ขวัญภิรมย์ หลิน เต้าเงินล้านในตำนาน เปลือยชีวิตสุดอัดอั้น เจอแต่คำดูถูกเป็นแค่ ดาวโป๊ !!

          ขวัญภิรมย์ : 30 กว่าปีแล้วนะที่พี่ออกเลย พี่เข้าวงการตอนอายุ 19 ปี ตอนนี้ 50 กว่าแล้ว

          ขวัญภิรมย์ : สมัยก่อนมีผู้ชายเขาบอกว่าเป็นคนที่หน้าอกสวย เสร็จแล้วพี่เข้าวงการมาปุ๊บ ได้ไปทำประกันหน้าอก 1 ล้าน เขาก็เลยเรียกเต้าเงินล้าน ได้ฉายามาเพราะตรงนี้

          ขวัญภิรมย์ : ตอนเด็ก ๆ วัยรุ่น คัพ D แล้วเป็นธรรมชาติไม่เคยทำ

          ขวัญภิรมย์ : เงินหาง่าย เพราะยุคนั้นมีน้อยคนที่จะลุกมาเซ็กซี่ กล้าที่จะทำแบบนี้

          ขวัญภิรมย์ : ส่วนมากจะเป็นงานโชว์ตัวเยอะ เพราะมันดังทางเซ็กซี่ พวกผับ พวกบาร์ ก็จะจ้างไป แต่ถ่ายแบบมันได้ไม่เยอะหรอก ได้แล้วแต่งาน ได้เป็นแสน หลายแสน แล้วแต่ว่าถ่ายอะไร แต่โชว์ตัวมีทุกคืน

          ขวัญภิรมย์ : จีบเยอะ แต่พี่ก็มีแฟนเด็กนอกวงการตุนไว้แล้ว ก็เลยไม่ได้สนใจ

          ขวัญภิรมย์ : อันนั้นมาทีหลัง แรก ๆ ตอนเข้าวงการ สักพักก็จะมีแฟนนอกวงการเป็นเด็กที่เราตุนไว้อยู่แล้ว แต่ก็มีคนเดียวนะ

          ขวัญภิรมย์ : ทีแรกที่ตุนไว้ เหมือนกำลังอยากจะเลิกพอดี เผอิญพี่ไปโชว์ตัวที่อเมริกา ก็ไปเจอพระเอกคนนี้ แต่ตอนนั้นเขายังไม่เข้าวงการ แต่พอเขากลับมาเมืองไทยปุ๊บเขาก็มาเป็นพระเอกเลย ก็คบกัน ที่คบซ้อนนี่คือครั้งแรกในชีวิตเลย

          ขวัญภิรมย์ : ไม่มีคนรู้ แต่ว่าคนในวงการเวลาเราไปกองถ่ายเขาพอรู้พอเห็นบ้าง

          ขวัญภิรมย์ : คิดว่าตัวเองไม่เจ้าชู้ เพราะว่าโดยปกติคบเป็นคน ๆ เลย จะไม่ชอบคบซ้อน มีครั้งเดียวเลยที่คบซ้อน

          ขวัญภิรมย์ : นั่งทำงานอยู่ก็ไม่รู้หรอกว่าวัน ๆ ไปไหน เวลาก่อนจะเข้าบ้านก็คุยลาคนนี้ก่อน คุยให้เสร็จแล้วค่อยเข้าบ้าน เพราะเด็กอยู่ในบ้าน

          ขวัญภิรมย์ : ไม่เหนื่อย สนุก พูดเล่น ก็เป็นแบบนี้ไม่กี่เดือน เพราะตัดสินใจแล้วว่าจะคบพระเอก พี่เลยเลิกดื้อ ๆ ทิ้งเฉยเลย เขาก็มาตามง้อ เจอที่ลิฟต์ ก็มายืนคุย เขาบอกกลับบ้านเราเถอะ เราก็บอกไม่ ตัดสินใจแล้ว

          ขวัญภิรมย์ : ไม่ใช่หนีออกจากบ้านมาเข้าวงการ ตัวขวัญเองหนีออกจากบ้าน เพราะทนความลำบากที่บ้านไม่ไหว ที่บ้านเป็นคนจีน พ่อขี้เหนียว จ้างลูกน้องน้อยมาก ทุกคนในบ้านต้องแบ่งงานกันหมด ต้องทำงานทุกคน แล้วงานไม่ใช่งานธรรมดา ทำฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ มันต้องคลุกคลีกับหมูกับไก่ งานมันมีตั้งแต่เช้าถึงค่ำ กว่าเราจะได้นอน กว่าจะได้พัก ไม่ใช่พี่ไม่ชอบ พี่ทนทำมากี่ปี พี่เหนื่อย ไม่ไหว จนอายุ 10 กว่า ตัดสินใจออกจากบ้าน หนีตามเพื่อนมากรุงเทพฯ พี่ไม่เคยออกจากตัวเชียงรายเลย

          ขวัญภิรมย์ : พ่อก็โกรธ พ่อแค่ให้ค่ารถมา ทุกวันนี้ไปคุยกับเขา เขาบอกว่าที่ให้แค่ค่ารถก็กะว่ามันไปไหนไม่รอดหรอก เดี๋ยวมันก็กลับมา แต่ปรากฏว่าไปจริง ๆ

          ขวัญภิรมย์ : ขวัญรับงานครั้งแรกเลยมันเป็นชุดว่ายน้ำ ถ่ายให้น่าจะเป็นของฮ่องกง แต่อันนี้มันต้องถ่ายโปสเตอร์หนัง มันต้องโป๊ เขาก็จะให้ตากล้องกับคนจัดไฟอยู่ในห้องกับเรา เขาก็เอาผ้ามาล้อมไว้ มันก็มีนอนถ่ายบ้างอะไรบ้าง ก็อาจจะมีโป๊ เสร็จแล้วทีนี้มีคนมาแอบดู เราก็เห็น คือเราเป็นคน มีความอายอยู่ ทำไมต้องมาแอบดูเหมือนเราไม่ใช่คน เรารู้สึกไม่มีความเป็นคนอยู่ในตัว อาย เลยร้องไห้

          ขวัญภิรมย์ : สมัยก่อนบูลลี่ก็แบบประมาณว่าไม่รู้ว่าบูลลี่หรือเปล่า แต่ความคิดพี่คือแบ่งชนชั้น ถ้าเขาเป็นนางเอกเขาก็จะไม่มองเราเลย เหมือนเราแค่ดาวโป๊ประมาณนั้น

          ขวัญภิรมย์ : พี่รู้สึกอย่างนั้น รู้สึกว่าพี่ด้อยค่า เพราะว่าคนจะมองว่านี่ขายแต่ความเซ็กซี่อย่างเดียว แต่พี่ก็สู้นะ พี่สู้อยู่นาน เพื่อให้คนเวลาเจอเราจะได้รู้ว่าเราเป็นคนยังไง

          ขวัญภิรมย์ : มันก็หลายอย่างรวม ไหนจะชีวิตส่วนตัวที่วุ่นวายอยู่ เสร็จแล้วทำงานเหนื่อยด้วย ถ่ายละคร โชว์ตัว บางทีถ่ายถึงตี 4 แล้ว 6 โมงเช้า นัดกอง 7 วันแทบไม่ได้นอนเลย พี่ก็เลยมานั่งคิดว่าอุตส่าห์หนีความเหนื่อยมา ทำไมมาเหนื่อยอย่างนี้ สรุปชีวิตเราต้องการอะไร คือยังเด็กด้วยแหละ คิดไม่เป็น

          ขวัญภิรมย์ : ตอนนั้นอาจจะเป็นอกหักจากแฟนก่อน เลยออกจากวงการ พระเอกนั่นไง คือตัวพี่ทำพี่เอง เขามาคลุกคลีอยู่กับพี่ 24 ชั่วโมง ไม่กลับบ้านตัวเอง แม้กระทั่งแม่บอกว่าวันอาทิตย์กินข้าวด้วยกันนะ ก็ไม่ไป หลงติดกันหนึบเลย ตอนหลังลูกไม่ไปกินข้าวที่บ้านก็ทำปิ่นโตมาให้ที่คอนโดเรา เราก็เลยสงสาร รู้สึกผิด ก็หาเรื่องเลิกเขา หนีกลับบ้านเลย ก็หาเรื่องกลับบ้านเพื่อให้เขาห่างเรา ไม่งั้นเขาไม่ห่าง สงสารแม่ ความเป็นผู้หญิงเขาคงไม่อยากได้ดาวโป๊ไปเป็นสะใภ้เขา

          ขวัญภิรมย์ : นานอยู่นะกว่าจะเจอ คือพี่เลิกกับพระเอกไปพี่ก็ไปมีครอบครัว มีลูก 1 คน สุดท้ายคือเจอพี่เบิร์ดแล้วก็มีลูกอีก 1 คน

          ขวัญภิรมย์ : เขาก็ตัวติดกับพี่ คลุกคลีกันตลอด

          ขวัญภิรมย์ : ไม่มี

          ต่อ : ไม่มี อยู่ด้วยกันเหมือนเป็นเพื่อนกัน เป็นพี่ คุยได้ทุกเรื่องเลย พาไปช้อปปิ้งทุกอย่าง ตอนเด็ก ๆ ต่ออยากเป็นดีไซเนอร์ก็เลยชอบเรื่องพวกนี้

          ต่อ : ใช่ ตั้งแต่เบบี้เลย

          ต่อ : ไม่ได้เหมือนกับบอก หนูไปเรื่อย ๆ เหมือนมามี้รู้อยู่แล้วตั้งแต่เด็กว่าเป็น เอาเดรสมามี้มาใส่ มามี้ก็คือตัดขาให้เรียบร้อย

          ขวัญภิรมย์ : จริง ๆ คาดหวังว่าจะเหลือคนหนึ่ง เพราะว่าคนโตทีแรกแมน ๆ แต่ตอนนี้ พอคนนี้เป็นก็เฉย ๆ ยอมรับได้แล้ว ทีแรกอยากได้ลูกสาว เขาออกมาดันเป็นลูกชาย

          ขวัญภิรมย์ : นางขี่รถบิ๊กไบค์แล้วก็ไปล้มขาหัก เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ตอนนี้ก็ดามเหล็กอยู่ ทีแรกตอนเขาไปหัวหินกับเรา เขาก็พาแฟนผู้หญิงไปตลอด ไม่เคยรู้ อยู่ดี ๆ วันนั้นขาหักก็เลยแบบไหน ๆ ชีวิตคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วก็เลยบอกแม่เลยดีกว่า เขาก็เลยบอกว่า แม่ ลูกมีอะไรจะบอก เรานึกในใจสงสัยทำผู้หญิงท้องแน่เลย ลึก ๆ ในใจเราเป็นคนรักเด็ก ไม่เป็นไรคงได้เลี้ยงหลานสมใจ เขาบอกว่าลูกคบกับรุ่นพี่อยู่ เราก็คิดว่ารุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย แต่เป็นรุ่นพี่ผู้ชาย

          ขวัญภิรมย์ : นิด ๆ เพราะว่าคาดหวังไง เวลาไปห้างด้วยกันก็จะบอกว่าชุดนี้นะเดี๋ยวให้ลูกพี่ต้นใส่ คิดว่าเหลือสักคนก็ยังดี พอเขาบอกปุ๊บ วินาทีแรกอึ้งแป๊บ พอคิดได้ก็บอกเขาไม่เป็นไรลูก เป็นอะไรก็ได้ ขอแค่ลูกเป็นคนดีของสังคมก็พอ

          ติดตามชมรายการ คุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.40-1430 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama