10 วิธีรับมือสิว...ผิวหน้าใส (Mother & Care )
เรื่องผิวพรรณหน้าตาเป็นเรื่องน่าห่วงสำหรับผู้หญิงค่ะ แค่มีสิวขึ้นเม็ดสองเม็ดก็รู้สึกกังวลแล้วว่าใบหน้าจะหมดสวย แต่จะทำอย่างไรให้สิวหายดี แล้วไม่เป็นอันตรายต่อลูกในท้องด้วย ลองติดตามคำแนะนำเหล่านี้สิคะ
1. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสสิวบนผิวหน้าบ่อย เพราะอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจาย อันจะทำให้เกิดสิวได้มากขึ้น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ เผื่อเผลอใช้มือสัมผัสใบหน้า 2. ล้างหน้ารักษาความสะอาดวันละ 2-3 ครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำมัน แต่อย่าล้างมากจนผิวแห้ง ทำให้ผิวสร้างน้ำมันขึ้นมากกว่าเดิม เพื่อลดการระคายเคือง จนอาจเกิดการอุดตันมากขึ้น 3. หลีกเลี่ยงการบีบสิว การกด แกะสิว เพราะจะเป็นเหตุให้เดรอยดำ เกิดหลุม เป็นรอยแผลมากขึ้น และการงดบีบสิวยังช่วยลดการเกิดสิวอักเสบได้ด้วย 4. หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า การแต่งหน้า หรือใช้ครีมบำรุงมากมายโดยไม่จำเป็น และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทาบำรุงผิวบางประเภท ที่เป็นตัวกระตุ้นการเกิดสิว 5. ควรใช้ครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพราะรังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดด จะเป็นตัวกระตุ้นการเกิดสิวและรอยดำบนใบหน้า 6. ไม่ใช้น้ำอุ่นจัดล้างหน้า เพราะจะทำให้สิวอักเสบแดงมากขึ้น ส่วนผู้ที่ไม่เคยมีสิว พอตั้งครรภ์อาจเป็นสิวที่เกิดจากฮอร์โมน หลังคลอดระดับฮอร์โมนก็จะกลับมาสู่ภาวะสมดุล ก็จะหน้าใสเหมือนเดิม 7. ถ้าเป็นคนหน้ามัน แล้วมีผมปรกหน้าผาก ให้ใช้ที่คาดผม เพื่อลดการเกิดสิวบริเวณหน้าผาก 8. ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อให้ผิวชุ่มชื่น นอนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง 9. ถ้าเป็นสิวอักเสบมาก ควรปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ยา และแจ้งว่าตั้งครรภ์ด้วยทุกครั้ง โดยคุณหมออาจให้ยาปฏิชีวนะ เช่น Amoxycillin หรือยาทาเฉพาะที่ ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับลูกในท้อง 10. งดใช้ยารักษาสิว ยาบางกลุ่มส่งผลต่อลูกในท้อง มีผลข้างเคียงแก่ผู้ใช้ เช่น ยาที่ชื่อ Isotretrinoin ซึ่งอยู่กลุ่ม Teratogen ที่รบกวนการสร้างอวัยวะสำคัญของทารกในครรภ์ ทำให้ทารกเกิดความผิดปกติ หรือพิการรู้เรื่องยารักษาสิว
ยาทา ยาแต้มสิวอักเสบเฉพาะที่ เป็นยาฆ่าเชื้อ และยาทาละลายหัวสิวอุดตัน มี 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. Benzyl Peroxide กลุ่มฆ่าเชื้อสิว ห้าก่อนล้างหน้า 5-10 นาทีแล้วล้างออก ปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์ 2. กลุ่มกรดวิตามิน เอ ใช้ทากลางคืน เพราะไวต่อแสง ไม่ควรใช้ขณะตั้งครรภ์ ยากิน กลุ่มกรดวิตามินเอ (Isotretrinoin) ใช้กับสิวที่รุนแรง คือ สิวหัวช้าง สิวที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ สิวที่ทำให้เกิดแผลเป็นรุนแรง ยานี้ส่งผลทำให้ลูกพิการ เช่น ศีรษะโตหรือเล็กผิดปกติ ใบหน้าและตาผิดปกติ ปัญญาอ่อน หัวใจผิดปกติ ส่วนกลุ่มยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อสิว) คือ เตตร้าซัยคลีน (Tetracycline) ส่งผลเสียต่อตับของแม่ ทำให้ฟันน้ำนมของลูกมีสีเหลือง และมีความผิดปกติเกิดได้ยาทั้ง 2 ชนิด จึงห้ามใช้ในขณะตั้งครรภ์โดยเด็ดขาด
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.6 No.66 มิถุนายน 2553
