x close

ได๋ เปิดใจ ไม่ขอคุย นาวิน ต้าร์ อีกแล้ว

ได๋ ไดอาน่า

ได๋ ไดอาน่า ลั่นวาจา จะขอไม่คุยกับผู้ชายที่ชื่อ นาวิน ตาร์ อีกแล้ว (ทีวีอินไซด์)

          ไม่รู้ว่าเกิดราศีเดียวกันหรือเปล่า ทั้ง แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ และ ได๋ ไดอาน่า จง จินตนาการ ที่เกิด "งานเข้า" ทั้งคู่ "แตงโม" กับนักข่าวบันเทิง ส่วน "ได๋" กับ "พลอย เฌอมาลย์" และ "นาวิน ตาร์"

          วันนี้ "ได๋" ขอเลือกมาให้ทีวีอินไซด์ ได้ "อินไซด์" ไม่เพียงแต่ประเด็นร้อนที่โดนกล่าวหาว่าไปยุ่งกับนาวิน ต้าร์ ในตอนนี้เท่านั้น แต่เป็นทั้งชีวิตของเธอ

ช่วงนี้ข่าวที่ออกมามีผลกับงานในช่วงนี้หรือเปล่า ?

          ได๋ ไดอาน่า : ไม่มีค่ะ ยังทำพิธีกรรายการต่าง ๆ เหมือนเดิม มีรายการเส้นทางเศรษฐี โมเดิร์นไลฟ์ น็อกเอ้าท์ แล้วก็รายการไทยแลนด์เมคโอเวอร์ แล้วก็งานพิธีกร อีเว้นท์ต่าง ๆ ที่มีเข้ามาเกือบทุกวัน

ชีวิตของได๋ ในแต่ละวันเป็นยังไง

          ได๋ ไดอาน่า : ตื่นมาตอนเช้า พี่เค้าก็จะมาแต่งหน้าทำผมให้ที่บ้าน จากนั้นก็ไปทำงาน ถ้าว่างเยอะหน่อยก็ไปซื้อผ้าที่พาหุรัด แล้วก็ไปซื้อแมกกาซีนเตรียมตัวตัดชุด แล้วคอยตามเมลลูกค้าให้ส่งโลโก้มาเพื่อจะได้เทียบสีกับชุด

ขนาดนั้นเลยหรอ ?

          ได๋ ไดอาน่า : ใช่ค่ะ แล้วก็ตรวจดูว่ามีสคริปต์อะไรต้องแปลภาษาบ้าง ก็คือถ้าไม่ทำงาน ก็เตรียมตัวทำงานค่ะ

ช่วงนี้ไม่รับละครบ้างเหรอ ?

          ได๋ ไดอาน่า : ละครไม่มีเวลาเล่นค่ะ เพราะว่าต้องให้คิวอย่างต่ำก็ต้อง 3 วันต่ออาทิตย์ แล้วเราไม่สามารถเทให้ได้เต็ม ๆ วันขนาดนั้นค่ะ ละครเรื่องล่าสุดมี่ได๋เล่น คือ "เพียงผืนฟ้า" ทางช่อง 7 ประกบคู่กับแดน ดนัย สมุทรโคจร ส่วนหนังเรื่องล่าสุดคือ บีฟอร์ วาเลนไทน์

ถือว่าเป็นเจ้าแม่พิธีกรงานอีเว้นท์คนนึงเลยทีเดียว

          ได๋ ไดอาน่า : (หัวเราะ) บางอาทิตย์ก็มีงานเกิน 7 งาน ก็แล้วแต่ค่ะ แต่ถามว่าเม็ดเงินมันเยอะมั้ย ก็ไม่ได้เยอะมาก เพราะลูกค้าประจำด้วย เศรษฐกิจไม่ดีด้วย หนูก็มีแนวคิดว่าเวลาที่ลูกค้ามีเค้าก็จ้างหนูบ่อย ๆ พอเค้าไม่ค่อยมีหนูก็ช่วย ก็เลยกลายเป็นว่า บางที 1 วันพี่ ๆ สื่อมวลชนก็จะเห็นหนู 6 งาน แต่ที่ได้ตังค์เป็นงานเดียว ที่เหลือเป็นงานช่วย อีกอย่างหนึ่งคือหนูจะมีโปรโมชั่นให้ลูกค้าคือ 10 แถม 1 (หัวเราะ) แต่จะทำเป็นบัตรให้เหมือนกัน บางทีก็น่ารักมาก เพราะว่าจ้างเกือบทุกอาทิตย์ ยิ่งจ้างบ่อยเราก็ยิ่งลดแลกแจกแถม

งานเยอะขนาดนี้ เอาเงินไปทำอะไร ?

          ได๋ ไดอาน่า : ให้แม่เก็บค่ะ คือเวลาหนูทำงานลงเวทีปุ๊บแม่ก็จะเอาเงินไปเข้าธนาคารเรียบร้อยแล้ว

เป็นคนฟุ่มเฟือยมั้ย ?

          ได๋ ไดอาน่า : ไม่เลยค่ะ ( เน้นเสียง ) (จริงเหรอ?) จริงค่ะ

ไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนไม่ฟุ่มเฟือย ?

          ได๋ ไดอาน่า : ตั้งแต่เด็กแม่จะถามหนูตลอดว่าที่อยากได้ เพราะอยากได้หรือมันจำเป็น จำได้เลยว่าคำสอนนี้มันฝังลึกมาก ๆ ตอนที่ไปเรียนต่อแต่คุณแม่ไม่ได้อยู่ข้าง ๆ จะซื้ออะไร คำพูดแม่มันลอยมาในหัวตลอด มันก็เลยติดเป็นนิสัย ถามว่าทุกวันนี้หนูฟู่ฟ่ามั้ย ก็มีในเรื่องถ้ามันทำให้เรามีความสุข เช่น กินข้าว (ยิ้ม) หนูจำได้เลยว่าจะซื้อแบล็คเบอร์รี่ แต่คิดนานมาก เพราะคิดว่ามันเปลือง ก่อนหน้านี้หนูใช้โทรศัพท์ที่มีหนังสติ๊กรัดแล้วเอาสก็อตเทปแปะ จนเพื่อนรับไม่ได้ รวมตัวกันซื้อให้ใหม่เพราะมันนานมากแล้ว ตอนนี้ก็คิดว่าทำงานเหนื่อยเราก็อยากมีความสุขกับอะไรเล็ก ๆน้อยๆบ้าง อย่าง รถ กระเป๋า คนก็จะถามว่าทำไมไม่ซื้อรุ่นนั้นรุ่นนี้ เพราะเราไม่ค่อยได้ใช้ แต่ถ้าหนูอยู่กับพ่อแม่อยู่กับคนที่เรารักอันนั้นไม่ต้องปั้นแต่ง หนูยอมจ่ายเต็มที่

เห็นว่าตัดชุดเองด้วย ?

          ได๋ ไดอาน่า : ใช่ค่ะ คือเราไม่ใช่แค่ขึ้นไปพูด ๆ แล้วจบ แต่เราเป็นเหมือนตัวแทนองค์กรของเค้า ที่จะต้องสื่อสารกับสื่อมวลชนและลูกค้าค่ะ เราก็ต้องเอาชุดไปให้ลูกค้าดูก่อนว่าโอเคมั้ยด้วยค่ะ

ชุดที่ตัดไปงานอีเว้นท์แพงสุดและถูกสุดเท่าไหร่ ?

          ได๋ ไดอาน่า : ถ้าชุดเป็นหมื่นปุ๊บหนูจะขอสปอนเซอร์ทันที (หัวเราะ) ส่วนมากก็ 3,000 – 5,000 บาท บางงานไม่ได้ตังค์ก็ตัดให้เค้า หนูคิดว่ามันไม่ได้เป็นแค่ธุรกิจอย่างเดียว หนูอาจจะบ้างานด้วยแหละเลยอยากให้มันออกมาเพอร์เฟ็คค่ะ

งานเยอะแบบนี้ มีเวลาส่วนตัวมั้ย ?

          ได๋ ไดอาน่า : มีค่ะ อาจจะไม่เยอะเท่าคนอื่นเค้า หากมีเวลา ก็จะพักผ่อนอยู่กับบ้าน ได๋ไม่เที่ยวกลางคืน ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นว่างานใคร วันเกิดใคร ก็จะไม่ไปค่ะ เคยถามเพื่อนเหมือนกันว่าพักผ่อนทำไมต้องไปเที่ยวกลางคืน แต่งานอย่างเราถ้าพักผ่อนจริง ๆ ก็อยากอยู่เงียบ ๆ เฉย ๆ เหมือนดีท็อกซ์ เอาเรื่องในสมองออกไปไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ

วางแผนชีวิตในอนาคตอย่างไร ?

          ได๋ ไดอาน่า : คนชอบถามหนูว่าเก็บเงินไปทำอะไร ตอนเด็ก ๆ หนูก็จะตอบกับตัวเองว่าเอาไว้เลี้ยงตัวเอง ที่หนูเก็บทุกวันนี้หนูก็ว่าเกินพอแล้วแหละ ทุกวันนี้เราหันมามองพ่อแม่ แล้ว ล่าสุดแม่ป่วยค่ะ เรามีความรู้สึกว่า โอ้โหถ้าแม่เป็นอะไรไปแล้วเราไม่มีเงินรักษารู้สึกว่า เป็นลูกที่แย่มาก หรือคุณพ่อคุณแม่มีความต้องการเล็ก ๆ น้อย ๆ อยากไปเที่ยวทริปนู้นทริปนี้ เราเป็นลูกเราให้ความต้องการเค้าไม่ได้ หนูว่าเราไม่มีความรับผิดชอบ หนูเคยถามพ่อว่าทำไมต้องส่งเสียเงินให้ลูกเรียนสูง ๆ ทำไมไม่เก็บเงินเอง ส่งลูกเรียนนานาชาติ แล้วต่อนอกมันก็ไม่ใช่น้อย ๆ ใช่มั้ยค่ะ

          ได๋ ไดอาน่า : หนูคิดว่าถ้าหนูเป็นพ่อแม่คงไม่เสียเงินขนาดนี้ ถ้าสมมติเค้าไม่ได้ส่งหนูไปเรียนตอนนั้น ตอนนี้เค้าก็คงจะสบายกว่านี้ หนูก็เลยมีความรู้สึกว่าเก็บเงินไว้ก่อน ตอนนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเราเองแล้ว แต่เพื่อพ่อแม่ แล้วอนาคตจะเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที ตัวเราเองจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ เรายังมีแรงก็หาได้

คิดว่าตัวเองเป็นคนยังไง ?

          ได๋ ไดอาน่า : คือคนส่วนมากอาจจะชอบคิดว่า เราเป็นคนสนุกสนานร่าเริงไม่ค่อยอะไร เป็นคนเสียงดัง อาหมวยแจ่มใสชื่นบานตลอดเวลา แต่ว่าจริง ๆ หนูว่าหนูเป็นคนคิดเยอะค่ะ คิดเยอะมาก มีอะไรก็จะคิดต่อ แม้กระทั่งกับงานเอง คนก็จะพูดว่าทำไมเราดูซีเรียสกับงานจังเลย ก่อนขึ้นเวทีกับตอนอยู่บนเวทีและลงเวทีจะคนละคนกัน ยิ่ง 1 ชั่วโมงก่อนขึ้นเวที ใครมาคุยกับเรา ๆ จะไม่รู้เรื่องค่ะ พูดแล้วทะลุอีกหูไปเลย เพราะสมาธิเราอยู่ที่สคริปต์อย่างเดียวค่ะ ค่อนข้างจะซีเรียสมาก เป็นคนแคร์คนอื่นมากกว่าตัวเอง แล้วก็เป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยอยากยุ่งกับใคร ชอบอยู่เฉย ๆ ค่ะ

งงมั้ยอยู่ดี ๆ มีข่าวขึ้นมา เราได้เตรียมตัวเตรียมใจมั้ย ?

          ได๋ ไดอาน่า : ไม่ค่ะ คือหนูว่าทุกคนที่รู้จะรู้ว่าหนูเป็นคนไม่ชอบเป็นข่าว ชอบอยู่เฉย ๆ ค่ะ ทำงานหาเงินไป ไม่เคยคิดว่าต้องมีข่าวหรือว่าอยู่ในกระแส เพราะเราไม่ได้เป็นนางเอก

ตั้งตัวทันมั้ย ?

          ได๋ ไดอาน่า : หนูคิดว่าหนูไม่มีอะไรต้องตั้งตัว เพราะว่ามันเป็นสัจธรรมของมนุษย์ที่เราต้องเข้าใจว่ามันมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้วก็มีสัจธรรมของบันเทิงว่าข่าว ถามว่าเข้าใจมั้ยเข้าใจ แต่ยอมรับมั้ย ยากมาก เพราะว่าไม่ชินกับการที่เราทำงานแล้วตกเป็นเป้าสายตา ถามว่าเครียดมั้ยก็ต้องตอบตรง ๆ ว่าเครียด มันทำตัวไม่ถูกเหมือนกันค่ะ ก่อนนอนก็คิด พอตื่นมาก็ไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากไปตอบคำถาม หนูไม่ได้เป็นคนดังและไม่มีวันเป็นคนดังได้ เพราะหนูไม่ได้มีงานที่สร้างชื่อเสียง หนูอยากทำงานให้ดีที่สุด หนูคิดแค่นั้น

แล้วเรื่องที่เกิดขึ้น ?

          ได๋ ไดอาน่า : เอาเป็นว่าไม่มีอะไรมากกว่าส่งเมลแค่นั้นจริง ๆ ค่ะ ทุกวันนี้เป็นเพื่อนมั้ยก็เป็น แต่คุยกันอีกมั้ยไม่คุยแล้วค่ะ ( เธอเน้นเสียงจริงจัง )

เห็นบอกว่ายังเป็นเพื่อนกับพลอยได้อยู่ แต่พลอยออกมาบอกว่าไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ?

          ได๋ ไดอาน่า : แล้วแต่เค้าก็แล้วกันค่ะ ได๋ไม่พูดอะไรแล้วดีกว่า

มีงานไหนที่ต้องเจอมั้ย ?

          ได๋ ไดอาน่า : ถ้าเป็นช่วงนี้นะคะ ที่ติดต่อมาหนูปฏิเสธหมดเลย หนูใช้หลักการเดิมค่ะ ถ้าคุณจ้างเราคุณต้องเชื่อว่าเราสามารถพรีเซ็นต์สินค้าให้คุณได้ เรียกลูกค้าให้คุณได้ ไม่ใช่เพราะเรียกนักข่าวให้คุณได้

มีคนเข้ามาในชีวิตเยอะมั้ย ?

          ได๋ ไดอาน่า : ก็มีค่ะแต่หาคนเข้าใจยากค่ะ คำถามที่หนูเจอบ่อยที่สุดคือ ทำไมคุณให้ความสุขกับคนเป็นร้อยเป็นพันได้ แต่ทำไมให้ความสุขกับผมไม่ได้ หรือทำไมเมื่อกี้นี้ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ทำไมขึ้นรถมาหน้าบึ้งเราไม่พูดอะไรกับเค้า

แล้วอธิบายเค้ายังไง ?

          ได๋ ไดอาน่า : หนูก็เดินลงจากรถเพราะอธิบายไม่ได้ คนมันเหนื่อยอยู่แล้วค่ะ แล้วต้องมานั่งอธิบายอีก หนูทำไม่ได้ค่ะ

มีเวลาให้คนที่อยากเรียนรู้เรามั้ย ?

          ได๋ ไดอาน่า : ก็ให้ได้เท่าที่ให้ค่ะ ถามว่าทำงานตลอดมั้ยก็เยอะ อาจจะ 60% ของชีวิต แต่ถามว่าเวลาที่จะให้ศึกษาก็มีบ้างค่ะ แค่บางทีเรารู้สึกว่าคนปกติเค้าน่าจะดีกว่า

คุณพ่อคุณแม่สกรีนเรื่องความรักมั้ย ?

          ได๋ ไดอาน่า : พ่อกับแม่บอกว่าถ้าเจอใครที่ถูกใจอย่ากลัว จะแต่งก็แต่งเลยพ่อไม่ว่าแม่ไม่ว่า คนเราจะมีสามีกี่ครั้งก็ได้ แต่ขอให้มีครั้งละคน ถ้ามันไม่เวิร์คก็ไม่เป็นไร พ่อแม่ไม่มายด์ หนูบอกตลอดเวลาว่าหนูกลัว อยู่ในวงการเป็นอะไรที่ฉาบฉวย หนูจะบอกพ่อแม่ตลอดเวลาว่าหนูไม่แต่ง กลัวว่ามีเค้าในชีวิตแล้ววันนึงเค้าต้องไปจากเรา แต่ว่าโชคดีที่คุณพ่อคุณแม่ไฟเขียว ขอให้ลูกได้ลองอย่ากลัว ก็ดีใจที่คุณพ่อคุณแม่คิดแบบนี้

          เชื่อว่าได้ฟังเรื่องราวจากปากเธอแล้ว คงจะเข้าใจในความเป็นตัวตนของเธอมากยิ่งขึ้น ต่อไปเวลาเท่านั้น จะพิสูจน์ความจริงกับข่าวที่เกิดขึ้น


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ได๋ เปิดใจ ไม่ขอคุย นาวิน ต้าร์ อีกแล้ว อัปเดตล่าสุด 4 กันยายน 2553 เวลา 15:40:34 5,501 อ่าน
TOP