วันที่ 23 เมษายน 2562 เว็บไซต์เดอะซัน เผยเรื่องราวของ ฟาตีม กาชี สาววัย 22 ปี เจ้าของตำแหน่งมิสแมนเชสเตอร์ เมื่อปีที่ผ่านมา ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความสวยงามของเธอ กว่าจะมายืนในจุดนี้ได้ ต้องผ่านความลำบากมามากอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง
ฟาตีม เกิดในค่ายผู้ลี้ภัยในมาซิโดเนีย รัฐอิสระบนคาบสมุทรบอลข่าน ในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ภายหลังจากพ่อและแม่หลบหนีออกมาจากพื้นที่สงครามในคอซอวอ และตัวเธอเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจากเด็กที่ต้องดิ้นรนมีชีวิตรอดในวันนั้น จะมารับตำแหน่งนางงามได้อย่างภาคภูมิ ในการประกวดครั้งแรกของเธอ
ครอบครัวของฟาตีม เป็น 1 ในกว่า 100 ครอบครัวที่ค่ายผู้ลี้ภัย พวกเขาต้องพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อให้สามารถพาครอบครัวย้ายมาที่อังกฤษได้ กระทั่งตอนที่ฟาตีมอายุ 2 ขวบ ครอบครัวก็ย้ายมาลงหลักปักฐานอยู่ที่แมนเชสเตอร์ แม่ของเธอทำงานที่ร้าน Amazon ส่วนพ่อของเธอเป็นครูสอนขับรถ ขณะที่ฟาตีมทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือครอบครัวและส่งตัวเองเรียน เป็นติวเตอร์สอนคณิตศาสตร์ รับเป็นนางแบบพาร์ตไทม์ เป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบาล และไปรับจ้างช่วยงานที่สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อมีการแข่งขัน
เมื่อปีที่ผ่านมา ในขณะที่ฟาตีมกำลังจะจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยซัลฟอร์ด ในอังกฤษ เธอได้รับการติดต่อผ่านทางอินสตาแกรม ให้ไปลองเข้าร่วมประกวดนางงาม ซึ่งในตอนแรกเธอไม่สนใจ เพราะหลังจากเรียนจบ เธอต้องการจะศึกษาต่อเพื่อเป็นแพทย์ ไปทำงานที่คลินิกโรคผิวหนัง Skin HQ ในแมนเชสเตอร์ แต่ทางพ่อและแม่ของเธอเห็นว่า การเข้าร่วมการประกวดน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่เธอจะได้พักจากการเรียนบ้าง
ฟาตีม เผยว่า การตัดสินใจเข้าร่วมกับทางกองประกวด เป็นประสบการณ์ที่บ้าบิ่นและน่าทึ่งสำหรับเธอมาก เธอเล่าอีกว่า การประกวดจะเริ่มขึ้นในวันศุกร์ ในขณะที่การสอบไฟนอลของเธอจะเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ทำได้ดีเยี่ยมทั้งสองอย่าง ไม่เพียงแต่เธอจะคว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศมิสแมนเชสเตอร์ 2018 มาได้ในครั้งแรกของการประกวด แต่เธอยังคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาได้สำเร็จในการจบการศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์
สิ่งนี้ได้พิสูจน์ให้ประจักษ์ชัดว่า ไม่เพียงแต่ฟาตีมจะมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม แต่เธอยังมีความรู้ความสามารถด้านการศึกษาที่ดีเยี่ยม และเธอต้องการจะใช้คุณสมบัติของเธอเหล่านี้ ในการสร้างค่านิยมให้คนมองนางงามเสียใหม่ เธอเชื่อว่ามีสิ่งสำคัญในชีวิตที่มากกว่าคำว่าหน้าตา ความงามไม่ใช่เพียงแค่การมีใบหน้าที่สวย แต่เป็นความงามจากจิตใจภายในต่างหากที่จะทำให้เธอคว้ามงกุฎมาครอง
สำหรับฟาตีม เธอต้องการที่จะช่วยเหลือสังคม เพื่อรำลึกถึงช่วงชีวิตที่ยากลำบากของเธอในวัยเด็ก เธอมักจะใช้เวลาว่างไปเป็นอาสาสมัครตามงานการกุศลต่าง ๆ และภายหลังจากที่เธอได้รับตำแหน่งนี้ เธอคิดว่ามันเป็นโอกาสดีที่จะเปลี่ยนทัศนคติผู้คนเกี่ยวกับเรื่องการเกลียดกลัวผู้อพยพ เลิกประณามตีตราพวกเขา ผู้ลี้ภัยสงครามอาจจะรู้สึกว่าด้อยค่า ไม่มีโอกาสที่ดีในชีวิต แต่เธออยากให้พวกเขารู้ว่า ผู้ลี้ภัยสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ
"ผู้คนใช้คำว่า ผู้ลี้ภัย ในการดูถูก แต่ในทางตรงกันข้าม การเป็นผู้ลี้ภัย คุณจะมีความเข้มแข็ง และมีพลังสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ" ฟาตีม กล่าว