เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ในวงการศัลยกรรมทุกวันนี้ เห็นทีว่าจะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว เพราะการคิดค้นเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ ๆ ขึ้นมาเยอะแยะมากมาย ทำให้อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย สามารถเสริมเติมแต่งให้ดูสวยเนี๊ยบขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าการผ่าตัดทุกส่วนของร่างกายจะปลอดภัยไปเสียทั้งหมด ยังมีการศัลยกรรมอีกหลายส่วนที่ต่อให้ทำในคลินิกที่ได้มาตรฐานอย่างไร ก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี เรียกว่านอกจากความสวยแล้ว คุณยังได้ความเสี่ยงมาด้วยเป็นของแถมอย่างปฏิเสธไม่ได้
และการศัลยกรรมที่กระปุกดอทคอมนำมาเล่าให้ฟังกันในวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งศัลยกรรมที่มีความเสี่ยงอย่างมากมาย และดูเหมือนว่ามันจะเป็นการศัลยกรรมที่มีความเสี่ยงอันดับต้น ๆ เสียด้วย นั่นคือ การผ่าตัดยกบั้นท้าย ที่กำลังเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้
การผ่าตัดยกบั้นท้าย เป็นการผ่าตัดเสริมบั้นท้ายให้ดูมีสัดส่วนสวยงามมากขึ้น ด้วยการใส่ซิลิโคนชนิดแน่นหนืดเข้าไปยกบั้นท้ายขึ้น ป้องกันการหย่อนคล้อยและแบนของบั้นท้าย โดยวิธีการผ่าตัดเสริมบั้นท้ายนั้น แพทย์จะวางยาสลบ แล้วผ่าบริเวณร่องก้นเป็นแนวยาวประมาณ 2-3 นิ้ว ยกชั้นกล้ามเนื้อบริเวณบั้นท้ายขึ้น ก่อนจะใส่ซิลิโคนเข้าไปแทนที่ เพื่อยกเนื้อบริเวณบั้นท้ายไว้ หรือเสริมให้บั้นท้ายที่แบนดูมีสัดส่วนสวยงาม เสร็จแล้วแพทย์ก็จะเย็บปิดปากแผลผ่าตัดให้สวยงาม แล้วใช้ผ้าพันแผลปิดทับไว้ป้องกันการอักเสบ
โดยการผ่าตัดยกบั้นท้ายนี้ ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 2-3 ชั่วโมง และหลังจากผ่าตัดเสร็จ ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะไม่สามารถนอนหงาย หรือนั่งได้เลยในช่วง 2-3 วันแรก หรือมากกว่านั้น และรู้สึกปวดบริเวณบั้นท้ายไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนที่อาการจะค่อย ๆ ทุเลาลงจนหายดี ดังนั้น ผู้เข้ารับการผ่าตัดยกบั้นท้าย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเวลาว่างถึง 15 วัน เพื่อนอนพักและงดใช้บั้นท้ายจนกว่าอาการเจ็บจะทุเลาลงไป ส่วนราคาค่าผ่าตัดนั้น อยู่ที่ประมาณ 100,000 - 400,000 บาท
แม้ว่าการผ่าตัดยกบั้นท้ายจะทำให้คุณมีบั้นท้ายที่กลมกลึงสวยงามเหมือนกับ เจนิเฟอร์ โลเปซ หรือ บียอนเซ่ และช่วยเสริมความมั่นใจขึ้นได้มากมาย แต่มันก็เป็นการศัลยกรรมที่มีความเสี่ยงสูงมาก เนื่องจากในชีวิตประจำวันของคนเรา ต้องใช้บั้นท้ายในการนั่ง นอน ซึ่งทำให้บั้นท้ายมีการสัมผัส เสียดสี และกดทับรับน้ำหนักของร่างกายอยู่เกือบตลอดเวลา ดังนั้น การเสริมซิลิโคน หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในบริเวณบั้นท้ายที่ถูกกดทับและเสียดสีไปมานั้น จะทำให้สิ่งแปลกปลอมในบั้นท้ายเกิดการเคลื่อนตัว เสี่ยงต่อการอักเสบและเจ็บปวดได้อย่างง่ายดาย และนอกจากจะทำให้เกิดการอักเสบแล้ว การฉีดซิลิโคนและสารต่าง ๆ เข้าไปบริเวณบั้นท้าย ยังอาจทำให้เกิดการซึมไหลเข้าไปในกระแสเลือด สร้างความเจ็บปวดทุรนทุรายก่อนจะเสียชีวิตในที่สุด
โดยตั้งแต่มีการศัลยกรรมยกบั้นท้ายเกิดขึ้น ก็มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายราย เช่น เมื่อ 2 ปีก่อน โซแลง แมคนาโน อดีตมิสอาร์เจนตินา ประจำปี 1994 ต้องเสียชีวิตจากการผ่าตัดบั้นท้ายที่มีการฉีดสารบางอย่างเข้าไปบริเวณสะโพก และสารดังกล่าวนี้ได้ซึมไหลเข้าไปในกระแสเลือด จนไปถึงปอดและสมอง เธอต้องนอนเจ็บปวดทุรนทุรายอยู่ถึง 3 วันก่อนจะเสียชีวิตลงในที่สุด และกรณีล่าสุด คลอเดีย อาเดอโรติมี่ สาวชาวอังกฤษวัย 20 ปีต้องมาจบชีวิตลงด้วยสาเหตุเดียวกัน เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้ และทำให้การศัลยกรรมยกบั้นท้ายถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงกันในวงกว้างเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการศัลยกรรมยกบั้นท้ายจะเปิดให้บริการในคลินิกหลายแห่งทั่วโลก แต่ศัลยแพทย์หลายคนกลับไม่แนะนำการผ่าตัดยกบั้นท้ายเท่าไรนัก เพราะอวัยวะส่วนนี้ไม่ควรมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอยู่เลย และก็ยังมีคลินิกหลายแห่งที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้น การหลีกเลี่ยงทำศัลยกรรมบริเวณบั้นท้ายจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด แม้บั้นท้ายของสาว ๆ หลายคนอาจจะไม่สวยและยังไม่เป็นที่พอใจก็ตาม เพราะมันคงไม่คุ้มกันนัก หากความสวยที่ได้มานั้น จะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่ทำให้คุณจะต้องมาคอยกังวลและระแวดระวังในทุกอิริยาบทไปตลอด
แต่ถ้าหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ยังคงไม่พอใจบั้นท้ายของตัวเอง และอยากเข้ารับการผ่าตัดยกบั้นท้าย ก็ควรจะศึกษาข้อมูลและปรึกษาศัลยแพทย์เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยและการปฏิบัติตัวหลังจากรับการผ่าตัดให้ชัดเจนที่สุด และศึกษาวิธีการผ่าตัดอย่างละเอียดถี่ถ้วน และสุดท้าย อย่าลืมถามตัวเองดูดี ๆ ว่า คุณพร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่โดยมีสิ่งแปลกปลอมอยู่บริเวณบั้นท้ายของตัวเองหรือไม่ และจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าหากวันหนึ่งคุณรู้สึกว่าอยากเอาสิ่งแปลกปลอมที่อยู่บริเวณบั้นท้ายนั้นออกไป แต่เมื่อคุณเอามันออกได้แล้ว บั้นท้ายกลับมีรูปทรงที่ไม่เป็นที่พอใจยิ่งกว่าก่อนผ่าตัดเสียอีก เพราะการศัลยกรรมยกบั้นท้ายนั้น เป็นศัลยกรรมประเภทฉีดสารและสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย ซึ่งเมื่อวันหนึ่งที่คุณตัดสินใจเอามันออกไปแล้ว และไม่อยากเสริมแต่งด้วยวิธีการฉีดสิ่งแปลกปลอมใด ๆ เข้าไปอีก คุณก็อาจจะต้องทำใจยอมรับกับรอยแผลหรือความผิดปกติที่ไม่อาจกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกเลยตลอดไปก็เป็นได้
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
