x close

อุทาหรณ์ ! สาวแชร์ประสบการณ์สักคิ้ว-สักปากแล้วพลาด เจ็บนี้ไม่มีวันลืม

ลบรอยสักคิ้ว
         
          อุทาหรณ์ สาวแชร์ประสบการณ์สักคิ้ว-สักปากแล้วพลาด ! เมื่อพลาดแล้วจึงต้องแก้ไขด้วยการลบรอยสัก บอกเลยเจ็บนี้ไม่มีวันลืม...

          เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยสำหรับสาว ๆ ที่เคยสักคิ้วหรือสักปากแบบถาวร ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องมีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจอย่างแน่นอน ซึ่งหากใครทำแล้วออกมาสวยก็ถือว่าโชคดีไป แต่สำหรับใครที่ทำแล้วพลาด นอกจากจะทำให้ดูไม่สวยแล้ว ยังทำให้หลายคนถึงกับจิตตกกันเลยทีเดียว เพราะนอกจากรอยสักนั้นจะอยู่กับเราไปอีกนานแล้ว ยังจะต้องเสียเงินและเจ็บตัวเพื่อลบรอยสักอีกรอบด้วย คิด ๆ ดูแล้วไม่คุ้มกันเลยล่ะค่ะสาว ๆ ดังนั้นถ้าหากใครที่กำลังคิดจะสักคิ้วหรือสักปากกันอยู่ละก็ ทางที่ดีควรศึกษาให้ดีและมั่นใจเสียก่อนว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานจะดีที่สุดค่ะ
          ซึ่งเหมือนกับอุทาหรณ์จากกรณีของคุณ ทุก ๆ วันคือวันดี ๆ ของชีวิต สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เธอเคยไปสักคิ้วสักปากมาแล้วพลาด เรื่องนี้จึงทำให้เธอเครียดมาก ๆ เพราะนอกจากจะไม่สวยแล้ว เธอยังต้องเสียเงินกับการไปลบรอยสักอยู่หลาย ๆ ครั้ง ทั้งลองผิดลองถูก เจ็บตัวหลายหน แต่สุดท้ายแล้วด้วยกำลังใจและคำแนะนำที่ดี เธอก็สามารถผ่านเรื่องราวนั้นมาได้ ทั้งนี้สำหรับใครที่กำลังเจอกับปัญหาเดียวกันอยู่ อย่าเพิ่งท้อไปค่ะ มาดูเรื่องราวและคำแนะนำดี ๆ จากเธอคนนี้กันเลยดีกว่า...

------------------------------------------------------------------------------------

          สวัสดีค่ะ เรามีประสบการณ์ที่ถือว่าเป็นช่วงที่เลวร้ายของชีวิตเพราะอยากสวยอยากงามมาเล่าให้ฟังค่ะ ก่อนอื่นออกตัวก่อนเลยนะคะว่าไม่ได้จะดิสเครดิตใครอะไรทั้งนั้น และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคลินิกอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ที่อยากเล่าเพราะหลังจากที่พลาดมา เรากลายเป็นคนที่รู้เรื่องเหล่านี้มากยิ่งขึ้น และไม่ใช่มีแค่เราคนเดียวที่เจอปัญหานี้ ! เราอยากให้คนที่ประสบชะตากรรมเดียวกับเราแล้ว Search ข้อมูลใน Google เจอว่าอยากเป็นกำลังใจให้ เราเข้าใจหัวอกคุณ เพราะเราก็เคยเครียดเป็นบ้าบอนั่งหาข้อมูลลบคิ้วจนสว่างคาตา จิตตกเครียดสุด ๆ มาแล้ว แต่เราก็ผ่านมาได้ เพราะฉะนั้นต้องสู้และจัดการกับมันอย่างถูกวิธีค่ะ

          ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่าตอนนั้นอยู่ดี ๆ เราก็อยากสักปากขึ้นมาค่ะ เพราะปากเราซีดมาก แต่ไม่ถึงกับคล้ำดำปี๋นะคะ เอาเป็นว่าถ้าวันไหนเราไม่ทาลิปสติกจะต้องถูกเพื่อนร่วมงานไล่ให้ไปทา วันนั้นวันหยุดพอดีเลยนั่งว่าง ๆ ส่องกระจกดูปากตัวเองเลยตัดสินใจไปสักเลยค่ะ เผอิญว่ามีร้านอยู่ในใจอยู่แล้ว เป็นร้านชื่อดังเพื่อนเราก็ไปสักคิ้วที่นั่นก่อนไปเที่ยวกันที่ญี่ปุ่น ดูสวยเป็นธรรมชาติมาก เราคุยกับเพื่อนอยู่นาน และดูรีวิวในเฟซบุ๊กก็ดูเข้าท่ามาก เลยจัดการโทร. ไปสอบถามและจะเข้าไปทำเลย ตอนแรก (เข้าใจว่าเป็นเจ้าของร้านรับสาย) บอกว่าให้เข้ามาเลยมีคิวว่าง เราก็ขับรถไปใกล้ถึงแล้วโทร. มาหาเราบอกว่าไม่ต้องไปที่ร้านให้ไปอีกที่หนึ่ง ด้วยความที่อารมณ์ตอนนั้นมันอยากทำ และไว้ใจทางร้านว่าเป็นร้านใหญ่โตอาจจะเปิดหลายสาขา เลยขับตามไปยังสถานที่ที่เขาบอก ซึ่งค่อนข้างไกลมาก ไปถึงก็งงว่าเป็นชื่อร้านอีกร้านหนึ่งเลย เห็นตอนแรกก็งงและคิดว่าจะถอยแล้ว แต่เขาเข้ามาทักทายเราก่อน พูดจาดีมาก เอาปากลูกมืออีกคนหนึ่งให้ดูสีสวยมาก เลยอ่อนลงและตัดสินใจแบบฉับพลันว่าเอาวะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว อุตส่าห์ถ่อมาตั้งไกล (แอบโมโหในใจว่าทำไมไม่บอกว่าส่งเรามาทำกับลูกน้องที่แยกไปเปิดร้านเป็นของตัวเอง)... (เจ็บครั้งที่ 1)

          หลังจากที่ตกลงปลงใจทำ ตกลงเรื่องราคาเสร็จสรรพ เขาก็พูดขึ้นมาว่าไม่สนใจทำคิ้วไปด้วยเลยเหรอ เอารูปคิ้วที่เขาเคยสักมาให้ดู ตอนนั้นเราไม่มีความคิดเรื่องการสักคิ้วอยู่ในหัว เลยตอบไปว่าเดี๋ยวขอให้กันคิ้วให้ดูก่อนแล้วกันค่ะตอนนี้ขอสักปากก่อน... จากนั้นก็เริ่มบรรเลงเลยค่ะ เขาแนะนำเป็นสีชมพูอมส้ม จัดแจงป้ายยาชาและลงมือสัก ขอบอกว่าเจ็บพอสมควรค่ะ ซ้ำอยู่ประมาณสามรอบถ้าจำไม่ผิด พอเสร็จก็ให้เราส่องกระจกดู เราบอกว่าทำไมขอบปากเราไม่เต็ม เขาก็บอกว่าเดี๋ยวเติมให้ แล้วก็ลงมือเติม ตอนนั้นเอากระจกให้เราดูตอนนี้ปากเราบวมแทบมองไม่ออกถึงจุดสิ้นสุดของสีแล้วเลยบอกว่าพอแล้ว (เสียดายมากค่ะ เราไม่ได้เก็บภาพตอนนี้ไว้ T_T)... (เจ็บครั้งที่ 2)

          หลังจากที่เราสักปากเสร็จ เค้าก็ถามเราว่าสักคิ้วด้วยไหม เอาเป็นแบบสไลด์พอลอกออกจะฟุ้ง ๆ เหมือนเราปัดด้วยอายแชโดว์คิ้วสวย ๆ วันไหนรีบ ๆ หยิบมาปัด ๆ ก็เสร็จ ไม่ต้องเสียเวลาเขียนคิ้วเพราะว่าเรามีโครงอยู่แล้ว เราก็เริ่มคล้อยตามเอาวะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว (รอบที่ 2) เลยตอบตกลงไป สรุปว่าเราทำทั้งคิ้วและปาก จากนั้นเขาก็มากันคิ้วเรา และวาดให้ดู เรารู้สึกว่าทรงยังไม่ค่อยสวยเท่าไร เขาบอกว่าคิ้วของเราไม่เท่ากัน ด้านซ้ายต่ำกว่า กันไปกันมาเหลือคิ้วนิดเดียว เขาก็บอกว่าเท่ากันแล้วและลงมือสัก ตอนทำคิ้วเราเจ็บมาก ๆ เจ็บกว่าตอนสักปากอีกจนต้องยกมือบอกว่าไม่ไหว เขาก็ลงยาชาเพิ่มให้ หลังจากที่เสร็จก็หมักสีทิ้งไว้ พอเช็ดออกเอากระจกให้เราดู เราตกใจมากด้านซ้ายเป็นทรงตรง ส่วนด้านขวาท้องคิ้วเป็นทรงโค้ง จะบ้าตาย เราก็รีบบอกเลยว่าทำไมมันไม่เท่ากันคะ เขาก็มาพินิจดูแล้วก็บอกว่าเติมด้านขวาให้ คราวนี้เราเจ็บมาก ๆ เพราะยาชาเริ่มหมดฤทธิ์ พอเติมเสร็จเขาบอกว่าเดี๋ยวรอบสองมาเติมเก็บรายละเอียดอีกได้ ซึ่งเราก็เข้าใจนะว่าอยากให้เป๊ะจริง ๆ ต้องมาเก็บรายละเอียด แต่ถ้าคนสักพูดแบบนี้แสดงว่ารอบแรกคงไม่สวยแน่นอน... (เจ็บครั้งที่ 3)

          เรากลับมาถึงที่พักก็รีบส่องกระจกดูตรงไฟที่สว่าง ๆ ดูไม่จืดเลยทั้งคิ้วและปาก หลังจากลอกเสร็จเท่านั้นแหละเราหาที่ลบทันที ไม่เอาแล้ว มันน่าเกลียดมาก ๆ คิ้วไม่เท่ากันอย่างแรง พอสักพักขนคิ้วขึ้นรอยสักเรามันเหินขึ้นเหนือขนคิ้วจริง ด้านซ้ายทรงตรง ด้านขวาโค้ง เราต้องเติมด้านขวาเพื่อให้มันเท่ากัน กลับกลายเป็นว่าทำคิ้วแล้วเสียเวลากว่าเดิม (ภาพหลังจากที่คิ้วและปากลอกหมด และผ่านมาระยะเวลาหนึ่งนะคะ)

ลบรอยสักคิ้ว

          น่าเกลียดมาก ๆ สีเป็นปื้น ๆ ทุเรศกว่าตอนยังไม่ทำพันเท่า เหมือนคนปากเบี้ยว เพราะช่างสักไม่เต็มขอบปาก

ลบรอยสักคิ้ว

          มันไม่เท่ากันแบบนี้เราจะใช้ชีวิตยังไง แถมดูหน้าแก่กว่าตอนไม่ทำอีก เครียดมากจนเกลียดหน้าตัวเองไปเลย

          เราจิตตกมาก นั่งหากระทู้เกี่ยวกับเรื่องลบคิ้วทั้งวัน จนเข้าขั้นหมกมุ่นเป็นบ้าเป็นหลัง จนเจอที่หนึ่งหลังจากที่อ่านอยู่นาน บอกรายละเอียดดีมาก เราเลยตัดสินใจจองโทร. จองคิวและจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับทันที (บ้ามาก) พอถึงวันเราก็ไปลบกับเขา เจ็บมาก เจ็บสุด ๆ มันแสบ เขาบอกว่าต้องรอเวลาให้น้ำยามันทำงาน มันจะจางลงเรื่อย ๆ จนครบกำหนดเวลาอีกสองเดือน มันจางลงจริง ๆ แต่นิดเดียว ย้ำว่านิดเดียว ! เมื่อเทียบกับราคาที่เสียไปกับการทำครั้งละเกือบหลักหมื่น (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน) เราเลยเข็ด พอเลย กอปรกับเราเจอกัลยาณมิตรท่านหนึ่งซึ่งน่ารักมาก เราเจอกันในคลิปดังถ้าใครจำได้ (สักคิ้วผิดคิดจนตัวตาย) เขาก็ประสบปัญหาเหมือนกันกับเรา แต่เป็นมากกว่าอีก เขาบอกว่าคนแย่กว่าเราก็มีเยอะอย่าไปคิดมาก คิดบวกมาก เขาก็แนะนำเราว่าให้เลเซอร์ออก แต่ตอนนั้นเราไม่ฟัง เพราะเราจองตั๋วแล้ว ผลเป็นไง ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไม่พอ หางคิ้วเราเป็นแผลลึกลงไปอีก... (เจ็บครั้งที่ 4)

ลบรอยสักคิ้ว

          หาเหาใส่หัวจริง ๆ ทีนี้ต้องมานั่งรักษารอยแผลเป็นเพิ่ม และกังวลว่าจะเกิดแผลคีลอยด์เพิ่ม กรรมจริง ๆ

          เราเว้นกับเรื่องนี้ไปนานหลายเดือนพอสมควรเลย ปากเรายังพอทาลิปกลบได้ แต่คิ้วต้องวาด ๆ ลบ ๆ จากที่เคยแต่งแบบง่าย ๆ  จนทนไม่ไหว เพราะต้องมานั่งแก้คิ้วทุกวัน เลยตัดสินใจไปเลเซอร์ออกหลังจากที่คุยปรึกษากับกัลยาณมิตรท่านนั้นอยู่นาน ซึ่งโชคดีมาก แถวบ้านมีคลินิกใหม่มาเปิด เราเห็นเขาติดป้ายว่าลบรอยสัก เราเลยโทร. ไปถามว่าลบรอยสักคิ้วได้ไหม เขาบอกว่าได้ เราก็นัดวันเวลาเลย เขาขอโกนคิ้วเราออก เราก็จัดให้เลยขอเจ็บแต่จบ เราสะดุ้งทุกครั้งที่ยิง เหมือนหนังยางดีดคิ้วเรา เสียไป 6,000 บาท ได้ 2 ครั้ง (ภาพประกอบน่ากลัวนิดหนึ่งนะคะ) เราส่งรูปรายงานผลให้กัลยาณมิตรเราดูตลอด (เขาลบมาหลายครั้งแล้ว) เขาบอกว่าที่คลินิกยิงแรงไป เครื่องเลเซอร์มีหลายแบบ เขาเชี่ยวชาญมาก คือหลังจากที่เจ็บมาก็ศึกษาจนพรุน เดชะบุญหลังจากที่ครบกำหนดระยะจะไปยิงรอบต่อไป ปรากฏว่าเครื่องเลเซอร์เสีย เขาคืนเงิน 3,000 ที่เหลือให้เรา แล้วจะไปลบที่ไหนล่ะทีนี้ เพราะเรากลับมาอยู่บ้าน บ้านเราก็ไม่มีคลินิกทำอะไรแบบนี้เสียด้วย เราเลยหาข้อมูลจังหวัดที่ใกล้เคียง เพราะน้องเราต้องไปเรียนทุกวันเสาร์-อาทิตย์อยู่แล้ว (เจ็บครั้งที่ 5)

ลบรอยสักคิ้ว

ลบรอยสักคิ้ว

          สองภาพนี้คือตอนที่เราไปลบที่แรกนะคะ ตอนนั้นตัดผมหน้าม้าเลย (หน้ายิ่งบาน ๆ อยู่) ช่วงนั้นเก็บเนื้อเก็บตัวมาก ทำงานเสร็จก็รีบกลับบ้าน ปล่อยเนื้อปล่อยตัว มันส่งผลกระทบไปหมดจริง ๆ ไม่อยากไปไหนเลยช่วงนั้น

          หลังจากที่หาข้อมูลคลินิกเลเซอร์ที่ใหม่ได้เราก็โทร. ไปสอบถาม และขับรถไปพร้อมน้องสาวเลยในอาทิตย์ถัดมา คลินิกดูสะอาด และยิงดีมาก ต่างกับที่แรกลิบลับ เราตัดสินใจซื้อเป็นคอร์สเลย เพราะเราถามเขาว่ายิงปากได้ไหม เขาบอกว่ายิงได้ จะทำให้สีแตกตัวและดูสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น เขาแนะนำให้เราซื้อคอร์สได้ 6 ครั้ง ยิงทั้งคิ้วและปาก ถ้าคิ้วหายก็เก็บไว้ยิงปากในราคา 5,000 บาท เราไม่ลังเลเลย เพราะที่แรกที่เราไปยิงครั้งละตั้ง 3,000 บาท ที่สำคัญคือมันมีแผลน้อยมาก ครั้งนี้เราโกนขนคิ้วเองกับมือ (พนักงานยังไม่กล้าโกนให้เรา) ที่โกนเพราะว่าอยากให้เห็นสีชัด ๆ บางทีขนคิ้วมันบัง และมีความรู้สึกว่าโกนแล้วสีมันจะเกลี้ยงกว่า แต่ถ้าไม่โกนก็ได้ พอถูกแสงเลเซอร์ขนคิ้วเรามันก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ประมาณสัปดาห์มันก็กลับมาปกติ บางทีเราก็เล็ม ๆ ปลายที่ขาวออกก็ได้ การยิงเลเซอร์ครั้งนี้เราพอใจมาก เพราะว่าไม่มีแผลเหมือนครั้งแรก และที่สำคัญคือหลังจากที่ลอกสีหลุดเกือบหมด เราคิดว่าเครื่องเลเซอร์มีผลต่อแผลจริง ๆ

ลบรอยสักคิ้ว

สีที่เหลือหลังจากที่ทำเลเซอร์คลินิกที่แรก

ลบรอยสักคิ้ว

ทำครั้งที่ 2 KKC อุดรฯ ไม่เจ็บปวดเท่าครั้งแรก แผลสวย

ลบรอยสักคิ้ว

หลังจากลอกหมด เหลือนิดเดียวดีใจมาก

          เราเว้นไปประมาณเดือนกว่า เพื่อให้ผิวได้พัก ถึงไปยิงต่อในครั้งที่ 3  แต่เป็นการเลเซอร์ครั้งที่ 2 ที่คลินิกแห่งนี้ค่ะ ขอเอ่ยนามเลยนะคะ เราไปใช้บริการที่ KKC อุดรฯ (ไม่ได้โฆษณาแฝงแต่อย่างใดนะคะ เราอยากบอกเพราะว่าตอนนี้เราหายแล้วและที่สำคัญคือสีที่คิ้วหมดแล้ว เหลือรอยกรีดเข็ม เขาก็ไม่ยิงให้บอกว่าให้เก็บไว้ยิงปากดีกว่าเสียดาย จริงใจมากจริง ๆ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ) ครั้งนี้ยังไม่ค่อยเยอะค่ะเพราะว่ามันจางลงค่อนข้างมากแล้ว ภาพนี้คือก่อนไปยิงเลเซอร์ครั้งที่ 3 นะคะลองดูว่าทำไมเราถึงต้องลบขนาดและรูปทรงคิ้วคนละเรื่องกันเลยค่ะแต่ละข้าง

ลบรอยสักคิ้ว

ส่วนภาพล่างคือหลังยิงครั้งที่ 3 ค่ะ ครั้งสุดท้ายแล้ว เพราะสีออกหมดแล้วค่ะ

ลบรอยสักคิ้ว

เราขอให้เขาโกนคิ้วออก เพราะอยากให้เอาออกแบบเกลี้ยง ๆ แอบโรคจิต

          สุดท้ายค่ะ นี่คือคิ้วปัจจุบัน และปากปัจจุบัน (ปากเลเซอร์ไปสามครั้งนะคะ) หลังจากเลเซอร์ปากก็ไม่ไหม้ ไม่ได้ลอกอะไร แต่สีกระจายออกมากขึ้น อาจจะเป็นคราบ ๆ บ้าง ก็ก่อนหน้าเยินซะขนาดนั้นเนอะ

ลบรอยสักคิ้ว

เราได้คิ้วเดิมกลับมา แถมขนดกดำกว่าก่อนทำซะอีก

ลบรอยสักคิ้ว

ภาพปากปัจจุบันค่ะ ลองเอาไปเทียบกับด้านบนแล้วอย่ากดลืมสยองนะคะ

ลบรอยสักคิ้ว

         ตอนนี้ความสุขกลับคืนมา แต่งหน้าได้สนุกเหมือนเดิมแล้วค่ะ หลังจากเครียดกับเรื่องนี้อยู่นานหลายเดือนมาก ๆ
 
          สุดท้ายนี้อยากเป็นกำลังใจให้คนที่เคยสักพลาดนะคะ เราเข้าใจดีค่ะว่ามันทุกข์ทรมานมากแค่ไหน ขอให้แก้แบบถูกวิธีค่ะ อย่าใจร้อน เราคนหนึ่งขอบายเรื่องพวกนี้ไปเลยค่ะ เจ็บนี้อีกนาน เจ็บนี้ไม่ลืมจริง ๆ ใครอยากพูดคุยกันปรึกษาได้ค่ะ เรามีกัลยาณมิตรที่เป็นกูรูเรื่องนี้ มีกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยน รู้เรื่องชนิดประเภทเลเซอร์ การลบคิ้ววิธีต่าง ๆ เรียกว่าเทพมาก เพราะพวกเราเจ็บมาไงคะ ตอนนี้เขาก็ใกล้หายแล้วเช่นเดียวกัน ก่อนหน้าหนักกว่าเราเยอะ

          ใครมีประสบการณ์ด้านนี้ก็แบ่งปันกันบ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ

------------------------------------------------------------------------------------

          เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์สักคิ้วสักปากที่สามารถเป็นอุทาหรณ์ให้กับสาว ๆ ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ทั้งนี้สำหรับใครที่กำลังกลุ้มใจกับปัญหาสักคิ้วพลาด สักปากพลาด มาดูเรื่องราวของเธอคนนี้ไว้เป็นกำลังใจกันเลยค่ะ เชื่อเถอะว่าแค่อดทนและแก้ปัญหาให้ถูกต้อง คุณก็สามารถกลับมาสวยมั่นใจได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ทุก ๆ วันคือวันดี ๆ ของชีวิต สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อุทาหรณ์ ! สาวแชร์ประสบการณ์สักคิ้ว-สักปากแล้วพลาด เจ็บนี้ไม่มีวันลืม อัปเดตล่าสุด 18 พฤศจิกายน 2559 เวลา 13:23:18 46,136 อ่าน
TOP