วิธีแก้ขอบตาลึก สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาหน้าโทรม ดูแก่ เพราะขอบตาลึก หมองคล้ำอยู่ละก็ มารวมกันตรงนี้เลย เรามีวิธีดูแลรักษาให้ดวงตาของคุณกลับมาสวยสดใสดังเดิมมาฝาก
![แต่งหน้า]( "แต่งหน้า")
เคยไหม ? เจอใครก็โดนทักว่าหน้าโทรม ดูไม่สดใส ทั้ง ๆ ที่แต่งหน้าปกติเหมือนทุกวัน ปัญหานี้อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือปัญหาเรื่อง ขอบตาลึก หมองคล้ำ จนทำให้ใบหน้าของสาว ๆ ดูโทรมเหมือนคนอดนอนตลอดเวลานั่นเอง แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีแก้ขอบตาลึกมาฝาก สำหรับใครที่กำลังกลุ้มใจกับปัญหาเหล่านี้อยู่ละก็ รีบตามมาดูกันเลย
ขอบตาลึก มีลักษณะอย่างไร
วิธีสังเกตว่าสาว ๆ ขอบตาลึกหรือไม่ ? ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ส่องกระจกแล้วลองสังเกตผิวที่บริเวณรอบดวงตาของตัวเอง หากมีลักษณะดังนี้แสดงว่าคุณกำลังประสบปัญหาขอบตาลึกอยู่แน่นอน
1. ผิวบริเวณใต้ตามีสีคล้ำกว่าปกติ หรือคล้ำกว่าบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้า
2. ผิวบริเวณใต้ตาดูบางลง
3. ผิวบริเวณใต้ตายุบตัวลงจนสังเกตได้
4. หน้าดูโทรม อ่อนเพลีย เหมือนคนอดนอน
![แต่งหน้า]( "แต่งหน้า")
ขอบตาลึก มีสาเหตุเกิดจากอะไร
- อายุที่เพิ่มขึ้นถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ขอบตาลึกตามไปด้วย เพราะนอกจากคอลลาเจน และไขมันบริเวณใต้ตาจะฝ่อตัวลงไปตามวัยแล้ว ร่องใต้ตาของทุกคนจะยิ่งขยายตัวมากขึ้นตามอายุด้วย
- การออกกำลังกาย หรือลดน้ำหนักแบบหักโหม ส่งผลให้ไขมันบริเวณใต้ตาลดลงอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นร่องลึกบริเวณใต้ตา
- เกิดจากพันธุกรรม
- ร่างกายขาดวิตามินซี วิตามินเค และธาตุเหล็ก
- นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เบ้าตาลึก ผิวบริเวณรอบดวงตาคล้ำ โทรม ไม่สดใส
วิธีแก้ขอบตาลึก
1. บำรุงผิวรอบดวงตาด้วยอายครีม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผิวทุกส่วนของสาว ๆ ต้องการการบำรุง ไม่เว้นแม้แต่ผิวบริเวณรอบดวงตา ที่มีความบอบบางกว่าส่วนอื่น ๆ โดยแนะนำให้ทาอายครีมที่มีส่วนผสมของ Proprietary Retinoid ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวบริเวณรอบดวงตา ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตากระจ่างใส พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกใต้ตาให้ดูเรียบเนียน และตื้นขึ้น
2. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ เพราะเห็นผลทันทีหลังทำ เจ็บตัวน้อย และไม่ต้องพักฝื้น โดยเป็นการนำสารไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังใต้ตาบริเวณเป็นร่องลึก เพื่อช่วยเติมเต็มให้ใต้ตาตาดูมีน้ำมีนวล และอวบอิ่มขึ้น แต่ข้อเสียก็คือฟิลเลอร์จะสามารถอยู่ได้ชั่วคราวประมาณ 6-8 เดือน แล้วจะสลายไปเองได้หมดโดยไม่ตกค้างในร่างกาย
![แต่งหน้า]( "แต่งหน้า")
3. ฉีดไขมัน
นอกจากการฉีดฟิลเลอร์แล้ว ปัจจุบันก็ยังมีการฉีดไขมันที่ฮอตฮิตไม่แพ้กัน โดยเป็นการดูดไขมันจากส่วนต่าง ๆ ของร่ายกายตัวเอง เช่น บริเวณหน้าท้องหรือต้นขา มาฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังใต้ตาเพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ซึ่งการฉีดไขมันดีกว่าการฉีดฟิลเลอร์ตรงที่สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเป็นการนำไขมันของตัวเองมาฉีดเข้าไป
4. แต่งหน้าช่วยได้
หากสาว ๆ คนไหนมีขอบตาลึก หมองคล้ำ จนทำให้หน้าดูโทรม พลังของการแต่งหน้าสามารถช่วยคุณได้ โดยแนะนำให้เลือกใช้คอนซีลเลอร์ที่สว่างกว่าผิวจริง 1 เฉด ลงบริเวณใต้ตาเป็นรูปสามเหลี่ยมแบบกลับหัว เพื่อปกปิดรอยพับ และรอยคล้ำบริเวณใต้ตา ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย และประหยัดเงินในกระเป๋าที่สุด !
![แต่งหน้า]( "แต่งหน้า")
5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ผิวของผู้สูบแก่ก่อนวันอันควรด้วย เนื่องจากในบุหรี่มีสารเคมีที่เป็นตัวทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น
6. พักผ่อนให้พียงพอ
ทางออกที่ดี และง่ายที่สุดของการแก้ปัญหาขอบตาลึกคือ การนอนหลับผักผ่อนให้เพียงพอเฉลี่ยวันละ 7-6 ชั่วโมง เพื่อให้ดวงตาคู่สวยของสาว ๆ กลับมาสดใสดังเดิม
เมื่อรู้วิธีแก้ขอบตาลึกแบบนี้แล้ว สาว ๆ อย่าลืมนำไปปฎิบัติตามกันดูนะคะ เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ อย่าปล่อยให้คล้ำ โทรม เด็ดขาดเชียวนะ !
ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, medicalnewstoday.com, ciinmagazine.com
ขอบตาลึก มีลักษณะอย่างไร
วิธีสังเกตว่าสาว ๆ ขอบตาลึกหรือไม่ ? ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ส่องกระจกแล้วลองสังเกตผิวที่บริเวณรอบดวงตาของตัวเอง หากมีลักษณะดังนี้แสดงว่าคุณกำลังประสบปัญหาขอบตาลึกอยู่แน่นอน
1. ผิวบริเวณใต้ตามีสีคล้ำกว่าปกติ หรือคล้ำกว่าบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้า
2. ผิวบริเวณใต้ตาดูบางลง
3. ผิวบริเวณใต้ตายุบตัวลงจนสังเกตได้
4. หน้าดูโทรม อ่อนเพลีย เหมือนคนอดนอน
- อายุที่เพิ่มขึ้นถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ขอบตาลึกตามไปด้วย เพราะนอกจากคอลลาเจน และไขมันบริเวณใต้ตาจะฝ่อตัวลงไปตามวัยแล้ว ร่องใต้ตาของทุกคนจะยิ่งขยายตัวมากขึ้นตามอายุด้วย
- การออกกำลังกาย หรือลดน้ำหนักแบบหักโหม ส่งผลให้ไขมันบริเวณใต้ตาลดลงอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นร่องลึกบริเวณใต้ตา
- เกิดจากพันธุกรรม
- ร่างกายขาดวิตามินซี วิตามินเค และธาตุเหล็ก
- นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เบ้าตาลึก ผิวบริเวณรอบดวงตาคล้ำ โทรม ไม่สดใส
วิธีแก้ขอบตาลึก
1. บำรุงผิวรอบดวงตาด้วยอายครีม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผิวทุกส่วนของสาว ๆ ต้องการการบำรุง ไม่เว้นแม้แต่ผิวบริเวณรอบดวงตา ที่มีความบอบบางกว่าส่วนอื่น ๆ โดยแนะนำให้ทาอายครีมที่มีส่วนผสมของ Proprietary Retinoid ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวบริเวณรอบดวงตา ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตากระจ่างใส พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกใต้ตาให้ดูเรียบเนียน และตื้นขึ้น
2. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ เพราะเห็นผลทันทีหลังทำ เจ็บตัวน้อย และไม่ต้องพักฝื้น โดยเป็นการนำสารไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังใต้ตาบริเวณเป็นร่องลึก เพื่อช่วยเติมเต็มให้ใต้ตาตาดูมีน้ำมีนวล และอวบอิ่มขึ้น แต่ข้อเสียก็คือฟิลเลอร์จะสามารถอยู่ได้ชั่วคราวประมาณ 6-8 เดือน แล้วจะสลายไปเองได้หมดโดยไม่ตกค้างในร่างกาย
นอกจากการฉีดฟิลเลอร์แล้ว ปัจจุบันก็ยังมีการฉีดไขมันที่ฮอตฮิตไม่แพ้กัน โดยเป็นการดูดไขมันจากส่วนต่าง ๆ ของร่ายกายตัวเอง เช่น บริเวณหน้าท้องหรือต้นขา มาฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังใต้ตาเพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น ซึ่งการฉีดไขมันดีกว่าการฉีดฟิลเลอร์ตรงที่สามารถอยู่ได้นานถึง 1 ปี โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเป็นการนำไขมันของตัวเองมาฉีดเข้าไป
4. แต่งหน้าช่วยได้
หากสาว ๆ คนไหนมีขอบตาลึก หมองคล้ำ จนทำให้หน้าดูโทรม พลังของการแต่งหน้าสามารถช่วยคุณได้ โดยแนะนำให้เลือกใช้คอนซีลเลอร์ที่สว่างกว่าผิวจริง 1 เฉด ลงบริเวณใต้ตาเป็นรูปสามเหลี่ยมแบบกลับหัว เพื่อปกปิดรอยพับ และรอยคล้ำบริเวณใต้ตา ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย และประหยัดเงินในกระเป๋าที่สุด !
การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ผิวของผู้สูบแก่ก่อนวันอันควรด้วย เนื่องจากในบุหรี่มีสารเคมีที่เป็นตัวทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น
6. พักผ่อนให้พียงพอ
ทางออกที่ดี และง่ายที่สุดของการแก้ปัญหาขอบตาลึกคือ การนอนหลับผักผ่อนให้เพียงพอเฉลี่ยวันละ 7-6 ชั่วโมง เพื่อให้ดวงตาคู่สวยของสาว ๆ กลับมาสดใสดังเดิม
เมื่อรู้วิธีแก้ขอบตาลึกแบบนี้แล้ว สาว ๆ อย่าลืมนำไปปฎิบัติตามกันดูนะคะ เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ อย่าปล่อยให้คล้ำ โทรม เด็ดขาดเชียวนะ !
ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, medicalnewstoday.com, ciinmagazine.com
