ธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนย่อมแตกต่าง จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเกิดการปรับตัวเมื่อต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน แต่ถึงแม้ว่าคนสองคนจะแตกต่างกันมากเพียงใด การให้อภัยและยอมรับ บนพื้นฐานของความรักก็จะช่วยทำให้ความต่างนั้นกลับกลายเป็นความลงตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบในที่สุด...
เช่นเดียวกับเรื่องราวความรักของดาราสาวสวยที่ห่างหายจากวงการไปนาน จิ๊กกี๋ - จุฑามาศ และสามีผู้แสนดี โอ๊ต - จิรัฏฐ์ นิธิอนันตภร ซึ่งทั้งคู่มีความแตกต่างกันอย่างลิ้นเชิง แต่ในความต่างนั้น กลับเป็นอะไรที่สุดแสนจะลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วอะไรที่ทำให้ความแตกต่างกลายเป็นความเหมือน อะไรคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ความรักของเธอและเขาลงเอยด้วยความสุข ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลยค่ะ..
ย้อนวันวานช่วยเล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ได้มาพบกันหน่อยสิคะจิ๊กกี๋ - จุฑามาศ : วันนั้นเป็นวันเกิดของเพื่อนกี๋ค่ะ แล้วเพื่อนก็โทรมาบอกกี๋ให้ไปงานวันเกิด แต่เค้าโทรมาตอนกลางคืน ซึ่งมันดึกแล้ว ก็เลยบอกเพื่อนไปว่าคงไปไม่ได้หรอก เพราะดึกแล้ว เพื่อนกี๋เลยบอกว่าเดี๋ยวเค้าให้เพื่อนอีกคนของเค้ามารับละกัน เพราะบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านกี๋ อยู่แถว ๆ เดียวกัน นั่นแหละค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกัน (ยิ้ม) ด้วยความบังเอิญที่เราสองคนมีเพื่อนคนเดียวกัน อืมม์...พอเค้ามารับ ก็มีโอกาสได้คุยกัน แล้วบังเอิญอีกที่น้องชายของเค้าเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยรังสิต แล้วเป็นรุ่นน้องที่คณะของกี๋ ก็เลยทำให้คุยกันง่ายขึ้น ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เป็นเพื่อนกันก่อน นั่นแหละค่ะจุดเริ่มต้น..
แล้วครั้งแรกที่เจอกัน รู้สึกอะไรเป็นพิเศษบ้างไหมคะจิ๊กกี๋ - จุฑามาศ : ตอนแรกที่เจอ บอกเลยว่าเราเองก็ระวัง แต่จะระวังน้องเค้ามากกว่า เพราะเพื่อนก็จะพูดถึงแต่น้องเค้าว่าโสด อะไรทำนองนั้น เลยทำให้เรารู้สึกว่าต้องระวังน้องชาย กลายเป็นว่าพอระวังน้อง แล้วกลับไปคุยกับพี่ชายแทน (หัวเราะ) แต่ก็จะคุยกันเรื่องทั่ว ๆ ไป จิปาถะค่ะ แล้วหลังจากวันนั้น เราก็ก็เลยได้คุยกันมาเรื่อย ๆ ค่ะ
เริ่มมาร่วมปลูกต้นรักกันตอนไหนคะจิ๊กกี๋ - จุฑามาศ : จริง ๆ เค้าเคยเล่าให้ฟังว่าเค้าชอบเรามาตั้งนานแล้ว (ยิ้ม) เพราะเค้าเป็นเด็กนักเรียนนอก เรียนเมืองนอกมาตลอด แล้วก็มักจะซื้อซีดีละครไทยไปดู เค้าได้ดูละครที่เราเล่น แล้วเค้าก็รู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้ ก็เลยโทรมาถามที่เมืองไทยว่ารู้จักคนนี้ไหม เพื่อน ๆ ก็บอกว่ารู้จัก แต่ไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ พอถามน้องชายเค้าก็บอกว่าเป็นรุ่นพี่เรียนที่ ม.รังสิตนี่แหละ แต่ก็ไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ จากนั้นพอกลับมาเมืองไทยเค้าก็มาถามเพื่อน ๆ ทุกคนก็บอกว่าไม่ค่อยเห็นเราเท่าไหร่ ทุก ๆ อย่างก็ผ่านไป จนถึงวันที่มาเจอกันจริง ๆ ตอนงานวันเกิดเพื่อนนั่นแหละค่ะ ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสัมพันธ์ทุกอย่าง
หลังจากที่ได้เจอตัวเป็น ๆ แล้วมีการสานสัมพันธ์กันอย่างไรคะจิ๊กกี๋ - จุฑามาศ : จริง ๆ วันแรกที่รู้จัก เค้าอาสามารับเรา เค้าก็จะมีเบอร์โทรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะต้องติดต่อตลอดตอนที่มารับว่าอยู่ไหน ยังไง อืมม์...ก็หลังจากนั้นเค้าก็โทรมาถามสารทุกข์สุกดิบ โทรมาคุยด้วยตลอด (ยิ้ม) แต่เป็นการคุยกันแบบไม่ได้มีท่าทีว่ามาจีบเรา ไม่ได้มีท่าทีกระโตกกระตากอะไร แล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะมาจีบเรา เป็นการคุยกันแบบเพื่อนมากกว่าค่ะ
คบกันแบบเพื่อนนานแค่ไหนถึงเปลี่ยนมาเป็นคนพิเศษคะจิ๊กกี๋ - จุฑามาศ : ก็ค่อนข้างนานเหมือนกันค่ะ เพราะเราเองก็อยู่คนเดียว ไม่มีใครมานานมากเลย อยู่กับเพื่อนตลอด ก็เลยไม่รู้ว่าจีบเป็นยังไงแล้ว (หัวเราะ) เราก็เลยไม่รู้ว่าเค้าจีบเราไหม แต่ก็มารู้ตอนที่เพื่อนมาบอกอีกที เพราะเราสองคนไปไหนด้วยกันบ่อยมาก แล้วคนอื่นเค้าก็คิดว่าเป็นแฟนกันแล้วแบบนั้น แต่เราเองที่ไปไหนมาไหนด้วยกันกลับไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นเพื่อนกัน จนเพื่อนมาถามว่าไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าเค้ามาชอบเรา ก็เลยรู้สึกว่าเอ้ย...จริงเหรอ
จิ๊กกี๋ - จุฑามาศ : จากนั้นก็เลยได้คุยกันเรื่องนี้ เค้าเองก็ยอมรับว่าชอบ แล้วก็ถามเราว่าทำไมเราถึงเฉยจัง ไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ เหรอ ประมาณนั้น...หลังจากนั้นเราก็คุยกันมาเรื่อย ๆ แต่ด้วยความรู้สึกที่อาจจะเปลี่ยนไปบ้าง เพราะรู้แล้วว่าเค้าชอบเรา คุยกันไปกันมาก็รู้สึกว่าเค้าก็โอเคค่ะ แล้วมันก็เลยกลายเป็นแฟนกันไปโดยปริยาย ซึ่งบอกไม่ได้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะเค้าเองก็ไปมาหาสู่ที่บ้านเราตลอด ทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติ เป็นไปตามสเต็ปที่มันควรจะเป็นค่ะ
ช่วงเวลาที่คบหากันมีวิธีการดูแลกันและกันอย่างไรบ้างคะจิ๊กกี๋ - จุฑามาศ : ต้องบอกเลยว่าเค้าเป็นคนน่ารักมาก เพราะด้วยความที่เค้าอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น มีอาม่า มีป๊า มีม๊า แล้วพอเราได้เข้ามาอยู่ในบ้านเค้า ทำให้เรารู้ว่าทำไมเค้าถึงเป็นคนที่เทคแคร์เก่ง เพราะที่บ้านเค้าปลูกฝังให้เค้าเป็นคนคอยดูแล เทคแคร์คนอื่น แล้วกับเราเค้าก็ดูแลทุกอย่าง ยิ่งเป็นแฟนกันแล้วก็ยิ่งดูแลทุก ๆ อย่างเป็นอย่างดี (หัวเราะ)
จิ๊กกี๋ - จุฑามาศ : ซึ่งแรก ๆ เราก็งงเหมือนกัน เพราะด้วยความที่เราทำอะไรคนเดียวมาตลอด แล้วก็ชอบที่จะทำอะไรเอง ชอบที่จะบริหารตัวเองด้วยตัวเองมากกว่า จนพอวันนึงมีแฟน เราก็มีผู้ชายดี ๆ คนนึงมาคอยทำอะไรให้ตลอด แล้วยอมรับเลยว่าเค้าก็เป็นคนที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งเหมือนกับเค้าดูแลชีวิตเราทั้งชีวิตจริง ๆ ทำทุกอย่างให้เราหมดเลย อืมม์...เราก็ดูแลกันและกันไปเรื่อย ๆ ค่ะ ก็ศึกษาดูใจกันอยู่ประมาณ 4 ปี ถึงตัดสินใจแต่งงานกัน (ยิ้ม)
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ติดตามบทความทั้งหมดในฉบับที่ 253
