ฉันนี่แหละ...ของขวัญที่ดีที่สุด!

ฉันนี่แหละ...ของขวัญที่ดีที่สุด! (รักลูก)
โดย: ทรายกุศล

 มาร่วมปฏิบัติการ "เปลี่ยนตัวเองให้เป็นของขวัญ" กันดีกว่า

           เผลอแป๊บเดียวก็จะสิ้นปีแล้วนะคะ ถ้าปีใหม่นี้คุณยังไม่มีของขวัญสำหรับคนพิเศษล่ะก็ มาร่วมปฏิบัติการ “เปลี่ยนตัวเองให้เป็นของขวัญ” กับทรายกันดีกว่าค่ะ

           ต้องยอมรับจริง ๆ ค่ะ ว่าปีนี้มีเรื่องวุ่น ๆ มาคอยกวนใจให้ต้องปวดหัวตลอดทั้งปี ทั้งความหงอยเหงา เศร้าซึม อกหัก รักคุด สถานการณ์บ้านเมืองสะดุด เศรษฐกิจทรุด ฉุดเงินในกระเป๋าหาย! แต่อย่างไรก็ยังแอบมีความหวังว่าปีใหม่นี้ สิ่งดีๆต้องเกิดขึ้นแน่ค่ะ อย่างน้อยการมอบของขวัญปีใหม่เพื่อสร้างรอยยิ้มให้คนรอบข้าง คงจะพอทำให้หัวใจดวงน้อยๆมีความสุขขึ้นได้ แล้วคุณล่ะคะ ปีใหม่นี้มีของขวัญมอบให้คนพิเศษกันหรือยัง

อะไรดีนะ?...กระเช้าผลไม้...การ์ด...นม...

           คุ๊กกี้... บอกได้เลยว่า เชยๆๆ ค่ะ ทรายมีไอเดียเด็ดมาเสนอค่ะ รับรองว่าถูกใจคนพิเศษแน่นอน นั่นคือ... “เปลี่ยนตัวเองให้เป็นของขวัญ” ซะเลย นี่ไม่ใช่การใส่กล่องผูกโบตัวเองนะคะ แต่หมายถึง ปฏิบัติการเปลี่ยนอะไรบางอย่างในตัวคุณให้คนรอบข้างได้ตกอกตกใจเล่นกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเริ่มกันเลย...

1.วันเก่า ๆ กับเรื่องเดิม ๆ

           เป็นความจริงที่ว่า ไม่มีใครจะเพอร์เฟ็กซ์ไปทุกอย่าง ลองให้เวลากับตัวเองสักนิดเพื่อคิดทบทวนถึงเรื่องราวต่าง ๆ ปีเก่ากำลังจะผ่านไป แต่ไม่ได้แปลว่าจะต้องทิ้งทุกอย่างไว้กับปีเก่านะคะ สิ่งดี ๆ อะไรที่เราเคยทำแล้วสร้างความสุขใจให้กับตัวเองและคนรอบข้าง ก็ขอให้เก็บเอาไว้เป็นความทรงจำดี ๆและจงมุ่งหน้าสร้างความสุขแบบนี้ในปีต่อ ๆ ไปค่ะ

 
           ถ้าเรื่องไหนที่นึกทีไรเป็นต้องรู้สึกเศร้า ผิดหวัง รู้สึกผิดในใจ อยากจะลืมมันซะ อย่าพึ่งลืมเสียหมดค่ะ โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้คนรอบข้างต้องเสียใจ อาจเป็นคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือใครก็แล้วแต่ เรื่องบางเรื่อง การได้กลับไปคิดใคร่ครวญถึงบ่อย ๆ จะช่วยให้เรารู้จักนำข้อผิดพลาดที่เคยทำ นำมาแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นและนำไปสู้จุดเปลี่ยนที่ดีได้ค่ะ

2.ของขวัญปีใหม่...ใจสำคัญ

           เปลี่ยน ตัวเองยากไป เปลี่ยนใจตอนนี้จะดีกว่า” อย่าพึ่งคิดอย่างนั้นนะคะ การเปลี่ยนตัวเองไม่ง่ายก็จริง แต่ถ้าใจพร้อม ก็ไม่มีสิ่งใดยากเกิดความพยายามค่ะ เพราะฉะนั้น จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดต่อไปคือ ต้องทำใจให้พร้อมก่อนลงแข่ง แล้วบอกกับตัวเองว่า...

           ไม่อาย...ที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครคนนั้น
           ไม่อาย...ถ้าเพื่อนที่ทำงานจะมองคุณด้วยสายตาแปลกๆ(แต่ใจแอบชื่นชม)
           ไม่อาย...ที่สามีหรือลูกๆจะนั่งซุบซิบปรึกษากันว่าคุณเป็นอะไร...
           แหม ระดับคุณแม่ยุคใหม่ จะเปลี่ยนทั้งที ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่หน่อยสิค่ะ...
           ...ก็ใจมันพร้อมจะทำสิ่งดี ๆให้กับคนรอบข้างซะอย่าง

3.มองหา...ความน่าจะเป็น

           การคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนรอบข้าง เป็นความคิดที่เยี่ยมแน่นอนค่ะ แต่อย่างไรเสีย ก็ต้องใช้วิชาคณิตศาสตร์ที่เคยเรียนมาเพื่อมองหาความน่าจะ เป็นสักนิดนะค่ะ ลองพิจารณาก่อนว่าเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คืออะไร และมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ที่คุณจะเปลี่ยนแปลงเรื่องดังกล่าวโดยอิงจากหลักความเป็นจริง

           คุณไม่เคยทำกับข้าวเลยตลอดชีวิต แต่เกิดอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยลุกขึ้นมาจับกระทะควงตะหลิว ถ้ามั่นใจว่าชัวส์...ก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ถ้า 50-50 ล่ะก็ ปัญหาอาจจะตกหนักที่คุณพ่อและคุณลูกที่จะต้องรับประทาน และอาจทำให้คะแนนนิยมในครั้งต่อไปตกฮวบ ส่งผลต่อปฏิบัติการเปลี่ยนครั้งต่อไปได้


           การตั้งเป้าหมายที่เกิน ขีดจำกัดของตัวเองมากเกินไป นอกจากจะทำให้รู้สึกอึดอัดแล้ว ยังอาจทำให้เสียงานใหญ่ได้ค่ะ เพราะฉะนั้น ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องเปลี่ยนตัวเองได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงทีละเล็กทีละน้อยแต่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาต่อไปในอนาคตได้ค่ะ

           ...ที่ต้องทำอย่างนี้ไม่ใช่กลัวไปก่อนล่วงหน้าว่าจะทำไม่สำเร็จนะคะ แต่เป็นยุทธศาสตร์อย่างหนึ่ง เพื่อให้เรา "รบร้อยครั้ง ก็ชนะร้อยครั้ง" ค่ะ

4.ปฏิบัติการเปลี่ยน...

           เมื่อคิดทุกอย่างอย่างรอบคอบ ก็มาถึงขึ้นตอนสำคัญค่ะ นั่นคือ...ปฏิบัติการเปลี่ยนเพื่อเป็นของขวัญสุดเซอร์ไพซ์ เปลี่ยน...เพื่อใคร ข้อนี้คงไม่ใช่เรื่องยากค่ะ เชื่อว่าเมื่อลองพิจารณาดูแล้วคงจะสามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ ส่วนจะเปลี่ยนอะไรนั้น ลองมาคิดกันค่ะ...

           อยาก...นั่น โน้น นี่ ด้วยความที่ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ความอยากจึงดูเหมือนเป็นเรื่องจุกจิก ที่นำปัญหามาสู่ครอบครัวนักต่อนักแล้ว ค่ะ ฉันอยากได้นั่น เธออยากได้นี่ ทุกคนล้วนแต่มีความต้องการด้วยกันทั้งนั้น ต้องยอมรับค่ะว่าวัตถุนิยมกำลังครอบครองจิตใจของเรามากขึ้นทุกวัน ก็ของล่อตาล่อใจสมัยนี้เยอะนี่ค่ะ

           อย่าให้วัตถุเหล่านี้มีอำนาจ เหนือจิตใจของเราจนสร้างรอยร้าวให้กับครอบครัวค่ะ ลองปรึกษาเงินในกระเป๋าและคำนวณค่าใช้จ่ายดูสักนิด ควบคุมความต้องการของตัวเองสักหน่อย บวกกับการบริหารจัดการที่ดี เชื่อแน่ว่า จะสามารถรองรับความต้องการอย่างพอดีของคุณและคนในครอบครัวได้ อย่างแน่นอนค่ะ นอกจากคุณจะได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อเป็นของ ขวัญให้กับคนในครอบครัวแล้ว ยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้สมาชิกคนอื่น ๆ ได้ปฏิบัติตามด้วย...ได้ประโยชน์สอง ต่อจริง ๆ ค่ะ

           โอ้ยยย...อารมณ์เสีย ในแต่ละวันเราต้องเผชิญกับปัญหามากมายตั้งแต่ลืมตาตื่นนอนตอนเช้า ไม่ว่าจะเป็นรถติด ไปทำงานสาย โดนเจ้านายบ่น สามีกลับบ้านช้า ลูกก็ซน โอ้ยยย...อารมณ์เสีย อย่างนี้กลับมาต้องมีทะเลาะ เข้าใจค่ะ แต่อย่าปล่อยให้อารมณ์เหล่านี้เป็นตัวทำลายสุขภาพจิต และความสัมพันธ์อันดีของเรากับคนในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานเลยนะคะ เราไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของคนอื่นหรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเราได้ แต่เราสามารถควบคุมตัวเองได้ค่ะ ทำความเข้าใจกับความจริงข้อนี้ซะ แล้วบอกกับตัวเองเสมอว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องจัดการกับอารมณ์ของเราให้อยู่หมัดค่ะ อย่าลืมว่า...โกรธ...ไม่สวย...โกรธ...แก่ไว...โกรธ...ของขวัญปีใหม่...ก็จบกัน

           ฉัน...คือเหตุผลของทุกสิ่ง ข้อนี้สำคัญที่สุดเลยค่ะ เพราะเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหลายแหล่ที่เกิดขึ้นกับเรา หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกเจ้าสิ่งนี้เล่นงานเข้าแล้ว เพราะเชื่อมั่นว่าเราคือเหตุผลของทุกสิ่ง การปราศจากเหตุผลที่ถูกที่ควร ทำให้เราเห็นผิดเป็นถูกและสร้างความเสียหายให้ กับตัวเองมานักต่อนักแล้วค่ะ

           ไม่ไปทำงานเพราะวันนี้ขี้เกียจ ไม่ชอบเพื่อนร่วมงานโดยไม่มีสาเหตุ วันนี้เหนื่อยเห็นอะไรขวางหูขวางตาไปหมด โกหกนิดหน่อยเพื่อความสบายใจของทุกคน

           สารพัดปัญหาจะเบาบางลงได้ เพียงแค่คุณลองใช้เหตุผลเป็นตัวดำเนินเรื่องค่ะ ต้องเป็นเหตุผลที่ถูกที่ควรด้วยนะคะ ไม่ใช่เหตุผลแบบเอาตัวรอดไปที ถ้าคุณเปลี่ยนตัวเองให้ดำเนินชีวิตด้วยเหตุผลที่ถูกล่ะก็ เชื่อแน่ว่า การเปลี่ยนครั้งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบข้างดีขึ้น แน่นอนค่ะ

           การลงมือปฏิบัติแรก ๆ อาจจะเคอะเขินบ้างก็ไม่เป็นไรนะคะ อุปนิสัยของคนเรา ต้องใช้การฝึก การฝืนด้วยกันทั้งนั้น (ถ้าปล่อยให้ทำอะไรตามใจ สังคมคงวุ่นวายน่าดู) ทำบ่อยครั้งเข้าสิ่งเหล่านี้ก็จะกลายเป็นนิสัยของเราได้อย่างแน่นอนค่ะ

5.ตั้งสติไว้...อย่าให้น็อตหลุด

           เรื่องนี้สำคัญมากค่ะ เมื่อลงมือปฏิบัติแล้ว ระวัง!อย่าให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเด็ดขาดนะคะ ระลึกเอาไว้ให้ดีว่า ตอนนี้คุณกำลังอยู่ระหว่างปฏิบัติการมอบของขวัญเพื่อคนพิเศษอยู่ อย่าให้เรื่องกวนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ มาทำคุณเสียความตั้งใจเด็ดขาดค่ะ

           "อุตส่าห์ ตั้งใจจะไม่บ่นแล้วเชียว แต่ดันมากวนอารมณ์ซะได้" ใจเย็น ๆ ค่ะ ตั้งสติเอาไว้ ก้าวพลาดนิดเดียว ของขวัญที่ตั้งใจไว้ก็หมดกัน ข้อนี้สำคัญมากนะคะ ถ้าลองได้หลุดสักครั้ง ครั้งต่อไปก็อาจเกิดขึ้นได้ ก่อนที่คุณกำลังจะทำอะไรลงไป อยากให้ลองมองข้ามฉ็อตค่ะ คล้าย ๆ กับการจินตนาการถึงตอนต่อไปของภาพยนตร์เรื่องดัง ลองนึกสิว่า ถ้าทำแบบนั้นแล้วผลที่ได้ต่อไปคืออะไร อย่าลืมว่า ตั้งสติเอาไว้...อย่าให้หลุดเด็ดขาดนะคะ

           ทำครบถ้วนทุกขบวนความแล้ว ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่ถ้าทำแล้วไม่มีผลตอบรับจากคนรอบข้าง ก็ไม่ต้องเสียใจนะคะ ถ้าคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี ขอให้มุ่งหน้าทำต่อไปค่ะ อย่าลืมว่า นี่คือของขวัญจากใจที่คุณตั้งใจมอบให้คนข้างกายด้วยใจจริง ต้องมั่นใจและบอกกับตัวเองว่า...

           "ฉันนี่แหละ...ของขวัญที่ดีที่สุด"


    


ขอขอบคุณข้อมูลจาก