x close

ชีวิตคู่มิได้อยู่เพียงชั่วครู่

แต่งงาน

ชีวิตคู่มิได้อยู่เพียงชั่วครู่ (Teen, Kids & Family)

โดย : วาณิช จรุงกิจอนันต์

          เมื่อปีที่แล้วผมไปงานเลี้ยงฉลองงานแต่งงาน เจ้าบ่าวซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานบอกผมไว้ล่วงหน้าว่าจะเชิญผมขึ้นไปกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาว เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากสำหรับผม ผมไม่ถนัดที่จะขึ้นไปพูดอะไรอย่างนี้เลย ผมคิดอยู่ตลอดระยะเวลาที่เดินทางไปงาน คิดว่าจะพูดอย่างไรไม่ให้เชย ร้อยงานก็แทบจะทั้งร้อยงานที่ผมเคยไปมา คนที่ขึ้นมากล่าวคำอวยพรบ่าวสาวจะพูดอะไรที่ผมรู้สึกว่าเชย ๆ ทั้งนั้น
   
          แล้วผมก็คิดว่าน่าจะแต่งกลอนเตรียมไว้สักบทหนึ่ง พูดเกริ่นนำนิดหน่อยแล้วก็อ่านกลอน ผมก็เขียนกลอนสี่บรรทัด ไม่ได้เขียนหรอกครับ กลอนแค่สี่บรรทัด คิดแล้วก็จำ "ชีวิตคู่มิได้อยู่เพียงชั่วครู่ แต่จะอยู่ได้นานสักปานไหน อยู่ที่ใจเป็นหนึ่งใจถึงใจ ใจที่พร้อมให้อภัยกันและกัน" ก็เรียบร้อยลุล่วงไป คนที่มางานรวมทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวชอบกลอนที่ผมอ่าน พรรคพวกผมคนหนึ่งมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โตในบริษัทที่ใหญ่โต ปรับทุกข์กับผมในวันหนึ่งว่า จะต้องไปกล่าวอวยพรในงานแต่งงานของลูกน้อง ไม่ชอบเลย ไม่รู้จะพูดอะไรยังไง พูดอะไรไปแล้วก็เชย ๆ บอกผมว่าช่วยเขียนกลอนสั้น ๆ ให้หน่อยได้ไหม ขึ้นไปแล้วก็อ่านกลอน หมดเรื่องหมดราว
   
          ผมก็บอกกลอนสี่บรรทัดที่ผมเขียนนี่ พรรคพวกดีใจมาก บอกผมว่าจดให้ทีแล้วขอไว้เลยนะ เพราะมีเรื่องที่จะต้องขึ้นไปกล่าวอวยพรบ่าวสาวอยู่เป็นครั้งคราว ผมก็อนุญาตให้ด้วยความยินดี ผมเห็นประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญของการมีชีวิตคู่นะครับ คือประเด็นที่ว่า พร้อมที่จะให้อภัยกันและกัน
   
          ไม่มีสูตรสำเร็จใด ๆ หรอกครับ ที่จะบอกได้ว่าทำให้ชีวิตคู่หรือชีวิตแต่งงานของใครอยู่ได้ยาวยืน หรืออยู่ไปได้ตลอดรอดฝั่งไปถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร คำแนะนำคำอวยพรของใคร น้ำสังข์มนต์ศักดิ์สิทธิ์อะไรก็ไม่ได้ช่วย ตำรับตำราวิชาการที่บอกกล่าวหลักการใด ๆ ของการมีชีวิตคู่ก็ไม่ได้ช่วย มันอาจจะช่วยได้กับคู่หนึ่งคนหนึ่ง แต่อีกร้อยคู่พันคู่นั้นไม่ได้ช่วย คนนะครับ ต่างคนต่างคู่ ต่างคู่ต่างคิด และในหนึ่งคู่นั้นคนสองคนก็ไม่ได้คิดเหมือนกันเสมอไป
   
          คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของคนรุ่นผมนั้นโดยทั่วไปก็จะอยู่กันยืด ที่จะเลิกลาหย่าร้างนั้นมีน้อย ประการสำคัญมาจากระบบขนบธรรมเนียมประเพณีที่ต่อยาวนานมา ผัวมีสถานภาพหนึ่งในครอบครัว เมียก็มีสถานภาพหนึ่งในครอบ เป็นหน้าที่สำคัญของฝ่ายเมียที่จะต้องจงรักภักดี ดูแลปรนนิบัติ หาข้าวหาปลาให้กิน ยามนอนก็ปูที่หลับปัดที่นอน นวดเฟ้นกันไปจนกว่าจะหลับ สมัยนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น อาจจะยังมีอย่างนั้นอยู่บ้างแต่ก็ดูจะน้อยเต็มที

          ชีวิตคู่นั้นต้องอยู่กันด้วยความอดทนนะครับ ความอดทนของคนสมัยก่อนโดยเฉพาะฝ่ายเมียนั้นมีมากกว่าคนสมัยนี้ ขนบธรรมเนียมประเพณีความเชื่อมีส่วนกำหนดในเรื่องความอดทน ขนบธรรมเนียมประเพณีนี่ก็เปลี่ยนไปแล้ว คู่แต่งงานสมัยนี้นอกจากความอดทนจะน้อยลงแล้ว ยังมีที่ไม่พร้อมจะทนอะไรอีกเลยด้วย
   
          ความอดทนที่ว่านี้ นอกจากความอดทนในเรื่องความยากลำบากของการเริ่มต้นครอบครัวเพราะยังมีความ ขาดแคลนฝืดเคืองอยู่ อีกความอดทนหนึ่งคือการอดทนอีกฝ่ายหนึ่ง มันก็คงจะมีอยู่บ้างหรอกครับ สำหรับชีวิตคู่ของใครที่สดชื่นรื่นรมย์ตั้งแต่ต้นจนตายจาก แต่ผมไม่เคยเห็น ไม่เคยรับรู้... หรือว่าใครเคยเห็นเคยรู้ว่ามี
   
          ผมแต่งงานมีชีวิตคู่มาปีนี้ก็ย่างเข้าปีที่ยี่สิบแปดแล้ว ก็ยังอยู่ด้วยกันได้อยู่ด้วยกันดี และคิดว่าคงจะอยู่ด้วยกันไปจนตายจากแหละครับ ถามว่ามีสูตรเด็ดเคล็ดลับอะไรหรือเปล่าที่ทำให้อยู่กันมาได้ยาวนานปานนี้ ไม่มีหรอกครับ ผมไม่เชื่อว่าใครมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีอยู่โดยรู้มาแต่ต้น
   
          ชีวิตคู่นั้นใครจะอยู่ด้วยกันได้อยู่ด้วยกันดีนั้นไม่ใช่เรื่องที่รู้ แต่เป็นเรื่องของความเชื่อ เชื่อว่าจะอยู่ด้วยกันได้อยู่ด้วยกันดีจึงแต่งงานกัน หลังจากแต่งงานอยู่ร่วมบ้านร่วมเตียงแล้วนี่ เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งนะครับ เป็นหนังเรื่องใหม่เลย ไม่เคยดูมาก่อน ไม่รู้เลยว่าหนังเรื่องนี้จะดำเนินไปอย่างไรและจะจบลงอย่างไร อย่างเรื่องความอดทนที่ว่านั้น จะมีคู่แต่งงานคู่ไหนที่รู้ว่าจะต้องทนหรืออดทนกับอะไรตั้งแต่เริ่มชีวิตคู่ เรื่องที่จะทำให้อดทนหรือต้องทนนั้นมันจะมาทีหลัง และจะมาเป็นระยะ
   
          ผมกับเมียนี่ไม่เคยมีข้อตกลงอะไรร่วมกันนะครับว่าจะต้องเป็นอย่างไร ปฎิบัติตัวอย่างไร น้องสาวแม่ผมตอนที่แต่งงาน แกขอกับเจ้าบ่าวของแกไว้อย่างหนึ่ง บอกว่ามีเรื่องอะไรไม่ชอบใจทะเลาะกัน ขอให้พูดกันดี ๆ อย่าด่า โดนด่านี่ทนไม่ได้ รับไม่ได้ ก็อยู่ด้วยกันมาจนมีลูกสามคน วันหนึ่งด้วยเรื่องอะไรไม่รู้ได้ ทะเลาะกันแล้วสามีแกก็ด่าแกว่า...เป็นเรื่องเลยครับ โรมรันพันตูกันวุ่นวาย น้องสาวแม่ผมก็หัวแตกเลือดอาบ อุ้มลูกคนจูงสองคนเดินกลับบ้านแม่ คือบ้านยายผม ระยะทางเดินไม่ใช่แค่เดินไปปากซอยนะครับ ผมว่ามันยี่สิบกว่ากิโลเมตร กลับมาแล้วก็ไม่กลับไปอีกเลย แม้ฝ่ายชายจะตามมาอ้อนวอนง้องอนอยู่หลายครั้งก็ไม่ยอมกลับ จนครั้งหลังมาบอกว่าถ้าไม่กลับจะมีเมียใหม่ แกบอกว่ามีไปเถอะ
   
          ผมอยู่กับเมียมาโดยไม่ทะเลาะกัน ไม่ใช่ว่าไม่มีเรื่องโกรธขึ้งขัดแย้งนะครับ ก็มีอยู่ตามปรกติ แต่พูดกันแล้วไม่กี่ประโยค ต่างฝ่ายก็ต่างเงียบ เมื่อเงียบก็รับรู้ร่วมกันว่าเงียบ ไม่มีการเซ้าซี้กวนใจชวนทะเลาะ ไม่เคยมีการขึ้นเสียงด่าทอหรือใช้คำหยาบคายใด ๆ แต่ผมก็เคยเห็นเคยได้ยินคู่ที่เขาทะเลาะตบตีด่าทอกับแบบได้ยินไปสามบ้านแปดบ้าน ซึ่งยังอยู่ด้วยกันมาจนทุกวันนี้ อยู่ด้วยกันมานานกว่าคู่ของผมอีก
   
          เรื่องการมีลูกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่พูดกันว่าจะทำให้ชีวิตคู่นั้นอยู่ยืด ผมก็อยู่มานานพอจะเห็น คนใกล้ ๆ เป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงกันนี่แหละครับ มีลูกด้วยกันสามคนสี่คนก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ที่ไม่มีลูกด้วยกันเลยก็เห็นอยู่ด้วยกันดีจนเห็น ๆ อยู่ตอนนี้ ... ไม่มีคำตอบแน่นอนหรอกครับว่าชีวิตคู่นั้นจะอยู่กันอย่างไรให้มีความสุข ให้มันคงถาวร




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นิตยสาร Teen, Kids & Family


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชีวิตคู่มิได้อยู่เพียงชั่วครู่ อัปเดตล่าสุด 4 ตุลาคม 2553 เวลา 15:57:00
TOP