติมวิตามินและเกลือแร่เข้าไป เพื่อให้มีสารอาหารครบถ้วนและมีภูมิต้านทานทั้งพรีไปโอติก และดีเอชเอเทียบเท่ากับนมผงทั่ว ๆ ไปค่ะ
จุดประสงค์เพื่อการรักษา หลังจากที่การวิจัยนมข้าวอะมิโนสำเร็จและถูกเผยแพร่สู่สาธารณะชน มีกระแสตอบรับที่ดีจากพ่อแม่ที่มีลูกแพ้นมวัว ซึ่งกำลังหาทางออกให้ลูก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่แพ้นมวัวจะสามารถมาซื้อนมข้าวอะมิโนได้เลย เพราะในการผลิตมีจุดประสงค์เพื่อการรักษาไม่ใช่จัดจำหน่ายโดยตรง ดังนั้นเด็กที่จะได้กินนมข้าวอะมิโน ต้องเข้ารับการตรวจรักษาก่อนจะจัดให้กิน ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 600 บาท แต่มีบางครอบครัวไม่สามารถจ่ายค่านมได้ทั้งหมด ก็จะคิดราคาเท่าที่จะสามารถจ่ายได้ค่ะ
ข้อจำกัดของนมข้าวอะมิโน นมข้าวอะมิโนผลิตออกมาเป็นรูปแบของเหลวเพียงอย่างเดียว จึงต้องเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง และไม่ควรนำออกมาไว้ในอุณหภูมิห้องปกติเกิน 3 ชั่วโมง เพราะนมจะเสีย และก่อนกินต้องนำมาทำให้เจือจางด้วยการผสมน้ำและค่อย ๆ เพิ่มปริมาณนมขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ลำไส้และระบบทางเดินอาหารได้ปรับตัว ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 7 วัน ถึงใช้นมในปริมาณมาก ๆ ตั้งแต่ครั้งแรก อาจทำให้เด็กท้องเสียได้ ซึ่งขั้นตอนการผลิตนมข้าวเป็นการผลิตในห้องแล็บ ไม่ได้ทำในเชิงอุตสาหกรรม อาจทำให้มีเชื้อแบคทีเรียเจือปนอยู่ในนมได้ จึงยังไม่แนะนำให้ใช้นมข้าวอะมิโนกับเด็กเล็กที่อายุ 1-3 เดือนค่ะ
ต่อยอดงานวิจัยในอนาคต ขณะนี้คุณหมอกำลังวิจัย และเปรียบเทียบระหว่างนมข้าวอะมิโนและนมกรดอะมิโนจากต่างประเทศ โดยจะร่วมทำวิจัยกันทั่วประเทศ เพื่อหาข้อดีข้อด้อยของนมทั้ง 2 ชนิด และนำมาปรับปรุงให้ดีที่สุดต่อไป ในอนาคตอันใกล้ เราอาจจะได้เห็นนมข้าวอะมิโน ในรูปแบบผงผลิตด้วยกรรมวิธีในรูปแบบอุตสาหกรรม จนสามารถส่งออกและขายไปได้ทั่วโลกค่ะ
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ฉบับที่ 328 พฤษภาคม 2553
