x close

แต่งงานซะที ดีไหม?




แต่งงานซะที ดีไหม? (คม ชัด ลึก)



          อย่าเพิ่งร้องยี้! แล้วเบือนหน้าหนี ที่คนหน้าตาดีแบบฉัน คิดอะไรแปลกๆ เอาป่านนี้ มีหวังแต่งเสร็จไปฮันนีมูนกันที่บ้านบางแคแหงมๆ!!

          "มีสามี(อีก) ซะทีดีไหม?" . . . ดูจะเข้ากับฉันมากกว่า แต่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ "สามี" หาง่ายยิ่งกว่าส้วมในปั๊มซะอีก แต่ "สามีดีๆ" เนี่ยสิ หายาก! ถึง...หาไม่เจอ!!

          จะดีไม่ดีไม่รู้ คบกันไปนานๆ ก็รู้เองของแบบนี้มันเหมือนรองเท้า ต้องเอาไปลองสวมทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น ลุยน้ำ ลุยฝน ลุยโคลน จน...เหยียบขี้หมาเละๆ แทนเท้านุ่มๆ ของเรา ทั้งวิ่ง ทั้งกลิ้ง หกกะล้มหกกะลุก ทนทุกสภาวะแบบนี้ถึงจะเรียกว่า "คู่แท้" แน่ใจแล้วแต่งเลยน้อง!

          แต่ที่เจอกันบ่อยๆ คือ ใส่ไปเรื่อยๆ มันเริ่มกัด เริ่มบีบ ลุยน้ำสองทีก็เปื่อย น้ำไหลเข้าเท้า ทำให้เราตีนเปื่อยอีกตะหาก ก็ยังรัก เอาไปปะไปซ่อม ฝนตกปรอยๆ ยังต้องคอยถอดออกใส่ถุง แล้วเดินเท้าเปล่า แบบว่า...รักมากไง! วันดีคืนดีถอดวางไว้หน้าบ้าน โดนมือดีฉกไปซะงั้น วันร้ายคืนร้าย ไอ้รองเท้าคู่เก่าดันกลับมาหาเราแบบไม่คาดฝัน คือมันไม่มีที่ไปหรือไม่มีใครรักมันเท่าเราก็สุดจะคาดเดา

          เอาเหอะน่า! คู่แล้วย่อมไม่แคล้วกัน แต่จะเป็นคู่บุญหรือคู่เวรก็ต้องคิดเอาเอง พระเจ้าเขาสร้างมาคู่กัน บุญทำกรรมมาทั้งนั้น เหมือนจะกำหนดด้วยตัวเราเองได้ แต่มันก็ถูกโชคชะตาและพรหมลิขิตขีดเขี่ยมาล่วงหน้า เหมือนมาลายแทงคือ ต้องหากันให้เจอ...จนเจอ...หรือจนเบลอก็แล้วแต่ บอกแล้วหาคู่ดีๆ ไม่ใช่เรื่องขี้ๆ

          เมื่อก่อน ฉันยังชอบเลือก และช่างเลือก แถมยังชอบลอง (ลองคบหาดู) ฉันรู้สึกว่าเวลามันยังเหลือให้ลองผิดลองถูกอีกเยอะ ลองดู ไม่รักจริงก็ทิ้งกันไปไม่มีอะไรผูกมัด ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงาน ความคิดช่างอิสระไม่เอาใคร เลยไม่มีใครเอาแบบทุกวันนี้ไง

          ฉันชอบคิดว่าพิธีรีตองอะไรไม่สำคัญเท่าใจของคนสองคน แต่งงานกันไป แล้วเลิก! กัน มันยิ่งแย่มันดูเอิกเกริก น่าขายหน้าจะตาย!! (ฮือ... ทีตอนอยู่ด้วยกันเฉยๆ มันไม่ขายหน้าเลย) แต่ความคิดของฉันได้เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉันมันจะแต่งงาน หลังจากอยู่ด้วยกันผ่านทุกข์ สุข โศก โหด มัน แต่ไม่ฮา มา 10 กว่าปี ก็ได้คิดว่าควรจะแต่งงานให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม และถูกต้องตามครรลองคลองธรรมที่ผู้ใหญ่เขาทำต่อๆ กันมา ฉันฟังแล้วก็ดีใจ ซาบซึ้ง แต่น้ำตาไม่ไหล เพราะเจ้าสาวไม่ใช่ฉัน ดันเป็นเพื่อนสนิท


          "แต่งซะทีก็ดีนะแก มันเป็นการให้เกียรติตัวเองและพ่อแม่แกด้วย" เคยบูชาแต่ความรัก เชื่อแต่สามี เอ้า! ไม่แต่งก็ไม่แต่ง มาวันนี้ความกตัญญูต่อตัวเองและบุพการีได้ทำให้เกิดปัญญา ยื่นคำขาดกับผัวว่า "ฉันจะแต่งงาน" โดยไม่ต้องรออีกฝ่ายร้องขอ เพราะมันคงปล่อยไปตามยถากรรม ถึงจะจดทะเบียนสมรสกันมานานแล้ว แต่การไม่ประกาศตัวต่อสาธารณชน ก็ทำให้ "ฝ่ายชายได้เปรียบ" ในการออกไป "กิ๊ก" กับใครต่อใครได้อีกนับไม่ถ้วน และไม่อยากจะนับเพราะ "ช้ำใจ" แต่อีผัวกลับ "ได้ใจ"

          "ยังไม่แต่งก็แย่งได้" หรือ "แต่งแล้วก็เลิกได้" . . . ยังคงเป็นข้อเสนอที่ท้าทาย ผู้เข้าแข่งขันหน้าใหม่ ใจสู้! ที่เรียกตัวเองว่า "กิ๊ก!!" ที่ยังคงดาหน้ามาท้าทายฝ่าย "เมียตัวจริง" อยู่เป็นระลอก

          จริงอยู่ ทะเบียนสมรสและพิธีแต่งงานไม่ได้เป็นหลักประกันของการอยู่รอดตลอดไปของคู่ผัวเมีย แต่มันคือด่านแรกของการให้ความเคารพต่อคนที่รัก ถ้าผู้ชายคนหนึ่งรักผู้หญิงคนหนึ่งอย่างจริงใจ (ในตอนนั้น) ก็ต้องมีการสู่ขอจากพ่อแม่ผู้หญิง ทำพิธีแต่งงานให้ญาติมิตรรับรู้ เพราะเราต่างก็อยู่ในสังคม จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ไม่สนโลก ความรักเป็นเรื่องของสองคน คนอื่นไม่เกี่ยว ...เรื่องของกู

          ก็ไม่ว่ากันถ้าจะเอาอย่างนั้น แต่อย่าลืมว่า วันหนึ่งข้างหน้าเราจะเป็นพ่อแม่และแบบอย่างที่ดีให้กับลูก การอยู่กันเฉยๆ แล้วเลิกกันไปเฉยๆ ในวันหนึ่งคนเสียก็คือฝ่ายหญิงอยู่วันยังค่ำ ไม่งั้นคำโบราณคงไม่มีคำว่า "ได้เสียเป็นเมียผัว" เป็นพ่อแม่ฉันก็ไม่ได้แต่งงานกัน อยู่ด้วยกันมา 40 ปีแล้ว ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ แม่ฉันคงอยากเข้าพิธีแต่งงาน เป็นเจ้าสาวสวมชุดสีขาว ที่ใครๆ ต้องพากันอิจฉา วันแต่งงานเป็นวันหนึ่งที่ผู้หญิงมีความสุขที่สุดในชีวิต (ถ้าไม่ถูกบังคับให้แต่งนะ!!)

          ถ้าความรัก มีคำว่า "ให้เกียรติ" ซึ่งกันและกันอยู่ด้วยละก็ ฉันว่างานแต่งงานก็คือวิธีหนึ่งที่แสดงออกถึงการให้เกียรติกันและกัน ระหว่างหญิงชายระหว่างพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย ญาติพี่น้อง แม้แต่แขกเหรื่อที่มาในงานก็ได้รับเกียรติให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในความรักของคนทั้งสอง

          "ถึงแม้ว่าบางคู่ที่เข้าพิธีแต่งงาน แล้วโชคร้ายต้องมาลงเอยที่การหย่าร้าง แต่คิดในแง่ดีอย่างน้อยก็เคยได้รับเกียรติที่ใครๆ ต่างใฝ่ฝัน ถ้ามันจะผิด มันก็ผิดแค่ "เลือกคนผิด!"

          งั้นคราวหน้าเอาใหม่ก็แล้วกัน แต่งงานแล้วแต่งงานอีก ผิดกฎหมายข้อไหน (วะ?!!)




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แต่งงานซะที ดีไหม? อัปเดตล่าสุด 12 ตุลาคม 2552 เวลา 15:21:40
TOP