ชาคริต แย้มนาม รับมีปัญหากับภรรยา วุ้นเส้น วิริฒิพา พร้อมปรับจูน ยันยังรักกัน เชื่อทุกอย่างจะผ่านไปได้ หากไม่ได้ก็คงเศร้า แย้มมีทริปญี่ปุ่นกระชับรัก
ยังคงถูกจับตามองเรื่องความสัมพันธ์ของชีวิตคู่อยู่ตลอด หลังมีข่าวออกมาว่าทะเลาะกันถี่ สำหรับคู่ของพระเอกหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม และภรรยาสาวสวย วุ้นเส้น วิริฒิพา ซึ่งฝ่ายหญิงเผยว่า อยู่ในช่วงประคับประคองความสัมพันธ์ หลังเคยทะเลาะถึงขั้นแยกเตียงกันมาแล้ว
ล่าสุด (22 กรกฎาคม 2559) ทางหนุ่ม ชาคริต ก็ได้เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "อย่างที่บอกทุกคู่มีทั้งสุขและทุกข์ มีปัญหาด้วยกันทั้งหมดแหละ สำหรับผม ผมเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณ เรารู้จักกันมานานก็คงไม่ต้องพูดเยอะว่าผมเป็นคนยังไง อย่างที่บอก ความรักสำหรับผม ผมให้เต็มที่ ยิ่งเป็นการแต่งงาน การมีคู่ครอง แต่ปัญหามันมีทุกบ้าน การที่เรารักกัน ตัดสินใจแต่งงานกัน ก็เพื่อที่เราจะได้ดูแลซึ่งกันและกัน เราต้องทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น มีปัญหาเรื่องเวลา เรื่องงานที่มันเยอะ หรือของผมที่ยังต้องมีคุณแม่ที่สุขภาพไม่ค่อยจะดี ตอนนี้ผมต้องโฟกัสหลายอย่าง แต่ด้วยความที่ผมและวุ้นเรารักกัน เราก็ต้องพยายามทำทุกอย่างให้มันดี และจะต้องทำให้มันดีขึ้น"
เมื่อถามถึงสาเหตุ หนุ่มชาคริต บอกว่า "ผมไม่รู้ ผมไม่ได้ซีเรียสอะไร งี่เง่าอะ ยังไงเราก็ยังต้องการซึ่งกันและกัน ทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น สาเหตุมันเกิดจากความรัก และก็ต้องการซึ่งกันและกันด้วยกันทั้งคู่ เวลาก็ไม่ตรงกัน เอาเป็นว่าทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น มันก็เกิดจากความรัก ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรสักอย่าง แต่เราก็จะทำให้มันดีที่สุด เพราะว่าเรารักกัน ผมว่ามันก็คงไม่ใช่ผมคนเดียว คนเราตบมือข้างเดียวไม่ดัง มันก็ต้องไปด้วยกัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำอยู่ฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ มันก็เป็นเรื่องปกติครับ ถ้าบอกว่าเป็นปัญหาซ้ำ ๆ ที่เกิดขึ้น มันไม่เคยหลายครั้ง หลายครั้งคืออะไร ผมไม่เข้าใจว่าไปฟังกันมายังไง ผมก็เหมือนเดิม ไม่เคยมานั่งพูดถึงครอบครัวอะไรมากนัก มันก็เป็นเรื่องที่บ่งบอกเอง เราก็อยู่กันมานานแล้ว น่าจะเข้าใจ ผมอยู่แยกบ้านแยกห้อง เพราะงานและเวลาที่ไม่ตรงกัน"
ส่วนตัวตนต้องดูแลแม่ ต้องถนอมน้ำใจแม่ ไม่อยากให้กระทบเสี่ยงต่อการสูญเสีย มันเป็นเรื่องของงานและเวลาที่ไม่ตรงกัน ตนเองก็ต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่ และตอนนี้ก็มีคุณแม่ที่ต้องคอยดูแล ก็จำเป็นต้องถนอมน้ำใจท่าน เพราะอะไรที่มันกระทบ ตอนนี้มันก็ค่อนข้างเสี่ยงกับการสูญเสีย เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งมโนกันไปเยอะ หลายคนด้วยความที่เขาเป็นห่วง เขาก็มาพูด แต่มันอาจมากระทบถึงแม่ จึงคิดว่าหยุดไว้ตรงนี้ดีกว่า เพราะมันค่อนข้างละเอียดอ่อน มันเป็นเรื่องของเวลาที่มีน้อยด้วย แต่เราพยายามกันเต็มที่ เราทั้งคู่ก็อยากจะทำให้มันดีขึ้น ว่าจะลองไปเที่ยวกัน ก็ไปมาแล้ว มันก็โอเคดี สำหรับตอนนี้ ขอโฟกัสเรื่องการดูแลอะไรหลาย ๆ อย่างสำหรับตัวเอง และที่สำคัญคือไม่อยากมีอะไรที่มันไปกระทบกับคุณแม่
เมื่อถามถึงเรื่องปรับจูนกัน ชาคริต ก็เผยว่า "ปรับจูนไม่เยอะ ตราบใดที่ยังรักกัน หวังให้ไปตลอดรอดฝั่ง เชื่อว่าถ้าเอาความรักเป็นที่ตั้ง ทุกอย่างจะผ่านไปได้ แต่ถ้าไปต่อไม่ได้คงเศร้า คนเราถ้ามันจะอยากอยู่ด้วยกัน เราก็ต้องทำให้มันดี ปัญหานี้มีทุกครอบครัวแหละ แต่ตราบใดที่เรารักกัน เราก็อายุขนาดนี้แล้ว จะไปทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ อีเหละเขะขะ เละเทะมันก็ไม่ได้ เราต้องรับผิดชอบงาน และทุกอย่าง ซึ่งที่ผ่าน ๆ มา ผมกับพี่ ๆ นักข่าว เรารู้จักกันมากี่สิบปีแล้ว คงไม่ต้องมานั่งพูดกันเยอะ
เรื่องปรับจูนก็ต้องทั้งคู่แหละครับ ทุกคนก็ต้องหวังให้มันดีขึ้น การแต่งงานมันเป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ เราต้องการที่จะทำให้มันดีที่สุด เพราะสิ่งที่เราตัดสินใจกันตั้งแต่วันแรก มันก็เป็นเรื่องของเราสองคน อยู่ที่ว่าเราสองคนจะทำให้มันไปได้ตลอดรอดฝั่ง เราอยู่กันมาตั้ง 4-5 ปี การมีความรักและความเข้าใจเป็นที่ตั้ง ผมเชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เราต้องการให้ทุกอย่างมันดีขึ้นอยู่แล้ว ถ้ามันไปได้ตลอดรอดฝั่ง มันจะเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ และสวยงามที่สุด แต่ถ้าเกิดมันไปไม่ได้ เราทำดีที่สุดแล้ว มันก็คงเป็นเรื่องเศร้าเท่านั้นเอง แต่ว่าชีวิตคนเราก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป เราจะมาหยุดมาตายกันวันนี้ แล้วคนอื่นที่ยังอยู่ข้างหลังเราอีกหลายคนก็คงเดือดร้อน
ผมเป็นคนง้องแง้ง ก็ไม่รู้อะ ไปอ่านสิ่งที่ผมเคยพูดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เราเคยคบกันมา ทุกอย่างก็เห็นอยู่แล้วว่าผมเป็นคนยังไง ต้องปรับมั้ย ก็ไม่รู้สิ ผมไม่รู้ ผมรักเดียวใจเดียวนะ ผมยังต้องการเขาอยู่คนเดียว มันหลาย ๆ อย่าง ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันก็มีเรื่องที่โอเคตั้งเยอะ อย่ามโนกันไปเยอะเลย เรื่องลูกยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ แต่ก็ยังไม่ล้มเลิก ตอนนี้เอาทีละสเต็ปดีกว่า ถามว่ารักเขามั้ย ก็รักดิ รักเหมือนเดิมครับ"
ติดตามข่าว ชาคริต วุ้นเส้น ทั้งหมด
ภาพจาก Instagram shahkrit
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
