เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สาว ๆ รู้ไหมว่าทำไมคนโบราณสามารถดูแลเส้นผมให้งดงาม สลวย และชะลอการหงอกของเส้นผมไว้ได้ โดยปราศจากการใช้สารเคมี นอกจากนั้น หมอพื้นบ้านชาวเลยยังมีเคล็ดลับในการดูแลเส้นผมให้หอมกรุ่น โดยมีความเชื่อว่า อาจเป็นที่มาของตำนานนางผมหอมในประวัติของพระยาช้างนางผม หอมก็ได้
สำหรับตำนานพระยาช้างนางผมหอมที่เป็นนิทานพื้นบ้านของคนไทยเลย บ้านแสง อ.นาแห้ว จ.เลย เป็นวิธีการสืบทอดความรู้ของคนโบราณที่เล่าต่อกันมา โดยสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรให้ง่ายต่อการจดจำ และเล่าต่อกันได้ง่ายจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งปัจจุบันยังมีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานสืบทอดกันมา เรื่องราวที่เป็นรายละเอียดอาจจะมีความแตกต่างกันไปบ้าง แต่ที่เหมือนกันคือแฝงนัยสำคัญของการเป็นเมืองหลวงของความหอมของท้องถิ่น เมืองเลยแห่งนี้ ซึ่งสมุนไพรหลายชนิดที่นี่เป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการดูแลเส้นผมให้สวยงาม และแข็งแรง
ซึ่งในแต่ละขั้นตอนของการดูแลเส้นผม และหนังศีรษะให้มีสุขภาพดีด้วยวิถีธรรมชาติจากบรรพบุรุษ เพียง 4 ขั้นตอนที่ทำเองได้ไม่ยุ่งยาก
ขั้นตอนที่สำคัญประการแรก คือ การชะล้างสิ่งสกปรกออกจากเส้นผม ปัจจุบันเส้นผมของเราต้องเผชิญกับมลภาวะที่เป็นพิษ ทั้งจากทางอากาศและน้ำ เช่น การว่ายน้ำในสระว่ายน้ำที่มีสารคลอรีน เป็นต้น ดังนั้น ขั้นตอนนี้จึงเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ ก่อนการสระผมนิยมใช้น้ำสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยว เช่น น้ำส้มป่อย ด้วยการนำฝักส้มป่อยแช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้ 10-20 นาที แล้วนำมาล้างเส้นผม จากการศึกษาคุณสมบัติของส้มป่อยนี้พบว่ามีสารซาโปนิน (Saponin) ที่จะเกิดฟองเมื่อสัมผัสกับน้ำคล้ายกับสบู่ สามารถช่วยชำระสิ่งสกปรกที่เกาะติดกับเส้นผม นอกจากนั้นความเชื่อของคนไทยยังเชื่อว่า การใช้ "ส้มป่อย" จะ "ปลดปล่อย" สิ่งที่ไม่ดีออกจากศีรษะ ซึ่งเป็นอวัยวะเบื้องสูงของร่างกาย ทำให้เกิดสิริมงคลกับชีวิตได้อีกด้วย
จากนั้นก็เป็นขั้นตอน การสระผม ด้วยสมุนไพรบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้สะอาดและมีกลิ่นหอม นับเป็นขั้นตอนที่สำคัญ และมีสูตรยาสระผมจากสมุนไพรมากมาย ซึ่งทางกลุ่มหมอยาสมุนไพรพื้นบ้านไทยเลยก็มีสูตรที่ทำให้ผมมีกลิ่นหอม สลวย และชะลอการหงอกของผมได้ โดยการใช้น้ำมวก (น้ำหม่าข้าวเหนียวแช่ทิ้งไว้ 1 คืน ทิ้งให้ตกตะกอนแล้วรินเอาส่วนที่ใสทิ้ง) นำไปต้มใส่หัวว่านหอม (เปราะหอม) แน่งหอม (ว่านสาวหลง) เนียมอ้ม หรือเนียมเขียด ไม้แค่ ไม้อบเชย ใช้ร่วมกัน หรือใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาสระผม เพียงเท่านี้ก็จะได้ผมที่สะอาดและหอมกรุ่นด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ สาว ๆ หนุ่ม ๆ ในสมัยก่อน เวลามีงานบุญมักจะใช้สูตรนี้ เชื่อว่าทำให้มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม
การดูแลเส้นผมของคนในสมัยก่อนยังไม่หมดเท่านี้ ยังมีขั้นตอนในการบำรุงด้วยการนวดผม ซึ่งมีสูตรที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับสภาพเส้นผมที่ต่างกัน คือ หากมีอาการคันศีรษะ เส้นผมมันง่ายและเป็นรังแค แนะนำให้ใช้น้ำมะกรูด 3-5 ลูก ผสมกับน้ำซาวข้าวเหนียว นวดผมหลังสระผมเสร็จ ขั้นตอนง่าย ๆ นี้จะช่วยลดอาการคันศีรษะและป้องกันรังแคได้ แต่ถ้ามีปัญหาผมร่วง เรามาลองดูสูตร 2 ใช้ขิงเผาไฟ หรือขิงซอยนำมาห่อคล้ายลูกประคบ ประคบนวดให้ทั่วศีรษะ ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ดี เท่านั้นยังไม่พอหากต้องการให้เส้นผมดกดำ ชะลอการหงอกของเส้นผม เชิญชวนให้ลองใช้ดอกอัญชัน ขยี้ให้มีสีน้ำเงิน หรือแช่ในน้ำสะอาดแล้วชโลมให้ทั่วผม ทำให้ผมดกดำโดยไม่ต้องพึ่งยาย้อมสารเคมีให้เป็นอันตรายต่อเส้นผม และหนังศีรษะ
ขั้นตอนสุดท้ายของการดูแลเส้นผมเพื่อให้มีผมนุ่ม มีน้ำหนักมากขึ้นด้วยการหมักผมด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ ซึ่งสามารถทำได้ 2 สูตร สูตรแรก คือ ใช้น้ำมันหมักผมสมอไทยผสมมะขามป้อม ด้วยการผสมสมอไทย 1 ส่วน มะขามป้อม 1 ส่วน โดยนำสมุนไพรมาล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาทอดในน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันทานตะวัน 2 ส่วนจนเหลืองกรอบ ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบางเก็บในภาชนะที่แห้ง แล้วนำมาใช้หมักผมทิ้งไว้ 10-15 นาทีก่อนสระผม เพียงเท่านี้ก็จะได้ผมนุ่มสลวยน่าสัมผัสแล้ว
อีกหนึ่งสูตรที่จะช่วยให้ เส้นผมดูมีสุขภาพดีมีน้ำหนัก โดยใช้วัตถุดิบใกล้ตัวและหาได้ง่ายสมชื่อ คือ สูตรกล้วยหอม ใช้กล้วยหอมสุกมายีหรือปั่นผสมน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว ส่วนปริมาณขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม จากนั้นหมักผมทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วสระออกด้วยน้ำมะกรูด หรือน้ำส้มป่อย ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้เส้นผม เหมาะกับคนผมเส้นเล็ก ฟูฟ่อง
การดูแลเส้นผมด้วยภูมิปัญญาไทยแบบนี้ นอกจากจะทำได้ง่าย มีเส้นผมที่สวยงามแข็งแรงแบบไร้สารเคมีแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์ และสืบสานต่อความรู้จากผู้เฒ่าผู้แก่ให้คงอยู่กับลูกหลาย ไทยสืบไป
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยความงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก
