x close

คลอดเอง VS ผ่าคลอด

 

 

 

คลอดเอง VS ผ่าคลอด  (รักลูก)

 

          ช่วงเวลาใกล้คลอดถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่สำคัญของคุณแม่ทุกคน เพราะการคลอดนั้นนอกจากจะเกี่ยวพันถึงสุขภาพของลูกที่จะเกิดมา ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพของคุณแม่ด้วย ดังนั้นการจะคลอดด้วยวิธีไหน จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณแม่ควรให้ความสำคัญค่ะ

 


1. คลอดแบบไหนเจ็บกว่ากัน?

 


คลองเอง


          มองเผินๆ อาจจะดูเหมือนว่าเจ็บกว่าค่ะ แต่จริงๆ แล้วการคลอดเองนั้นจะเกิดความเจ็บปวดเฉพาะในขณะคลอด แต่ก็เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ และจะทุเลาได้จากยาแก้ปวด การบล็อกหลัง และแผลจากการคลอดเองก็เล็กมากด้วย

 

ผ่าคลอด


          ขณะคลอดจะไม่เจ็บเลย เพราะฤทธิ์ของยาสลบหรือการบล็อกหลัง แต่หลังจากคลอดเสร็จเมื่อหมดฤทธิ์ยาชาคุณแม่จะรู้สึกเจ็บปวดทรมาน ยิ่งกว่าคลอดเอง โดยจะเจ็บแผลผ่าตัดมากในวันแรกๆ และยังมีแบบเจ็บน้อยๆ อีก ซึ่งกินเวลาเป็นเดือน (เจ็บน้อยๆ คือช่วงที่แผลผ่าตัดยังอยู่ที่หน้าท้อง เย็บติดเรียบร้อยแล้ว แต่กำลังมีการประสานกันของแผล) เวลาที่คุณแม่ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อจะทำกิจวัตรประจำวัน หากขยับแถวหน้าท้องก็จะไปรั้งเอาแผลผ่าตัดให้เคลื่อนด้วย ทำให้รู้สึกเจ็บ รวมทั้งเวลาอุ้มและให้นมลูก ซึ่งต้องวางตรงหน้าท้อง ก็จะทำให้เจ็บได้ค่ะ

 

 

2. ผลดีและผลเสียต่อสุขภาพของลูกเป็นอย่างไร?

 

คลอดเอง


           วิธีที่ใกล้เคียงธรรมชาติจะดีและปลอดภัยที่สุด เด็กที่คลอดเองเมื่อครบกำหนด เด็กจะคลอดผ่านทางช่องคลอดซึ่งเป็นช่องแคบๆ ที่จะรีดน้ำในช่องปอดออกจนแห้ง รวมทั้งน้ำคร่ำที่อยู่ในกระเพาะอาหารด้วย แล้วเมื่อลอดช่องคลอดออกมาได้ ก็จะดีกับเด็กเวลาที่เขาหายใจ คือจะหายใจได้เต็มร้อย ปอดขยายเต็มที่ และร้องได้เสียงดัง ดูดนมได้เก่งเพราะในน้ำคร่ำถูกรีดออกไปแล้ว

          นอกจากนี้เด็กที่คลอดเองจะได้รับแบคทีเรียทางช่องคลอดของแม่เข้าไป ซึ่งแบคทีเรียจะไปสร้างภูมิต้านทานป้องกันโรคภูมิแพ้แก่เด็ก ซึ่งเด็กที่ผ่าคลอดจะไม่มีโอกาสได้รับแบคทีเรียจากช่องคลอด และมีโอกาสเป็นภูมิแพ้สูงกว่าด้วย

 

ผ่าคลอด


          เรื่องสุขภาพจะสู้เด็กที่คลอดเองไม่ได้ เพราะปอดของลูกจะขยายได้ไม่เต็มร้อย เนื่องจากไม่ได้มีการรีดน้ำคร่ำออกระหว่างการคลอด พิสูจน์ได้จากการนำเด็กไปเอ็กซเรย์ จะพบน้ำที่ค้างอยู่ในปอดจำนวนหนึ่ง เด็กที่ผ่าคลอดจะดูดนมไม่เก่งเพราะในกระเพาะจะมีน้ำคร่ำอยู่มาก หากมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบหรือคลอดก่อนกำหนด จะทำให้หายใจไม่แข็งแรง เด็กที่ผ่าคลอดจะอาการแย่กว่าเด็กที่คลอดเองค่ะ

 

3. ความรู้สึกของการคลอดเอง และผ่าตัดคลอดต่างกันหรือไม่?

 

คลอดเอง

          การคลอดเองนั้นเป็นความรู้สึกภูมิใจที่ได้เบ่งคลอด เป็นความเจ็บปวดบนความสุข เพราะพอคลอดแล้วจะได้กอดลูกเลยทันทีเป็นคนแรก แถมยังเข้าใจถึงความรู้สึกของแม่ทำให้เรารักแม่มากขึ้นด้วย

 

ผ่าคลอด

          คุณแม่จะไม่มีโอกาสได้อุ้มลูก เพราะต้องดมยาสลบ แต่ถ้าบล็อกหลังอาจจะได้มอง แต่อาจจะไม่มีโอกาสได้กอดลูก เมื่อแรกเกิด เพราะหน้าอกถูกคลุมไว้ แขนขาถูกมัดไว้หมด อยากจะกอดลูกก็ทำไม่ได้ ได้แค่มองดูลูกเฉยๆ

 

4. คลอดแบบไหน ปลอดภัยมากกว่ากัน?

 

คลอดเอง

          ถ้าการตั้งครรภ์ของคุณแม่ปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร การคลอดเองก็จะมีความปลอดภัยสูงค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีคุณหมอและทีมเตรียมพร้อมอยู่ในห้องคลอดแล้ว เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์พร้อมมาก ความปลอดภัยสูงนอกจากนี้ลูกยังได้คลอดตามเวลาของเขาเองจริงๆ

 

ผ่าคลอด

          เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยเช่นกันค่ะ และใช้เวลาไม่นาน แต่สำหรับลูกที่ผ่าคลอดเพราะต้องการให้ได้ฤกษ์ดี อาจจะกลายเป็นเรื่องไม่ดีได้ค่ะ เพราะเด็กอาจจะคลอดก่อนกำหนดหรือว่าถ้าเป็นฤกษ์ที่เกิดตอนดึกมากๆ จะทำให้บุคลากร และการเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยลดประสิทธิภาพลง

 

5. การมีเพศสัมพันธ์หลังคลอดจะมีปัญหาหรือไม่ อย่างไร?

 

คลอดเอง

          การคลอดเองทำให้แผลหายเร็ว และรอยแผลก็จะเหลืออยู่ตรงช่องคลอดบางๆ หรือบางคนอาจไม่มีเลย จึงทำให้สามารถเริ่มต้นการมีสัมพันธ์กับสามีได้เร็วกว่าการผ่าคลอด

 

ผ่าคลอด

          การผ่าคลอดทำให้มีแผลที่หน้าท้อง และแผลในชั้นกล้ามเนื้อท้อง เพราะถูกตัดขาดตอนผ่าท้อง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องลดลง ถ้าเย็บไม่ดีก็จะทำให้ผนังหน้าท้องหย่อนยานได้ และมีแผลเป็นที่มดลูก เวลาที่ผ่าคลอดนั้นในช่องท้องต้องมีการถลอก มีการถูไถ แล้วจะมีเลือดไหลเลอะในช่องท้อง มีน้ำคร่ำไหลเข้าไปเลอะในช่องท้อง

          สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดพังผืดในช่องท้อง โดยอาจเกิดพังผืดยืดติดระหว่างมดลูกกับกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้กับเยื่อบุช่องท้อง อาจเกิดเจ็บท้องเรื้อรัง โดยไม่สามารถรักษาได้เพราะพังผืดยิ่งผ่าจะยิ่งเพิ่ม แล้วท้องต่อไปยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดการปวดประจำเดือน ปวดท้องไม่ทราบสาเหตุ

 

6. การให้นมแม่หลังคลอด เป็นอย่างไร?

 

คลอดเอง

          การคลอดเองจะให้นมแม่ได้รวดเร็วค่ะ และจะทำให้กระบวนการเริ่มต้นของนมแม่ดีไปด้วย เพราะมีการดูดเร็วดูดบ่อย ดูดถูกวิธี พอคลอดเสร็จ โรงพยาบาลส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเอาลูกมาให้คุณแม่เลี้ยงเลย ลูกจะได้รับการดูดกระตุ้นแต่แรก เพราะฉะนั้นน้ำนมแม่ก็จะมาดีและรวดเร็ว

 

ผ่าคลอด

          ยังไม่สามารถเลี้ยงลูกได้เองในวันแรก ต้องปล่อยเวลาสัก 1 วัน การดูดกระตุ้นก็ช้าลง หรือว่าดูดกระตุ้นได้ไม่ดีและคุณแม่จะอุ้มไม่ถนัดเพราะเจ็บแผล ให้ลูกดูดได้น้อยน้ำนมอาจไม่มาหรือมาน้อย และคุณภาพของน้ำนมสู้ไม่ได้ เพราะแม่เสียเลือดมากกว่าเท่าตัว

 

7. ตั้งท้องครั้งต่อไปจะมีปัญหาหรือไม่?

 

คลอดเอง

          ไม่มีผลต่อการมีลูกคนต่อไป และไม่เป็นปัญหาว่าจะทำให้มีลูกยากด้วย เพราะคนโบราณก็คลอดเอง ซึ่งเราคงจะรู้ว่าคนโบราณมีลูกเยอะแค่ไหน หัวปีท้ายปีเลยค่ะ

 

ผ่าคลอด

          ทำให้มีลูกยากกว่าการคลอดเอง และในรายที่โชคไม่ดีมีพังผืดเกิดขึ้น ทำให้การตั้งท้องยากขึ้นค่ะ ส่งผลให้ท้องครั้งต่อไปต้องผ่าคลอดก่อนกำหนด

 

8. ค่าใช้จ่าย ต่างกันไหม?

 

คลอดเอง          คลอดเองถูกกว่าแน่นอนค่ะ

 

ผ่าคลอด          แพงกว่า เพราะต้องใช้เครื่องมือและไหมเย็บมากกว่ารวมทั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดมยาสลบหรือบล็อกหลัง

 

การผ่าคลอดทำในกรณีไหน?


          คุณแม่ไม่สามารถคลอดเองได้ หรือถ้ารอต่อไปจะมีอันตรายต่อลูกและแม่ผิดสัดส่วน เช่น คุณเชิงกรานเล็กแต่ลูกตัวใหญ่ หรือเด็กอยู่ผิดท่าแม่ที่โรคแทรกซ้อน เช่น ครรภ์เป็นพิษ โรคหัวใจ หรือน้ำเดินก่อนกำหนดเพราะถ้าทิ้งไว้นานเด็กจะแย่ค่ะ

 

          มีข้อมูลตั้ง 8 ข้อแบบนี้แล้ว ลองเปรียบเทียบชั่งใจดูนะคะว่า จะคลอดแบบไหนถึงจะดีกับเรามากที่สุด แต่ขอแนะนำว่า อะไรที่เป็นธรรมชาติย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้วค่ะ

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

 

ฉบับเดือนมิถุนายน 2552

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คลอดเอง VS ผ่าคลอด อัปเดตล่าสุด 20 กรกฎาคม 2552 เวลา 11:07:25 23,103 อ่าน
TOP