x close

6 เรื่องต้องรู้ก่อนคิดศัลยกรรมตัดกราม-เหลากราม

ศัลยกรรมตัดกราม
         
          ศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม กับ 6 เรื่องที่สาว ๆ ต้องรู้ก่อนคิดทำศัลยกรรม ถ้าอยากมีหน้าเรียวเป๊ะแบบไม่เสี่ยงละก็ ตามมาศึกษาข้อมูลกันไว้ดีกว่าค่ะ

          หนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับใบหน้าของสาวเอเชีย ส่วนใหญ่ที่พบมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับรูปหน้าที่เห็นโหนกแก้มและกรามชัดเจน ซึ่งมองดูแล้วจะทำให้เห็นเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งในปัจจุบันนี้ใบหน้าเหลี่ยม ๆ มักจะไม่เป็นที่นิยมเท่าไรนัก เพราะทุกวันนี้ใคร ๆ ก็อยากมีหน้าเรียววีเชปสไตล์สาวเกาหลีกันทั้งนั้น ซึ่งจุดนี้จึงทำให้กลายเป็นจุดเปลี่ยนทำให้สาวหน้าเหลี่ยมทั้งหลายเกิดความไม่มั่นใจ จนต้องหันไปพึ่งการทำศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม เพื่อแก้ไขรูปหน้ากันเป็นแถว ทั้งนี้ก็เพื่อเปลี่ยนบุคลิกให้ดูดีขึ้น ซึ่งการทำศัลยกรรมตัดกรามนั้นถือเป็นทางลัดที่จะสามารถแก้ไขลักษณะของใบหน้าที่กางเหลี่ยมให้ดูเล็กลงและเรียวขึ้นได้อย่างเห็นผล อีกทั้งยังเป็นที่นิยมที่สุดในเวลานี้อีกด้วย
          ทั้งนี้สำหรับคุณสาว ๆ คนไหนที่กำลังคิดอยากจะทำศัลยกรรมตัดกราม เหลากราม ก่อนที่จะตัดสินใจทำนั้น ลองถามตัวเองดูสิว่าได้ศึกษาข้อมูลมาดีพอแล้วหรือยัง ถ้ายังละก็ วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมข้อมูลที่คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนทำศัลยกรรมตัดกรามมาฝากกันแล้วค่ะ มาดูสิว่ามีเรื่องอะไรที่คุณควรรู้บ้าง จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดยังไงล่ะคะ

ศัลยกรรมตัดกราม
         
          1. เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณควรจะเลือกโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะ รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือจะต้องทันสมัย ครบครัน และได้มาตรฐาน ซึ่งหลังจากเลือกโรงพยาบาลได้แล้ว สิ่งสำคัญคือจะต้องเดินเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจและสแกนโครงสร้างใบหน้า เพื่อทำการวิเคราะห์และประเมินผลว่าทำออกมาแล้วจะได้รูปทรงแบบใด ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้มั่นใจและเตรียมตัวให้พร้อมนั่นเอง ซึ่งในขั้นตอนนี้คุณควรจะแจ้งประวัติให้แพทย์ทราบโดยละเอียดด้วยว่าคุณมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยาอะไรหรือไม่


          2. ในขั้นตอนการผ่าตัด แพทย์จะต้องใช้ยาสลบเพื่อไม่ให้คุณรู้สึกตัว จากนั้นแพทย์จะลงมือผ่าตัดโดยมี 2 ทางเลือก ดังนี้...

          - การผ่าตัดจากภายนอกช่องปาก คือการผ่าตัดเปิดแผลจากภายนอกบริเวณใกล้ ๆ กับมุมกราม โดยแพทย์จะทำการผ่าเปิดกระดูกมุมกราม ใช้เลื่อยตัดกระดูกตามแนวที่ต้องการแล้วเอาชิ้นกระดูกที่เกินนั้นออกไป ตกแต่งมุมกระดูกให้เรียบร้อย จากนั้นจึงเย็บแผลปิด ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้เกิดแผลเป็นที่เห็นชัดได้

          - การผ่าตัดจากภายในช่องปาก คือการผ่าตัดเปิดแผลในช่องปากตรงบริเวณหลังฟันกรามซี่สุดท้าย และจะใช้เลื่อยตัดกระดูกมุมกรามออกตามแนวที่ต้องการ พร้อมกับการตกแต่งกระดูกส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย แล้วจึงเย็บแผลปิด ซึ่งวิธีนี้จะค่อนข้างยุ่งยากกว่าวิธีแรก แต่ก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะจะไม่มีแผลเป็นให้เห็น

          3. ในวันแรกที่ผ่าตัดควรงดอาหาร เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ แต่หลังจากนั้นสามารถรับประทานอาหารอ่อน ๆ ได้ อย่างเช่น นม น้ำผลไม้ ข้าวต้ม โจ๊ก เป็นต้น นอกจากนี้โดยทั่วไปแล้วหลังผ่าตัดเสร็จจะต้องนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน เพื่อรอดูอาการและทำความสะอาดแผลที่ผ่าตัดให้สะอาดที่สุด

ศัลยกรรมตัดกราม
         
          4. ในระยะแรกแผลผ่าตัดจะมีอาการบวมช้ำ ทำให้ไม่สามารถอ้าปากได้ แต่ทั้งนี้ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะอาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลง โดยช่วงนี้แนะนำให้พยายามอ้าปากบ่อย ๆ เพื่อเป็นการบริหารข้อต่อขากรรไกร ป้องกันการติดแข็งของพังผืดที่อยู่รอบ ๆ กราม นอกจากนี้หากมีอาการเพิ่มเติมอย่างอาการปวดแผล หูอื้อ ก็ไม่ต้องเครียดไปค่ะ เพราะอาการทุกอย่างจะเข้าที่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2-4 สัปดาห์ และใบหน้าจะเริ่มเข้าที่โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนค่ะ

          5. การดูแลหลังการผ่าตัด ช่วงแรก ๆ สามารถใช้ถุงน้ำแข็งประคบได้ โดยให้ทำแบบนี้ประมาณ 1-2 วัน เพื่อลดอาการบวมและเขียวช้ำบริเวณแผลผ่าตัด นอกจากนี้เวลานอนควรยกศีรษะให้สูงกว่าระดับลำตัวเพื่อลดอาการบวม อีกทั้งควรจะทำความสะอาดแผลผ่าตัดอย่างสม่ำเสมอ รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

          6. ผลข้างเคียงของการผ่าตัดกราม ที่มักพบส่วนใหญ่ก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับแผลอักเสบ ติดเชื้อ ความไม่เท่ากันของกระดูกกราม เส้นประสาทได้รับความกระทบกระเทือนอาจทำให้เกิดอาการชาตามริมฝีปาก หรือที่ร้ายแรงก็คือกระดูกกรามหัก (กรณีนี้อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดไม่ถูกต้อง ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมาก) โดยอาการข้างเคียงเหล่านี้สามารถรักษาได้ค่ะ หากมีอาการควรรีบไปปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด

          ศึกษาข้อมูลเหล่านี้กันไปแล้ว หวังว่าจะช่วยให้คุณสาว ๆ มีความรู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมตัดกราม-เหลากรามกันมากขึ้นนะคะ แต่ถ้าสาว ๆ คนไหนคิดอยากจะทำจริง ๆ ละก็ ทางที่ดีควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนจะดีที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยและความสวยของตัวคุณนั่นเองค่ะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
6 เรื่องต้องรู้ก่อนคิดศัลยกรรมตัดกราม-เหลากราม อัปเดตล่าสุด 2 มิถุนายน 2559 เวลา 14:29:10 14,511 อ่าน
TOP