x close

เรื่องเล่าของแม่แหม่ม คัทลียา ถึงน้องแมค




"แหม่ม"นักสะสม เก็บเรื่อง"แมค"ด้วยภาพ (ข่าวสด)
เรื่องโดย สรกนก มานูญวงศ์ เรื่อง

          เห็นภาพความประทับใจของครอบครัวเล็กๆ ที่มีลูกชายวัยน่ารักอย่าง "น้องแมค"ด.ช.สิริ กระจ่างเนตร์ หนุ่มน้อยวัย 3 ขวบ 10 เดือน แล้ว เลยชวนให้คุณแม่คนสวย "แหม่ม" คัทลียา กระจ่างเนตร์ ที่เป็นเวิร์กกิ้งมัม ช่วยเล่าถึงความสัมพันธ์แสนสุขของครอบครัวและเจ้าตัวน้อย

          "จากที่เราเป็นคนทำงานออฟฟิศ มีบริษัทที่ต้องดูแล และเน้นการดูแลเลี้ยงลูกเองก็ต้องจัดสรรเวลาให้ลงตัว และด้วยจังหวะเวลาในตอนนี้ แหม่มเองก็ไม่ได้มีงานมากเหมือนก่อน ทำให้มีเวลาได้อยู่ดูแลลูกมากขึ้น" แม่แหม่มเริ่มเรื่อง

          "ในช่วงนี้แมคปิดเทอม จนถึง 19 ส.ค. ใน ช่วงที่เปิดเรียน แหม่มจะไปส่งลูกทุกเช้า ที่มาก กว่าหน้าที่คือความสุขของเรา และลูกเองก็มีความสุข หลังส่งลูก แหม่มค่อยไปทำงาน ช่วงลูกยังเล็กถ้าช่วงเที่ยงเราไม่ติดงานก็จะไปรับเขาส่งเขาเอง หรือพาไปเรียนว่ายน้ำ เล่นกีฬา"

          ถามว่ากิจกรรมเสริมนั้น ให้ครูช่วยสอน หรือเน้นสอนลูกเอง แหม่มแย้ม "บางเวลาเราไปเล่นด้วย ไม่ใช่ว่าทุกกิจกรรมจะต้องเป็นการเรียนไปซะทั้งหมด เดี๋ยวนั่นเดี๋ยวนี่ก็ให้ครูสอน อยู่ที่โรงเรียนครูก็สอนอยู่แล้ว กลัวลูกจะเบื่อ หรือต่อต้านไปซะก่อน วันไหนที่พ่อเขาไปตีกอล์ฟ บี่บี๋ก็จะจัดไม้กอล์ฟไปให้แมคด้วย เริ่มจากที่พ่อตีให้ดูก่อน พอลูกนึกสนุกเขาก็จะเข้ามาขอตีบ้าง พ่อเขาก็จะสอนให้คราวนี้ก็สนุกกันใหญ่พ่อลูก"

          ดูมีวิธีโน้มน้าวใจลูกดี ได้ทริกนี้มาจากไหน "ตั้งแต่มีลูกนี่ เราต้องใช้จิตวิทยาเยอะมาก อ่านหนังสือเกี่ยวกับพัฒนาการเด็กประกอบไปกับการที่พ่อแม่เคยสอนเรามา เรียกว่าหาทุกวิธีที่ดีที่สุดสำหรับลูก เราทำ เราอ่านหมด"

          "แมคใกล้จะ 4 ขวบแล้ว เขาพัฒนาไปตามวัย รู้มาก...ก" แม่แหม่ม ลากเสียงยาวอย่างนึกเอ็นดู "ยิ่งรู้เยอะ พ่อแม่ยิ่งเหนื่อย ต่างจากแต่ก่อนว่านอนสอนง่าย ให้ทำอะไรก็ทำ แต่เดี๋ยวนี้ถ้าให้ทำเราจะต้องชี้แจง"

          "อย่างไม่ให้ทานข้าวหน้าทีวี พอเขาเห็นพ่อนั่งทานหน้าทีวี ก็จะมาบอกว่า แม่แม่ ดุป๊ะป๋าเลย ป๊ะป๋าทานข้าวหน้าทีวี เจอเข้าอย่างนี้ เราก็คิดว่า เอาแล้วไง พ่อแม่ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีด้วย"

          เจ้าเหตุผลไหม "มีบ้างที่ขอต่อรอง แมค อยากกินนี่เพราะแมคหิว แมคขอดูทีวีต่ออีก 5 นาที ขอเล่นต่ออีกหนเดียว สารพัดเหตุผลที่จะเอามาต่อรอง" 

          แล้วเรายอมจำนนไหม "จะมีเหลือเหรอ(หัวเราะ) ถ้าเรื่องไหนเหตุผลถูกต้อง เราก็ต้องยอมให้ แต่จะยอมซะโดยส่วนใหญ่ สำคัญถ้าเรามีข้อสัญญา หรือรับปากอะไรไว้ ถ้าเราทำเป็นลืม เขาจะจำของเขาได้ กับเด็กนี่ไม่ได้เลย ผู้ใหญ่ห้ามผิดสัญญา"




          รู้มากขึ้น แถมบู๊มากขึ้น แหม่มพยักหน้า "บู๊มาก...ก เมื่อคืนเพิ่งคางกระแทกพื้น ผลจากกระโดดไปกระโดดมา ยอมรับว่าห่วงเพราะเด็กผู้ชายเวลาเล่น แรงเขาจะเยอะ กลัวหัวร้างข้างแตก ที่ผ่านมาไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่พอใกล้ 4 ขวบ เริ่มเชี่ยวชาญเริ่มกระโดดโลดโผนโหนตัว ปั่นจักรยาน" 

          "แมค" เริ่มแล้วหรือยังกับลีลายอดมนุษย์ "มาแล้ว...มานานแล้วด้วย" แม่แหม่มหัวเราะชอบใจ จากนั้นก็เล่าว่า "แมคชอบแปลงร่างเป็นสไปเดอร์แมน แปลงร่างนู่นนี่ เราก็ห่วงกลัวว่าสิ่งที่ยอดมนุษย์ทั้งหลายทำ เขาคิดว่าเขาทำได้ด้วย เราก็ต้องพูดคุยให้เขาฟัง ว่าที่ดูคือการ์ตูนไม่ใช่เรื่องจริงนะลูกนะ"

          เรื่องเจ้าเหตุผล ดาราสาวลงความเห็น "น่าจะเป็นพ่อแม่มั้งที่มีมากขึ้น เหนื่อยมาก พูดทุกวัน หาเหตุผลมาคุยกับเขาได้แทบทุกวัน ก็ดีถือเป็นการลับสมองเรา และรู้สึกว่าบท บาทเราสำคัญมากในฐานะของคนที่เป็นแม่ เพราะสิ่งที่เราจะใส่เข้า ไปให้ลูก เราต้องระมัดระวังอย่างดี เป็นการสอนให้คนคนหนึ่งโตขึ้นมาเป็นคนคุณภาพในอนาคต การเลี้ยงดูลูกเลยเป็นหน้าที่ที่ใหญ่หลวงสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ถึงเราจะไม่ใช่คนเพอร์เฟ็กต์ แต่เราก็จะพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่างการสอนลูกให้รู้จักศาสนา รักพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ให้พูดจาเพราะๆ มีสัมมาคารวะ ต่างๆ เยอะแยะมากที่เราต้องทำให้ดี"

          โดยเจ้าตัวเชื่อว่าความรักถือเป็นภูมิที่ดีสำหรับลูก "ถ้าเทียบตัวเองที่ผ่านมา เราเจอนู่นนี่นั่น แต่ท้ายสุดที่เป็นรากฐานมั่นคง ที่ที่เรามั่นใจที่สุดคือครอบครัว เพราะที่นี่เป็นที่ที่เราได้รับความรักจากพ่อแม่เต็มที่ เวลาท้อ เสียใจ เรามีพ่อแม่กอด ทำให้ได้รับกำลังใจ มีแรงฮึดอีกครั้ง"




          สำหรับกิจกรรม "วันแม่" ปีนี้ กิจกรรมที่โรงเรียนแมคไม่มี เพราะอยู่ในช่วงปิดเทอม แหม่มจึงจะพา "น้องแมค" ไปหาคุณยาย ไปหาลุงวิลลี่ ป้าเยลหลี ไปนอนค้างที่บ้านคุณยายตั้งแต่สุดสัปดาห์ และวันที่ 12 ส.ค.ที่เป็นวันแม่ ก็จะให้คุณยายเป็นคนเลือกว่าคุณยายอยากทำอะไร เพราะยกให้เป็นวันของคุณยาย

          จากภาพดูเป็นครอบครัวกิจกรรม ซึ่งแม่แหม่มบอกว่า น้องแมค จะสนุกทุกครั้งที่ได้ทำกิจกรรมทั้งอินดอร์ เอาต์ดอร์

          "อย่างวันไหนที่ฝนตก ไปข้างนอกไม่ได้ เราจะอยู่บ้าน เล่นในบ้าน หรือเล่นบริเวณที่มีชายคาบ้าน และก่อนนอนก็จะอ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกคืน บางทีแม่ง่วงก็จะต่อรองเขาว่าอ่าน 3 เรื่องพอ ถ้าจบแล้วเขายังไม่หลับเขาก็จะบอก แม่แม่... แมคขออีก 2 เรื่อง เขาจะต่อรองเก่ง ซึ่งถ้าเราเห็นว่าไม่ดึกจนเกินไป ยังไม่เลยเวลานอน ก็จะอ่านให้เขาฟัง เพราะเรารู้ว่าการอ่านหนังสือส่งผลดีกับลูก อยากให้ลูกรักการอ่าน"

          แหม่มยอมรับว่า กิจกรรมนอกบ้านมีเยอะ ด้วยความรู้จากหนังสือที่ได้รับ แนะนำให้เด็กได้สัมผัสกับธรรมชาติ สัมผัสต้นไม้ ดูแมลง สูดอากาศบริสุทธิ์ ไม่ใช่อยู่แต่ในบ้าน 

          "ปกติครอบครัวเราไม่ว่าจะเป็นพี่วิลลี่ แหม่ม บี่บี๋ เป็นคนที่รักธรรมชาติ เราสนุกกับการท่องเที่ยว ซึ่งก็เป็นความชอบที่ส่งต่อถึงลูก ลูกเองก็ชอบ พอออกไปข้างนอก ถึงเขาเล่นจนเหงื่อไหล แก้มแดง ถ้าไม่ถึงที่สุด เขาจะไม่ขอกลับบ้าน"

          ว่าแต่น้องแมคชอบเที่ยวแนวไหน ผู้เป็นแม่เล่าอย่างมีความสุขว่า "หลายแนวมากค่ะ พอได้ไปเที่ยวเขาจะสนุก อย่างไปเที่ยวต่างประเทศ ได้ขึ้นเครื่องบิน ทุกอย่างจะแปลกใหม่ เป็นเรื่องตื่นเต้นสำหรับเขาหมด และถ้าเขาได้ทำอะไรด้วยตัวเขาเองเขาจะภูมิใจ รู้ว่าแม่ภูมิใจ"

          "หรือแม้แต่ไปเที่ยวทะเลหัวหิน หรือที่เกาะกระดาน แมคจะชอบมาก ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย ทั้งขึ้นเครื่องบิน ขึ้นรถ ลงเรือ ต่อถึง 3 ทอดกว่าจะถึงเกาะกระดาน ตลอดทางเขาจะดูตื่นเต้น ชอบมาก พอถึงทะเล ได้ลงเล่นน้ำทะเลแมคจะชอบ เขาดูคล่องตัวกับการเล่นน้ำทะเล เล่นทราย บางทีลงทะเล ก็ขึ้นมาเล่นทราย เล่นทรายเสร็จ ล้างตัวลงสระน้ำต่อ"

          ยามใดที่คุณพ่อบี่บี๋ไม่อยู่ ต้องลงใต้ไปดู รีสอร์ตที่เกาะกระดาน แม่แหม่มก็รับหน้าที่ดูลูกไปเต็มๆ 100% หรือบางทริปที่ไปเที่ยวแล้วบี่บี๋ไปไม่ได้ด้วยติดภารกิจสำคัญ แม่แหม่มกับน้องแมคก็พร้อมตะลุยโลกกว้าง 

          อย่างภาพเมืองหิมะที่ญี่ปุ่น ดาราสาวเล่าย้อนให้ฟังว่า "ตอนที่แมคได้ไปเห็นหิมะครั้งแรก เขาชอบมาก กินสโนว์เป็นว่าเล่น เดินย่ำเป็นว่าเล่นจนจมูกแดง หูแดง เราก็ใส่เสื้อให้เขาพร้อมอุ่น อากาศดี เขาก็มีความสุข" 

          "แม่จะทำหน้าที่ตากล้องสุดฤทธิ์ จะมีกล้องถ่ายรูปติดตัวไว้ตลอด ถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เพราะอยากจะเก็บภาพความประทับใจในแต่ละทริปไว้ คือเรารู้สึกว่าวันเวลาผ่านไปเร็ว เราย้อนกลับไม่ได้ก็จะพยายามเก็บภาพไว้ให้มากที่สุด" 

          "แหม่มว่ารูปภาพเป็นเรื่องเล่าด้วยตัวมันเอง ดูแล้วมีเรื่องเล่า มีที่มา สถานที่ ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ในครอบครัวเวลาที่เรามาดูภาพ มาคุยกัน แมคเวลาที่ดูภาพเขาก็จะเล่าตามประสาเด็ก เล่าจากสิ่งที่เขาจำได้"

          เหล่านี้คือกิจกรรมสำคัญของคุณแม่ลูกหนึ่ง ที่กลายเป็นนักสะสมภาพ(ลูก) ตัวยง

          "ลูกสำหรับแม่แล้ว ถือเป็นแก้วตาดวงใจ แหม่มเข้าใจลึกซึ้งถึงคำคำนี้แล้ว แค่ลูกมองเราแล้วมีรอยยิ้ม เท่านี้ก็ปลื้มแล้ว บางทีนั่งๆ นอนๆ อ่านนิทานให้เขาก็มาหอมแก้มแม่ เท่านี้ล่ะคุณเอ้ย ยิ้มปลื้มแล้ว" แหม่ม กล่าวด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข

          วางโครงการเบบี๋นัมเบอร์ทูไว้แล้วหรือยัง "ยังไม่มา รออยู่ค่ะ ไม่มีแผนแล้วตอนนี้ ไม่ได้สร้างกฎกติกาอะไรไว้ ปล่อยธรรมชาติ ขอให้มาเถอะ" แหม่ม กล่าวท้า เพราะพร้อมรับมืออยู่แล้ว



 คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องเล่าของแม่แหม่ม คัทลียา ถึงน้องแมค อัปเดตล่าสุด 3 ธันวาคม 2552 เวลา 16:53:42 1,035 อ่าน
TOP