x close

เตือนชายนอนดึก-ลงพุง เซ็กส์เสื่อม




เตือนชายนอนดึก-ลงพุง เซ็กส์เสื่อม (คม ชัด ลึก)



          เตือนชายไทยอายุ 40 ปีขึ้นไปนอนดึก กินเหล้า-อาหารมีไขมันมาก สูบบุหรี่ อ้วนลงพุงเสี่ยงภาวะฮอร์โมนเพศชายพร่อง ระบุอาการร่างกายอ่อนเพลีย หงุดหงิด ซึมเศร้า หมดอารมณ์เซ็กซ์ แนะพบแพทย์ตรวจเลือด ขณะที่จิตแพทย์ชี้ปัญหาเซ็กซ์ไม่สมดุลทำชีวิตคู่พัง ส่วนใหญ่ชายไทยมีปัญหาหลั่งเร็ว-นกเขาไม่ขัน ด้านผลสำรวจไบเออร์ฯ เผยคนไทยสุขภาพแข็งแรงน้อยที่สุดใน 5 ประเทศเอเชีย-แปซิฟิก

          นพ.ดร.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล แพทย์ประจำหน่วยศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ ภาควิชาศัลยกรรม โรงพยาบาลรามาธิบดี แถลงผลสำรวจเรื่อง ความตระหนักในด้านสุขภาพเพศชาย หรือ ”Asia Pacific Men Heath Awareness Survey“ ของบริษัท ไบเออร์ เชริง ฟาร์มา เอเชีย แปซิฟิก ในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2551 สำรวจผู้ชาย 5 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ ไต้หวัน และไทย ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป ประเทศละ 200 คน รวมทั้งสิ้น 1,000 คน โดยใช้แบบสอบถามมีประเด็นคำถามหลัก 5 ประเด็น

          1. ผลสำรวจประเด็นคำถามเรื่องการใช้ชีวิต
พบว่าออสเตรเลียอยากมีเซ็กซ์ที่ดี เกาหลีใต้อยากมีสุขภาพที่ดี ฮ่องกงอยากมีสังคมกับเพื่อนฝูง ไทยและไต้หวันอยากมีชีวิตมั่นคง ฐานะทางการเงินที่ดี

          2. ประเด็นคำถามเรื่องประโยชน์การมีสุขภาพที่ดี คนไทยเห็นว่าป้องกันโรคได้ เกาหลีใต้เห็นว่าทำให้สุขภาพกายและจิตดี ออสเตรเลียสุขภาพดีทำให้มีเซ็กซ์ที่ดี

          3. ประเด็นคำถามเรื่องการทำให้มีสุขภาพที่ดี คนไทยเห็นว่าต้องกินอาหารที่ดี นอนหลับพักผ่อนกลางคืนให้มากที่สุด ออสเตรเลียเห็นว่าต้องมีอาหารที่ดี ออกกำลังกาย ไต้หวันต้องมีการนอนหลับพักผ่อนที่ดี และฮ่องกงให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายและอาหารที่ดีน้อยที่สุด

          4. การตรวจสุขภาพประจำปี พบว่าชายไทยไม่เคยตรวจสุขภาพประจำปีถึงร้อยละ 35 มากกว่าประเทศอื่นๆ รองลงมาไต้หวันและฮ่องกง

          5. การรับรู้เรื่องภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย ทั้ง 4 ประเทศ มีผู้ไม่ได้รับรู้ร้อยละ 51 และไทยสูงสุดร้อยละ 67 และการรู้วิธีรักษาภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย (ทีดีเอส) ทั้ง 4 ประเทศ มีผู้รู้วิธีรักษาร้อยละ 11 และไทยสูงสุดร้อยละ 20

          การสำรวจยังสอบถามถึงความกังวลเรื่องภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยชายเกาหลีใต้กังวลร้อยละ 40 และออสเตรเลียกังวลร้อยละ 38 ส่วนชายฮ่องกง ไต้หวัน และไทยมีร้อยละ19 แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความรู้แต่ไม่เคยปฏิบัติเพราะไปตรวจสุขภาพประจำปีน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชายไทยมีสุขภาพแข็งแรงน้อยกว่าประเทศอื่นๆ

          "ผู้ตอบแบบสอบถามทั้ง 5 ประเทศร้อยละ 52 ระบุว่าตนเองกำลังเผชิญกับอาการสุขภาพเสื่อมถอย ซึ่งเป็นอาการที่มีความสัมพันธ์กับภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายโดยผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป ฮอร์โมนเพศชายจะลดลงร้อยละหนึ่งทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่ดูแลสุขภาพไม่ดี นอนหลับพักผ่อนน้อย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ และมักปรากฏอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรืออีดี โรคระบบหลอดเลือดและหัวใจ ภาวะคอเลสเตอรอลสูง โรคเบาหวาน รวมทั้งภาวะโรคอ้วนลงพุงด้วย ผมเคยตรวจคนไข้ที่มีไขมันในเลือดสูงผิดปกติ จะมีภาวะฮอร์โมนเพศชายพร่อง ทำให้คุณภาพชีวิตผู้ชายลดลงอย่างมาก" นพ.ดร.สมพล กล่าว

          นพ.ดร.สมพล กล่าวอีกว่า การป้องกันและรักษาอาการภาวะฮอร์โมนเพศชายพร่องทำได้โดยการตรวจเลือดและใช้ยา หรือฉีดฮอร์โมนทดแทน อย่างไรก็ตาม การซื้อยาเพิ่มฮอร์โมนมากินเองมักจะไม่ได้ผล โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากแล้วไม่รู้ตัว เพราะไม่เคยตรวจจะยิ่งทำให้มีอาการป่วยมากขึ้น จึงควรไปพบและปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเลือดก่อน หากเลือดมีค่าพีเอสเอเกินกว่า 4% ก็อาจจะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แพทย์จะต้องดูว่ามีโอกาสหายจากมะเร็งต่อมลูกหมากแน่นอน จึงจะฉีดฮอร์โมน แต่หากป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากขั้นหนัก ก็ต้องตัดอัณฑะจึงให้ฮอร์โมนได้



          นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล จิตแพทย์ประจำคลินิกครอบครัวและสุขภาพทางเพศ โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงฮอร์โมนเพศชายลดลงเป็นผู้ที่มีอายุ 40 ขึ้นไป จากเดิมเมื่อก่อนอายุ 60 ปีขึ้นไป มีพฤติกรรมนอนดึก ตื่นสาย รวมทั้งผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนลงพุงในอาชีพต่างๆ เช่น ตำรวจจราจร ก็บ่งบอกได้ว่าฮอร์โมนเพศชายต่ำ ซึ่งจะมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรงเรียกว่าเตะปี๊บไม่ดัง หงุดหงิด ฉุนเฉียว ไม่มีความกระตือรือร้นในชีวิต ไม่มีอารมณ์เซ็กซ์ บางคนซึมเศร้า หงอยเหงา เวลาไปหาจิตแพทย์มักจะวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า

          "การป้องกันและรักษาภาวะฮอร์โมนเพศชายพร่องทำได้โดยผู้ชายต้องดูแลสุขภาพให้ดี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้พอดี ไม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และควรไปหาหมอตรวจฮอร์โมนเพศชายด้วย โดยเฉพาะคนที่นกเขาไม่ขันตอนเช้า เพราะฮอร์โมนจะหลั่งมากที่สุดช่วงเช้า รวมทั้งคนที่นอนดึกซึ่งทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลง รวมทั้งการกินยาหรือฉีดฮอร์โมน" นพ.สุกมล กล่าว

          นพ.สุกมล กล่าวอีกว่า จากประสบการณ์ในฐานะจิตแพทย์ด้านเพศที่มีคู่สามีภรรยามาปรึกษาปัญหาเรื่องเพศนั้น พบว่า ปัญหาความบกพร่องทางเพศของผู้ชายมีผลต่อชีวิตคู่ ทำให้ฝ่ายหญิงมีความทุกข์ โดยเฉพาะกรณีผู้ชายมีปัญหาหลั่งเร็ว ทำให้ผู้หญิงอารมณ์ค้าง และผู้ชายนกเขาไม่ขัน

          อย่างไรก็ตาม ผู้ชายมักจะอาย กลัวเสียศักดิ์ศรีความเป็นชายไม่กล้ามาหาหมอ ทำให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายโทรศัพท์มานัดหมอเองหรือพาตัวผู้ชายมาหาหมอ หากผู้ชายไม่ยอมมารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ก็มีถึงขั้นทำให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายขอเลิก บางคู่เลิกกันก่อนมารักษากับหมอ เพราะเรื่องของเซ็กซ์ไม่สมดุลกัน โดยสังเกตได้จากสามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่กี่เดือนแล้วเลิกกันเพราะ เมื่อมีเซ็กซ์กันแล้วไม่สมดุล เช่น ผู้ชายหลั่งเร็วทำให้ผู้หญิงอารมณ์ค้าง ผู้หญิงช่องคลอดเกร็งตัวทำให้มีเซ็กซ์ไม่ได้







ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เตือนชายนอนดึก-ลงพุง เซ็กส์เสื่อม อัปเดตล่าสุด 8 ตุลาคม 2552 เวลา 19:21:10 2,400 อ่าน
TOP