การตรวจร่างกายหรือสุขภาพก่อนแต่งงาน เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับคู่บ่าว-สาวมือใหม่ เพราะส่งผลถึงระยะยาว ดังนั้น คู่บ่าว-สาวควรทำงานตกลงและนัดแนะกันเพื่อจูงมือไปตรวจร่างกายซะก่อน ถ้าเกิดมีอะไรต้องแก้ไขจะได้รีบทำด่วน แต่การตรวจร่างกายก่อนแต่งงานจะมีวิธีการอย่างไร วันนี้กระปุกเวดดิ้งหยิบเอาข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ มาบอกกันค่ะ…
นพ.วิชัย ชวาลไพบูลย์ OSK83 สูติแพทย์ประจำโรงพยาบาลกลางได้กล่าวถึงความสำคัญของเรื่องนี้ว่า เรื่องตรวจร่างกายเป็นหัวใจสำคัญของการดำรงชีวิตครอบครัวให้เป็นสุขต่อไป เพราะว่าในครอบครัวไหนก็ตามที่สมาชิกของครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงทั้ง 2 ฝ่าย ก็เป็นครอบครัวที่มีปัญหาน้อย แต่หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีโรคภัยไข้เจ็บ มีโรคเรื้อรัง คิดดูว่าอีกฝ่ายจะมีความสุขได้อย่างไร เขาก็ต้องมีความกังวล ผลที่ตามมาคือ สมาชิกที่จะเกิดตามมาก็อาจจะเป็นโรคติดมาด้วย แล้วเราจะลำบากแค่ไหนในการที่จะต้องดูแลทั้งลูกทั้งแฟนที่เป็นโรค เพราะฉะนั้นเราต้องใส่ใจให้มากขึ้นในการวางแผนให้ถูกต้อง
ตรวจก่อนแต่งสำคัญอย่างไร
เพื่อวางแผนอนาคต (เผื่อเป็นโรคร้ายแรงมีลูกไม่ได้) … หากเป็นโรคอะไรเราจะได้ทราบและหาทางป้องกันไว้… พื่อความมั่นใจและปฏิบัติตัวถูก หากใครคนหนึ่งมีปัญหา เหตุผลต่างๆ นานาที่ว่าที่คู่บ่าว-สาวกล่าวมา ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณทั้งสองมองข้ามไป ได้แก่…
++ เพื่อดูคู่สมรสของเราก่อนว่าเป็นโรคอะไรหรือเปล่า และเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะมีบุตร ดูว่าเลือดของเราและคู่สมรสเข้ากันได้หรือเปล่า แต่ละฝ่ายเป็นพาหะของโรคใดบ้าง
++ เพื่อจะได้รู้ว่าสุขภาพของเราเป็นอย่างไร การที่เราจะมาใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เรารักควรให้ความสำคัญ ให้เขาได้รับรู้ความบกพร่องของเรา
++ เพื่อจะทราบความบกพร่องของร่างกายว่ามีอะไรบ้างและจะมีผลกระทบอะไรต่อการมีบุตร
การตรวจร่างกายก่อนแต่งงานนั้น จะช่วยให้คู่สมรสสามารถวางแผนครอบครัวได้ค่ะ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของการคุมกำเนิดเท่านั้น แต่เป็นการเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ และสำคัญที่สุดคือทราบว่าปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคทางพันธุกรรม ซึ่งหากตรวจแล้วพบว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นโรคจะได้รักษาให้หายดีเสียก่อน หรือหากไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และทั้งคู่ยังคงยืนยันที่จะแต่งงานและมีลูก ก็จะได้ทราบว่าจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมค่าใช้จ่ายในการเยียวยารักษา การดูแลรวมทั้งเรื่องอื่นๆ อย่างไรบ้าง
ตรวจเพื่อรู้ทัน ป้องกันและรักษา
ปัจจุบันมีคู่ที่เตรียมสมรสให้ความสนใจกับเรื่องการตรวจร่างกายก่อนแต่งงาน ก่อนตั้งครรภ์เพิ่มมากขึ้น อาจเป็นเพราะได้รับข้อมูลข่าวสารมากขึ้น ทำให้ทราบว่าก่อนที่จะแต่งงานต้องมีการระวังเรื่องอะไร ตรวจเช็กเรื่องอะไรบ้าง
การตรวจร่างกายลักษณะนี้ จะเริ่มต้นจากการซักประวัติว่าคนในครอบครัวของแต่ละฝ่ายมีใครที่เป็นโรคติดต่อทางพันธุกรรมบ้างหรือไม่ หรือมีความผิดปกติอะไรที่สามารถถ่ายทอดถึงกันได้บ้าง เมื่อซักประวัติแล้วจะต่อด้วยการตรวจโรค ซึ่งหากพบว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ คุณหมอจะตรวจหาโรคดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
โดยทั่วไปการตรวจร่างกายสำหรับคู่ที่เตรียมตัวจะแต่งงานและตั้งครรภ์ มักจะตรวจกามโรคและโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โดยโรคที่ต้องตรวจคือ ซิฟิลิซ ไวรัสตับอักเสบ บี และที่สำคัญคือ HIV
ส่วนฝ่ายหญิงจะมีการตรวจเพิ่มจากฝ่ายชายอีก คือ ตรวจดูภูมิต้านทาน เช่น หัดเยอรมัน หากพบว่ายังไม่มีภูมิต้านทาน ก็ฉีดวัคซีนเพิ่มภูมิต้านทาน จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อหัดเยอรมันระหว่างตั้งครรภ์ และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาว่าเป็นโรคที่อาจเกิดอันตรายขณะตั้งครรภ์หรือไม่ เช่น เบาหวาน เพราะโรคนี้มักไม่ค่อยแสดงอาการขณะที่อายุน้อย หรืออยู่ในวัยเจริญพันธุ์ แต่มักแสดงอาการตอนอายุมากขึ้น
นอกนั้นเป็นการตรวจเลือดขั้นพื้นฐาน คือ การตรวจความเข้มข้นของเลือด ตรวจกรุ๊ปเลือดเพื่อดูว่ากรุ๊ปเลือดเข้ากันได้ไหมเม็ดเลือดปกติหรือไม่ หากตรวจขั้นพื้นฐานแล้วปกติก็จบกระบวนการ แต่ถ้าพบความผิดปกติ ก็ต้องตรวจอย่างละเอียดเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เช่น ตรวจแล้วพบว่าเม็ดเลือดแดงเล็ก ก็ต้องตรวจให้ละเอียดเพื่อดูว่าเป็นทาลัสซีเมียหรือไม่ เป็นต้น
และอีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำ คือ การเอ็กซเรย์ เพราะบางโรคซักประวัติแล้วไม่พบ ตรวจร่างกายแล้วไม่พบอีก แต่สามารถตรวจพบได้จากฟิล์ม เช่น วัณโรคปอด ซึ่งพบได้มากขึ้นในปัจจุบันเนื่องจากมีเชื้อ HIV เข้ามา ทำให้ได้รับเชื้อไม่มีภูมิต้านทานและติดวัณโรคได้ง่าย แล้วถ้าพบว่ายังไม่มีภูมิต้านทาน ก็ควรฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันก่อน โดยคุณแม่ไม่ควรตั้งครรภ์ภายใน 3 เดือนหลังจากที่ฉีดวัคซีนนี้ไปค่ะ เพราะเป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อโรคที่ทำให้ฤทธิ์อ่อนลง หากปล่อยให้ตั้งครรภ์ในช่วงนี้ วัคซีนอาจก่อให้เกิดโรคหรือก่อให้เกิดความพิการกับลูกในท้องได้
ที่สำคัญหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเชื้อ HIV แล้ว แต่ทั้งคู่ยังตกลงที่จะแต่งงานกัน คงไม่สามารถปล่อยให้มีลูกได้ และต้องได้รับคำแนะนำในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันด้วย แต่หากตั้งใจที่จะมีลูก ก็ต้องไม่มีการป้องกันตัวเอง นั่นคือ มีเพศสัมพันธ์กันโดยปราศจากการป้องกันซึ่งคุณเองก็ต้องได้รับเชื้อนี้ไปด้วย ถึงแม้ว่าปัจจุบันเริ่มมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถใช้น้ำยาล้างตัวอสุจิให้ปราศจากเชื้อก่อนนำไปผสมเทียม เพื่อป้องกันติดโรคนี้ แต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย
ตรวจ…เพื่ออนาคตลูก
หากคุณอยากมีลูกที่มีสุขภาพแข็งแรง พร้อมจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ก็ต้องมาจากพ่อแม่ที่มีคุณภาพ ซึ่งก็คือการมีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคร้ายต่างๆ ด้วยค่ะ แต่ใช่ว่าคนที่เจ็บป่วยหรือเป็นพาหะของโรคจะไม่สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้นะคะ เพียงแต่ต้องมีการตรวจเช็กให้ละเอียด และมีการวางแผนร่วมกันก่อน เพื่อการป้องกันปัญหาหรือแก้ไขส่วนที่สามารถแก้ไขได้ค่ะ
รักแค่ไหน ? พิสูจน์ได้แค่ไปตรวจ
คนเราเมื่อรักกันแล้ว ย่อมไม่อยากทำอะไรให้อีกฝ่ายหนึ่งเกิดความรู้สึกคลางแคลงใจ หรือทำให้สถานะของความไว้เนื้อ เชื่อใจต้องสั่นคลอน อาจมีใครหลายคนอยากชวนคู่รักไปตรวจร่างกาย แต่ก็กลับอีกฝ่ายจะคิดว่าตนเองไม่ไว้ใจในตัวเขา กลัวการขัดแย้ง แล้วก็เลยทำลืมๆ มันไป
ไม่อยากให้คุณคิดอย่างนี้เลยค่ะ เพราะดิฉันคิดว่าการตรวจร่างกายก่อนแต่งงาน เป็นบทพิสูจน์รักแท้ได้อีกทางหนึ่งค่ะ หากตรวจแล้วพบว่าเป็นโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคทางกรรมพันธุ์หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ตาม มันเป็นโอกาสที่เราจะได้เห็นว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร พร้อมที่จะเคียงข้างใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไปหรือไม่ พร้อมที่จะใช้ความรักฟันฝ่าอุปสรรค หรือต่อสู้กับโรคร้ายไปด้วยกันหรือไม่เรื่องนี้สำคัญค่ะ เพราะรักมิใช่เพื่อคนสองคนเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงเจ้าตัวเล็กที่จะเกิดมาในอนาคตอีกด้วย
มาเริ่มต้นสร้างครอบครัวคุณภาพ และพิสูจน์ความรักของตัวคุณที่มีต่อคู่ครอง และเตรียมสิ่งดีๆ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับชีวิตของลูกน้อย ด้วยการไปตรวจร่างกายก่อนแต่งงานกันดีกว่าค่ะ