x close

อ้อม พิยดา เปิดใจชีวิตหลังแต่งงาน

อ้อม พิยดา

อาท ศรา

รักไม่มีวันหมดของ อ้อม พิยดา จุฑารัตนกุล (ฺBride International)

          แม้จะสละโสดไปแล้ว แต่ความรักของเขาและเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะจางหาย กลับเพิ่มคุณค่ามากยิ่งขึ้นล้านเท่าพันทวี โรแมนติกหวานซึ้งจนได้รับการขนาดนามให้เป็น "คู่รักแห่งปี"...จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อ้อม พิยดา และ อาท ศรา จุฑารัตนกุล ที่เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยวาดภาพ หรือคาดหวังไว้เลยว่าชีวิตหลังแต่งงานจะต้องเป็นอย่างไร แต่ขอแค่ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันทุกวันก็มีความสุขเพียงพอแล้ว เคล็ดลับการครองคู่ของเธอและเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันเลยค่ะ...

อะไรทำให้คุณอ้อมคิดว่าคุณอาร์ตคือคนที่ "ใช่"

          อ้อม : ตอนที่เราไม่สบายค่ะ ได้รู้ทุกสิ่งที่เขาทำให้เรา ออกมาจากความห่วงใยที่เขามี

เคยถามคุณอาร์ตไหมว่าชอบส่วนไหนของคุณอ้อมมากที่สุด

          อ้อม : คิดว่าเขาชอบเราตรงที่เราเป็นเรานี่แหละ อาจจะเพราะเขาเอ็นดูมั้ง ในความเป็นอ้อมอย่างนี้

แล้วคุณอ้อมชอบคุณอาร์ตตรงไหน

          อ้อม : เขาเป็นคนที่ดูแลเราได้ สมมุติเราอยู่กับครอบครัวหากเราเป็นอะไรไป เรามีอะไรก็จะมีคนคอยดูแล ถ้าเราไม่เจอใครที่เราคิดว่าเราฝากอนาคต ฝากทุกอย่างไว้ได้ ก็คงไม่มีวันนี้ แต่กับพี่อาทเขาดูแลพ่อแม่ เขาน่ารักมาก ดูแลตายาย เขาดูแลให้เราหมดทุกอย่าง ดูแลความรู้สึก และเขาเป็นคนที่รักครอบครัว เขากินข้าวกับที่บ้านบ่อย ๆ ขนาดเราเองยังน้อยกว่าเลย เขาฝากผีฝากไข้ได้ และเป็นที่พึ่งให้เราได้ เขาน่ารัก และใจดี

ชีวิตหลังแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง เหมือนที่คิดไว้ไหม

          อ้อม : อ้อมไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะคะว่า คนเราพอแต่งงานแล้วมันจะต้องเป็นยังไง และไม่ว่าจะออกมายังไงก็ให้มันเป็นไป อ้อมขอแค่ให้เรามีความสุขทุกวันก็พอ

อ้อม - อาท

 อ้อม พิยดา - อาท ศรา

ศิลปะในการใช้ชีวิตคู่ของคุณอ้อม

          อ้อม : สิ่งสำคัญคือเป็นตัวของตัวเองในระดับหนึ่งที่เราไม่อึดอัด ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เปลี่ยนเลย มันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าจะให้เปลี่ยนหมดทุกอย่าง พอวันเวลาผ่านไปมันก็ไม่ใช่ตัวเรา เพราะฉะนั้น เราจะคุยกัน อ้อมกับพี่อาทคุยกันว่าเราต่างคนต่างจะปรับ แต่ไม่ทำอะไรที่เกินตัว บางอย่างต้องยอมรับให้ได้ แต่บางอย่างก็จะปรับให้ ต่างคนต่างคุยกันแบบนี้ก็เลยโอเค

          อ้อม : อย่างอ้อมเอาแต่ใจตัวเอง เพราะเคยอยู่คนเดียวมาตลอด เลยเป็นแบบนี้ "ฉันต้องอย่างนั้น อย่างนี้" พอมีอีกคนเราก็ต้องแคร์อีกคนด้วย ต้องลดอัตราความเป็นตัวตนเราลง ตอนนี้พี่อาทมีครอบครัวแล้ว จะไปเที่ยวไปอะไรกับเพื่อนแบบนั้นมันคงไม่ได้ หรืออย่างอ้อมทำงานแล้วหายไปทั้งอาทิตย์เลยแบบนั้นเราก็ไม่ทำ เราอาจจะไป 3 วัน 4 วัน ไม่ใช่หายไปเลยเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ก็แฮปปี้ดีนะ

ถ้าเลือกได้อยากมีลูกชายหรือลูกสาว

          อ้อม : อ้อมอยากได้เด็กผู้ชาย อย่างเลี้ยงหมาก็เลี้ยงตัวผู้ ไม่เคยเลี้ยงหมาตัวเมียเลบ และอ้อมเป็นแบบลุย ๆ แต่ถ้าได้ลูกสาวก็โอเค ยังไงก็ได้ แต่ใจอ้อมอยากได้ผู้ชาย ส่วนพี่อาทอยากได้ลูกผู้หญิงมาก ถ้ามีลูกสาวกลัวจะเลี้ยงไม่เป็น เพราะเราก็กลัวเหมือนกัน แบบอ๊ะนี่นั่น อย่างนั้นอย่างนี้นะคะ เราเล่นแบบนั้นไม่เป็น อย่างมีหลานผู้หญิงเราก็เล่นไม่ค่อยเป็น แต่กับผู้ชายเล่นเป็น ถ้ามีลูกสาวก็คงจะเป็นแบบอ้อม เพราะอ้อมอยู่มากับพี่ชาย น้อยชาย แล้วก็เล่นแบบโหด ๆ 

อยากให้ฝากข้อความถึงคนที่กำลังจะแต่งงาน

          อ้อม : มีคนถามว่าแต่งงานแล้วเป็นยังไง อ้อมว่าดีมาก แต่ทุกคนกลับรู้สึกว่า หา? จริงเหรอ แต่เรากลับมองว่ามันดี อ้อมชอบชีวิตหลังแต่งงานมากกว่าอยู่คนเดียว ชอบมากกว่าเยอะ แต่งงานก็เหมือนเราได้ดูแลกันและกันไปจนตาย มันเป็นความรัก แต่คนละความรักกับแบบพ่อแม่ที่มีให้เรา มันแตกต่างกัน ถึงเราจะไม่ได้มีลูก แต่มันก็เป็นคำสัญญาของกันและกัน ว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปจนตายจากกัน เรารู้สึกอยู่ในใจ ไปไหนเราก็อุ่นใจ มันเป็นความหวัง เป็นอะไรก็ไม่รู้ พอเราตื่นมาแล้วเราแฮปปี้ แล้วเราโชคดีที่เราคล้าย ๆ กันหมด อย่างไปวัดเราก็ไปด้วยกัน มีกิจกรรมเราก็ทำด้วยกัน และเขาก็เป็นคนติดบ้าน ถ้าเราหัวหกก้นขวิดกลับมาบ้านแล้วจะออกไปข้างนอกบ้านอีกก็เหนื่อย แต่นี่ไม่เหนื่อยเพราะเขาติดบ้าน

          หากคำว่า "รัก" แสดงออกเป็นการกระทำ คำว่า "รัก" ของอ้อมก็เป็นประโยครักที่สมบูรณ์แล้วด้วยคน 2 คน ที่ไม่ได้คาดหวังจากกันและกัน แต่พร้อมที่จะปรับเข้าหากันและกัน และแคร์ความรู้สึกของอีกฝ่ายเสมอ ทำให้ชีวิตคู่กลายเป็นชีวิตที่มีความสุขในทุก ๆ วันได้เอง อย่างที่เราต้องการ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อ้อม พิยดา เปิดใจชีวิตหลังแต่งงาน อัปเดตล่าสุด 11 เมษายน 2554 เวลา 14:46:20
TOP