สิวที่หลัง เกิดจากอะไร และจะมีวิธีรักษาสิวที่หลังพร้อมกับรอยสิวที่หลังได้อย่างไรบ้าง สาว ๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหาสิวบุกอยู่ละก็ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะวันนี้เรามีวิธีรักษาสิวที่หลังมาฝากกันแล้ว
![สิวที่หลัง]( "สิวที่หลัง")
ปัญหาสิว เป็นปัญหาที่สร้างความกวนใจให้กับสาว ๆ อย่างเราเป็นที่สุด ซึ่งสิวไม่ได้ขึ้นแค่ที่หน้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังบุกมาถึงแผ่นหลังเนียน ๆ ของเราได้อีกด้วย นอกจากสิวที่หลังจะอยู่ในจุดที่มองเห็นยากแล้ว ยังทำให้ไม่มั่นใจตัวเอง เวลาใส่เสื้อโชว์หลังก็กังวลว่าใครจะเห็นรอยสิวแดง ๆ เล็ก ๆ เต็มหลังไปหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่สาว ๆ ไม่ควรละเลยเด็ดขาด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นาน จากหลังเนียนสวย อาจกลายเป็นหลังลายเพราะรอยสิวที่หลังได้
แต่สาว ๆ หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าทำไมนะทำไม ทั้งที่อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายอยู่ทุกวัน แต่สิวเจ้ากรรมก็ยังมาขึ้นที่หลังจนได้ มันเกิดขึ้นเพราะอะไรและจะมีวิธีรักษาสิวที่หลังได้อย่างไรบ้าง เพื่อเป็นการไขข้อข้องใจของสาว ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีคำตอบมาฝากทุกคนแล้วค่ะ
สิวที่หลัง เกิดจากอะไร
สาเหตุ สิวที่หลัง หลัก ๆ ของการเกิดสิว มักเกิดจากการรักษาความสะอาดที่ไม่ดีพอจนทำให้เกิดเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกตกค้าง แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ เช่น
1. สิวที่หลัง กรรมพันธุ์และฮอร์โมน
สิวอาจเกิดขึ้นได้จากกรรมพันธุ์ที่ถูกถ่ายทอดมาจากคนในครอบครัว และอาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น ระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ช่วงที่มีประจำเดือน รวมถึงช่วงที่ร่างกายเกิดความเครียด ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง และมีภาวะไม่สมดุลกันในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) ในสัดส่วนที่มากกว่าฮอร์โมนเพศหญิง จึงทำให้เกิดผิวมัน รูขุมขนกว้าง และเป็นสิวได้ง่าย
2. อาหารการกิน
การรับประทานอาหารประเภทของทอดหรือของมันเป็นประจำ รวมถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันและน้ำตาลสูง เช่น ช็อกโกแลต หรือขนมหวาน ก็เป็นสาเหตุให้ผิวมันมากขึ้น จึงทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวที่หลังได้ง่าย รวมถึงการบริโภคคาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมปังขาว หรือมันฝรั่งทอด มากเกินไปก็อาจทำให้เป็นสิวได้ เพราะจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง
![สิวที่หลัง]( "สิวที่หลัง")
3. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิว
สาว ๆ รู้หรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้กับผิวพรรณ เช่น ครีมกันแดด ครีมทาผิว และน้ำมันนวดผิว ก็เป็นสาเหตุให้รูขุมขนอุดตันจนเกิดสิวได้เช่นกัน นอกจากนี้แชมพู และครีมนวดผม ก็ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ด้วย หากสาว ๆ ล้างทำความสะอาดไม่หมด ก็จะเกิดการตกค้างอยู่บนผิวหนัง ทำให้เกิดสิวที่หลังตามมาได้
4. เสื้อผ้าที่สวมใส่
เสื้อผ้าที่สาว ๆ สวมใส่อยู่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ โดยเฉพาะผ้าเนื้อแข็ง จะเกิดการเสียดสีกับแผ่นหลังตลอดเวลา หรือเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ไม่ดีพอ จนเกิดการอับชื้น เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และคราบเหงื่อไคล ทำให้รูขุมขนอุดตันจนกลายเป็นสิวที่หลังได้ในที่สุด ทั้งยังรวมถึงการใช้ผงซักฟอกที่มีฤทธิ์รุนแรง ก็อาจทำให้แผ่นหลังระคายเคืองและเกิดสิวได้เช่นกัน
5. ผ้าปูที่นอนไม่สะอาด
ไม่เพียงแต่เสื้อผ้าที่สวมใส่จะทำให้เกิดสิวที่หลังเท่านั้น แต่ผ้าปูที่นอนและหมอนที่สกปรกก็ทำให้เกิดสิวที่หลังได้เช่นกัน สาว ๆ จึงควรหมั่นเปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง หากปล่อยทิ้งไว้นานจะเป็นที่สะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกได้ค่ะ
![สิวที่หลัง]( "สิวที่หลัง")
6. น้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วอุดตันรูขุมขน
ในร่างกายของเราทุกคนมีต่อมน้ำมันอยู่ภายใต้รูขุมขน ผลิตขน ผลิตน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม (Sebum) ออกมาเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและผิวหนัง แต่ถ้าน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขนก็จะทำให้เกิดสิว และมีอาการแดง บวม หรือเป็นหนองนั่นเอง
7. แพ้เหงื่อตัวเอง
ทุกครั้งหลังเหงื่อออก หากมีตุ่มน้ำใส ๆ หรือผดผื่นคันขึ้นบริเวณแผ่นหลัง ข้อพับ ลำคอ ไปจนถึงใบหน้า นั่นอาจไม่ใช่สิวแต่เป็นอาการของโรคแพ้เหงื่อตัวเอง กรณีนี้แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง
สิวที่หลัง รักษายังไง ทำยังไงให้หาย ?
สิวที่หลังอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุข้างต้น แต่เมื่อสิวเกิดขึ้นแล้ว ก็ย่อมมีวิธีรักษาสิวที่หลังอยู่เสมอ โดยมีหลากหลายวิธีให้สาว ๆ ได้ลองทำตามกัน ดังต่อไปนี้
1. ทำความสะอาดและหมั่นขัดผิวเป็นประจำ
หมั่นทำความสะอาดผิวพรรณให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของสิว รวมถึงหมั่นขัดผิวเบา ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง อาจขัดด้วยใยบวบ หรือขัดด้วยเกลือขัดผิวก็ได้ค่ะ จะช่วยขจัดเซลล์ผิวและลบเลือนรอยสิวที่หลังได้เป็นอย่างดี แต่ควรงดขัดผิวตอนที่เกิดสิวอักเสบ เพราะจะยิ่งทำให้ระคายเคือง และสิวเห่อมากขึ้น
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทของทอด ของมัน และของหวาน แต่ควรเน้นรับประทานพวกผักและผลไม้ที่มีวิตามินช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส รวมถึงดื่มน้ำให้มาก ๆ ประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
3. ทาบริเวณที่เป็นสิวด้วยทีทรีออยล์
ทีทรีออยล์ มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในรูขุมขนอันเป็นต้นเหตุของสิวได้ โดยใช้สำลีก้อนกลมหรือคอตตอนบัดจุ่มทีทรีออยล์ จากนั้นนำมาแตะ ๆ บริเวณที่เป็นสิว จะช่วยลดการอักเสบ ทำให้สิวและรอยแดงดูจางลงได้
![สิวที่หลัง]( "สิวที่หลัง")
4. พอกหลังด้วยดินสอพอง และมะนาว
นำดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหลว ๆ จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วแผ่นหลัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยดินสอพองจะช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบและแห้งลง ส่วนน้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส และทำให้รอยสิวจางลงอีกด้วย
5. พอกหลังด้วยว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของสิว รอยแผล และจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี เพียงนำเนื้อว่านหางจระเข้มาทาบริเวณที่เป็นสิว จะช่วยให้สิวยุบลง หรืออาจนำเจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำผึ้ง ½ ช้อนชา และผงขมิ้นชัน และนำมาทาที่หลัง ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้สิวอักเสบลดลง และยังช่วยลดรอยสิวได้ นอกจากนั้นแล้ว ว่านหางจระเข้ยังสามารถช่วยรักษาสิวผดได้อีกด้วยนะ
วิธีดูแลผิวหลังจากสิวหาย เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นอีก
1. อาบน้ำทุกครั้งหลังออกกำลังกาย
สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ แล้วปล่อยให้เหงื่อแห้งเองโดยไม่อาบน้ำ บอกเลยว่าต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเดี๋ยวนี้ เพราะเหงื่อและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเสื้อเป็นตัวการทำให้เกิดสิวที่หลังนั่นเอง
2. ขัดผิวเป็นประจำ
สาเหตุของการเกิดสิวที่หลังอาจเกิดจากน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน ดังนั้น วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการทำความสะอาดผิวและรูขุมขนด้วยสครับสูตรอ่อนโยน โดยแนะนำให้ใช้สครับเนื้อเนียนละเอียด และไม่บาดผิว เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองแล้ว ยังช่วยให้ผิวของสาว ๆ เรียบเนียน และขาวกระจ่างใสด้วย
3. สวมใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ
การสวมเสื้อผ้าที่คับหรือพอดีตัวจนเกินไป นอกจากจะระบายอากาศได้ไม่ดีแล้ว ยังทำให้เหงื่อและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเสื้อผ้าเสียดสีกับผิวหนังของเราจนเกิดสิวได้ เพราะฉะนั้นแนะนำให้สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ใส่สบาย และระบายอากาศได้ดีจะดีที่สุด
![สิวที่หลัง]( "สิวที่หลัง")
4. เก็บผมด้านหลังขึ้น
การปล่อยผมสยายทั่วแผ่นหลังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง ซึ่งหลายคนอาจมองข้าม เนื่องจากเส้นผมของเรามีทั้งสิ่งสกปรก และน้ำมัน ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวที่หลังได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การม้วนผมขึ้น หรือมัดผมหางม้า เพื่อไม่ให้ผมโดนแผ่นหลังของเรา
5. เลือกครีมกันแดดที่ไม่อุดตันรูขุมขน
แนะนำให้คุณสาว ๆ เลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบา และไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อลดการอุดตันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวที่หลัง
6. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีน ธัญพืช ผักและผลไม้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวได้ แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงบริโภคคาร์โบไฮเดรต เพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
เมื่อสาว ๆ ได้ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวและวิธีรักษาสิวที่หลังแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กันดูนะคะ จะได้รักษาและป้องกันสิวที่หลังได้อย่างตรงจุด คราวนี้ก็สามารถใส่เสื้อเปลือยหลัง พร้อมอวดแผ่นหลังเนียนสวยโดยไม่ต้องกลัวว่าสิวจะบุกหลังอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : medicalnewstoday.com, healthline.com, byrdie.com, pobpad.com
แต่สาว ๆ หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าทำไมนะทำไม ทั้งที่อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายอยู่ทุกวัน แต่สิวเจ้ากรรมก็ยังมาขึ้นที่หลังจนได้ มันเกิดขึ้นเพราะอะไรและจะมีวิธีรักษาสิวที่หลังได้อย่างไรบ้าง เพื่อเป็นการไขข้อข้องใจของสาว ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีคำตอบมาฝากทุกคนแล้วค่ะ
สิวที่หลัง เกิดจากอะไร
สาเหตุ สิวที่หลัง หลัก ๆ ของการเกิดสิว มักเกิดจากการรักษาความสะอาดที่ไม่ดีพอจนทำให้เกิดเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกตกค้าง แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ เช่น
1. สิวที่หลัง กรรมพันธุ์และฮอร์โมน
สิวอาจเกิดขึ้นได้จากกรรมพันธุ์ที่ถูกถ่ายทอดมาจากคนในครอบครัว และอาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น ระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ช่วงที่มีประจำเดือน รวมถึงช่วงที่ร่างกายเกิดความเครียด ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง และมีภาวะไม่สมดุลกันในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย) ในสัดส่วนที่มากกว่าฮอร์โมนเพศหญิง จึงทำให้เกิดผิวมัน รูขุมขนกว้าง และเป็นสิวได้ง่าย
2. อาหารการกิน
การรับประทานอาหารประเภทของทอดหรือของมันเป็นประจำ รวมถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันและน้ำตาลสูง เช่น ช็อกโกแลต หรือขนมหวาน ก็เป็นสาเหตุให้ผิวมันมากขึ้น จึงทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวที่หลังได้ง่าย รวมถึงการบริโภคคาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมปังขาว หรือมันฝรั่งทอด มากเกินไปก็อาจทำให้เป็นสิวได้ เพราะจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเอง
สาว ๆ รู้หรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้กับผิวพรรณ เช่น ครีมกันแดด ครีมทาผิว และน้ำมันนวดผิว ก็เป็นสาเหตุให้รูขุมขนอุดตันจนเกิดสิวได้เช่นกัน นอกจากนี้แชมพู และครีมนวดผม ก็ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ด้วย หากสาว ๆ ล้างทำความสะอาดไม่หมด ก็จะเกิดการตกค้างอยู่บนผิวหนัง ทำให้เกิดสิวที่หลังตามมาได้
4. เสื้อผ้าที่สวมใส่
เสื้อผ้าที่สาว ๆ สวมใส่อยู่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวที่หลังได้ โดยเฉพาะผ้าเนื้อแข็ง จะเกิดการเสียดสีกับแผ่นหลังตลอดเวลา หรือเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ไม่ดีพอ จนเกิดการอับชื้น เป็นที่สะสมของแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และคราบเหงื่อไคล ทำให้รูขุมขนอุดตันจนกลายเป็นสิวที่หลังได้ในที่สุด ทั้งยังรวมถึงการใช้ผงซักฟอกที่มีฤทธิ์รุนแรง ก็อาจทำให้แผ่นหลังระคายเคืองและเกิดสิวได้เช่นกัน
5. ผ้าปูที่นอนไม่สะอาด
ไม่เพียงแต่เสื้อผ้าที่สวมใส่จะทำให้เกิดสิวที่หลังเท่านั้น แต่ผ้าปูที่นอนและหมอนที่สกปรกก็ทำให้เกิดสิวที่หลังได้เช่นกัน สาว ๆ จึงควรหมั่นเปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง หากปล่อยทิ้งไว้นานจะเป็นที่สะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกได้ค่ะ
ในร่างกายของเราทุกคนมีต่อมน้ำมันอยู่ภายใต้รูขุมขน ผลิตขน ผลิตน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม (Sebum) ออกมาเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและผิวหนัง แต่ถ้าน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขนก็จะทำให้เกิดสิว และมีอาการแดง บวม หรือเป็นหนองนั่นเอง
7. แพ้เหงื่อตัวเอง
ทุกครั้งหลังเหงื่อออก หากมีตุ่มน้ำใส ๆ หรือผดผื่นคันขึ้นบริเวณแผ่นหลัง ข้อพับ ลำคอ ไปจนถึงใบหน้า นั่นอาจไม่ใช่สิวแต่เป็นอาการของโรคแพ้เหงื่อตัวเอง กรณีนี้แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง
สิวที่หลังอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุข้างต้น แต่เมื่อสิวเกิดขึ้นแล้ว ก็ย่อมมีวิธีรักษาสิวที่หลังอยู่เสมอ โดยมีหลากหลายวิธีให้สาว ๆ ได้ลองทำตามกัน ดังต่อไปนี้
1. ทำความสะอาดและหมั่นขัดผิวเป็นประจำ
หมั่นทำความสะอาดผิวพรรณให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของสิว รวมถึงหมั่นขัดผิวเบา ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง อาจขัดด้วยใยบวบ หรือขัดด้วยเกลือขัดผิวก็ได้ค่ะ จะช่วยขจัดเซลล์ผิวและลบเลือนรอยสิวที่หลังได้เป็นอย่างดี แต่ควรงดขัดผิวตอนที่เกิดสิวอักเสบ เพราะจะยิ่งทำให้ระคายเคือง และสิวเห่อมากขึ้น
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทของทอด ของมัน และของหวาน แต่ควรเน้นรับประทานพวกผักและผลไม้ที่มีวิตามินช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส รวมถึงดื่มน้ำให้มาก ๆ ประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
3. ทาบริเวณที่เป็นสิวด้วยทีทรีออยล์
ทีทรีออยล์ มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในรูขุมขนอันเป็นต้นเหตุของสิวได้ โดยใช้สำลีก้อนกลมหรือคอตตอนบัดจุ่มทีทรีออยล์ จากนั้นนำมาแตะ ๆ บริเวณที่เป็นสิว จะช่วยลดการอักเสบ ทำให้สิวและรอยแดงดูจางลงได้
นำดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหลว ๆ จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วแผ่นหลัง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยดินสอพองจะช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบและแห้งลง ส่วนน้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใส และทำให้รอยสิวจางลงอีกด้วย
5. พอกหลังด้วยว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของสิว รอยแผล และจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี เพียงนำเนื้อว่านหางจระเข้มาทาบริเวณที่เป็นสิว จะช่วยให้สิวยุบลง หรืออาจนำเจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำผึ้ง ½ ช้อนชา และผงขมิ้นชัน และนำมาทาที่หลัง ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้สิวอักเสบลดลง และยังช่วยลดรอยสิวได้ นอกจากนั้นแล้ว ว่านหางจระเข้ยังสามารถช่วยรักษาสิวผดได้อีกด้วยนะ
วิธีดูแลผิวหลังจากสิวหาย เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นอีก
1. อาบน้ำทุกครั้งหลังออกกำลังกาย
สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ แล้วปล่อยให้เหงื่อแห้งเองโดยไม่อาบน้ำ บอกเลยว่าต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเดี๋ยวนี้ เพราะเหงื่อและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเสื้อเป็นตัวการทำให้เกิดสิวที่หลังนั่นเอง
2. ขัดผิวเป็นประจำ
สาเหตุของการเกิดสิวที่หลังอาจเกิดจากน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน ดังนั้น วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการทำความสะอาดผิวและรูขุมขนด้วยสครับสูตรอ่อนโยน โดยแนะนำให้ใช้สครับเนื้อเนียนละเอียด และไม่บาดผิว เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองแล้ว ยังช่วยให้ผิวของสาว ๆ เรียบเนียน และขาวกระจ่างใสด้วย
3. สวมใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ
การสวมเสื้อผ้าที่คับหรือพอดีตัวจนเกินไป นอกจากจะระบายอากาศได้ไม่ดีแล้ว ยังทำให้เหงื่อและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเสื้อผ้าเสียดสีกับผิวหนังของเราจนเกิดสิวได้ เพราะฉะนั้นแนะนำให้สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ใส่สบาย และระบายอากาศได้ดีจะดีที่สุด
การปล่อยผมสยายทั่วแผ่นหลังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง ซึ่งหลายคนอาจมองข้าม เนื่องจากเส้นผมของเรามีทั้งสิ่งสกปรก และน้ำมัน ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดสิวที่หลังได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การม้วนผมขึ้น หรือมัดผมหางม้า เพื่อไม่ให้ผมโดนแผ่นหลังของเรา
5. เลือกครีมกันแดดที่ไม่อุดตันรูขุมขน
แนะนำให้คุณสาว ๆ เลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบา และไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพื่อลดการอุดตันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวที่หลัง
6. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น โปรตีน ธัญพืช ผักและผลไม้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวได้ แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงบริโภคคาร์โบไฮเดรต เพราะจะทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
เมื่อสาว ๆ ได้ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวและวิธีรักษาสิวที่หลังแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กันดูนะคะ จะได้รักษาและป้องกันสิวที่หลังได้อย่างตรงจุด คราวนี้ก็สามารถใส่เสื้อเปลือยหลัง พร้อมอวดแผ่นหลังเนียนสวยโดยไม่ต้องกลัวว่าสิวจะบุกหลังอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : medicalnewstoday.com, healthline.com, byrdie.com, pobpad.com
