จากเรื่องในครอบครัวกลายเป็นดราม่าที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก กรณี แม่ต้อม คุณแม่ของมิ้วกี้ ไปรยา ออกมาไลฟ์ระบายความในใจทั้งน้ำตาที่ แดนนี่ ดานิเอล เบล็สซิ่ง อดีตสามีของลูกสาว บุกมาหาที่บ้านและปีนรั้วบ้านเข้ามาพูดจาไม่ดีใส่แม่ จนเป็นเหตุให้มีปากเสียงกัน
อ่านข่าว : แม่มิ้วกี้ ไปรยา สุดทน ! เล่านาที แดนนี่ บุกปีนบ้าน ร่ำไห้โดนพูดไม่ดีใส่
ทั้งนี้ คุณแม่เล่าผ่านไลฟ์ พร้อมกับ น้องกาเนส ลูกชายของมิ้วกี้กับแดนนี่นั่งอยู่ด้วย แม่บอกว่าน้อง 5 ขวบแล้ว น้องรู้เรื่องแล้ว แม่เล่าว่า แดนนี่โทร. มาและกดกริ่งไม่หยุด คุณแม่อาบน้ำอยู่ พอเห็นก็กำลังจะลงไปเปิดประตู แม่เดินขึ้นไปข้างบนเพื่อหยิบกุญแจไปเปิด แต่เขากลับปีนบ้านเลย ซึ่งแม่อยู่กับน้อง 2 คน ทำให้ตกใจมาก
ทุกคนมองเหมือนเขาสุภาพ แต่จริง ๆ เวลาอยู่ในบ้านเขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้เลย เขาโวยวายทำไมไม่พาน้องไปหาหมอ จากนั้นเขาอุ้มน้องจะไปขึ้นรถ แม่ตกใจเลยเสียงดังว่าเอาน้องลงมา เขาก็อัดคลิปแล้วบอก ทำไมเหรอ บ้านหลังนี้ยังเป็นชื่อของเขา และอัดคลิปพูดต่อว่าสงสารกาเนส แดดดี้จะให้การศึกษาที่ดี ซึ่งพูดแบบนี้เหมือนดูถูกแม่ว่าเราไม่ให้การศึกษาที่ดีกับน้อง พูดจาแย่มาก
คุณแม่เกรงว่าเขาจะนำคลิปที่อัด มาทำร้ายคุณแม่จึงต้องออกมาไลฟ์ชี้แจงก่อน คุณแม่พยายามดึงให้เขาสองคนยังอยู่ด้วยกัน แต่เขาไม่ยอมกลับและพูดจาไม่ค่อยดี บอกว่าตอนนี้ยังไม่พร้อม ซึ่งมิ้วกี้ง้อเขาหลายครั้งแล้ว แต่โดนเขาว่า เราอดทนมานานแล้ว อีกทั้งเขาออกจากบ้านไปเอง ไม่มีใครไล่
ขณะที่ล่าสุด (8 สิงหาคม 2565) แดนนี่ ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก แดนเนรมิต by Danny เพื่อชี้แจงในมุมของตัวเองบอกว่า ปกติเป็นคนไม่ออกมาพูดเยอะเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวเพราะอยากเซฟครอบครัว ลูกและทุกอย่างเกิดขึ้นจากความรัก เมื่อสถานะเปลี่ยนไป ก็ไม่จำเป็นต้องสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมช่วงนี้ผมไม่ได้ลงสตอรี่กับลูก ความจริงคือแทบไม่ได้เจอเลย
ที่ผ่านมา ผมมีหน้าที่ไปส่งลูกไปโรงเรียนตามที่ตกลงกันไว้ แต่ช่วงนี้โรงเรียนปิด หน้าที่ของผมเลยหยุดไป ก็อยากจะพาลูกไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง แต่หลัง ๆ มานี้โทร. หาไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ ผมถามไปว่าวันนี้พี่ขอไปหาลูกได้ไหม วันนี้ผมขอไปหาลูกได้ไหม ? ไม่มีการตอบรับเลย
หลายคนจะรู้ว่าผมเป็นแฟนแมนยูตัวยง เมื่อก่อนผมเป็นผู้จัดการช่องแมนยูประเทศไทย ผมซื้อบัตรแมนยู-ลิเวอร์พูล ไว้แล้วเพื่อจะไปดูศึกแดงเดือด วันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ตอนที่ซื้อคือเป็นบัตรแพงด้วย
แต่วันนั้นเป็นวันที่ผมจะได้เจอลูก ผมตัดสินใจทิ้งบัตรเลย เพราะเป็นวันที่จะได้อยู่กับลูกในรอบเดือน ผมรอวันนี้ตลอดว่าเมื่อไรจะได้เจอ ผมไม่จำเป็นต้องไปอยู่กับคน 50,000 คนในสนาม ผมขออยู่กับลูกคนเดียวดีกว่า
เรื่องของผมกับมิ้วกี้ ผมต้องขอบคุณทนายคนหนึ่ง ซึ่งมาเป็นทนายกลางช่วยให้เราไกล่เกลี่ยกัน คุณคือฮีโร่ที่มาช่วยเราทั้งคู่และครอบครัว เราได้นั่งคุยและตกลงกันได้โดยที่ไม่ต้องสู้กัน และเหมือนว่าทุกอย่างจะเคลียร์ คือ ผมสามารถมาเจอลูกได้พาไปกินข้าวได้บ้าง เป็นโมเมนต์ที่มีความสุขมาก
ก่อนหน้านี้ มิ้วกี้ อดีตภรรยา เคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาต้องการหย่าแต่ผมไม่ยอมหย่า เขาหาทนายเตรียมไว้แล้วแต่ผมบ่ายเบี่ยง เพราะผมไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น ถ้าสมมติว่าต้องฟ้องกัน ภรรยาหรือแม่ฟ้อง สามีหรือพ่อฟ้อง มีทนาย A ทนาย B ที่ต้องสู้กัน ต้องเอาชนะกัน แล้วลูกล่ะ ? แต่ผมโชคดีที่มีทนายคนกลางมาช่วยไกล่เกลี่ย
สำหรับผม การได้ไปส่งลูกตอนเช้าเป็นอะไรที่มีความสุขมาก โมเมนต์นั้นเหมือน You make my day อยู่ด้วยกันเต็มที่ประมาณ 30 นาที วันที่ 29 กรกฎาคม ผมได้เจอลูก เพราะไปประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียน
ต่อมาวันที่ 1-2 สิงหาคม เปิดเทอม ไปรับลูกเพื่อจะไปส่งโรงเรียนเหมือนเดิม แต่ลูกไม่อยู่ ไม่รู้ไปไหน โดนห้ามไม่ให้ไปส่ง กระทั่งได้ไปส่งลูกอีกครั้งวันที่ 4 สิงหาคม มันคือหน้าที่ที่ผมยอมจะไม่ไปเที่ยวไม่ไปไหน เพื่อจะไปส่งลูกตอนเช้า
แต่วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา ติดต่อคุณแม่ไม่ได้ เราอยากรู้ว่าพรุ่งนี้วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม เราจะได้ไปส่งลูกใช่ไหม โทร. ไปคุณแม่ไม่รับ ไลน์ไปไม่ตอบ ผมเลยต้องบอกมิ้วกี้ซึ่งอยู่ต่างประเทศว่าช่วยติดต่อคุณแม่ให้หน่อย สุดท้ายก็ได้คุยกันประมาณ 3 นาที ส่วนใหญ่จะคุยกับลูกว่าพรุ่งนี้แดดดี้จะรับไปส่งที่โรงเรียนนะ
กระทั่งเช้าวันจันทร์ 8 สิงหาคม เวลา 7 โมงตรง ผมถึงหน้าบ้าน ผมกดกริ่ง 1 ครั้ง โทร. หาแม่ก็ไม่รับสาย ในบ้านก็ดูเงียบ ผมกดกริ่งอีก 1 ครั้ง และโทร. อีก 1 สาย จน 07.08 น. ยังไม่มีใครออกมา
จนเกือบ 07.10 น. ผมกดกริ่งอีก 1 ครั้ง และเรียกลูกอยู่หน้าบ้าน แล้วก็มีเด็กน้อยผมยาวใส่ชุดนอนเดินออกมาบอกว่า แดดดี้วันนี้กาเนสไม่สบาย ไม่ได้ไปโรงเรียน ด้วยความที่เราเป็นพ่อก็ถามว่าลูกปวดหัวปวดท้องหรือเป็นอะไร กลับได้รับคำตอบว่า "ไม่รู้"
ตอนนั้นมีรั้วกั้นผมอยู่ บ้านก็เป็นบ้านของผมที่ให้ลูกอยู่ตอนนี้ ตอนที่ผมยังอยู่ ผมลืมกุญแจในบ้านก็ปีนเป็นปกติ แล้วไปกดรหัสเข้าบ้าน แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป มีกุญแจแต่เข้าไม่ได้เพราะกุญแจบ้านถูกเปลี่ยนทั้งหมด
ลูกยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้า เราเป็นพ่อจะไม่อยากไปกอดไปโอ๋ลูกเหรอ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตกใจกับการปีนรั้วของผม เพราะแค่ปีนไปกอดลูก ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดี และที่คุณแม่บอกว่าผมถ่ายคลิปไว้ ผมถ่ายจริง แต่ทุกคนคงจะไม่ได้ดูหรอกเพราะคำเดียวคือผมต้องเซฟครอบครัว แต่ถ้าวันหนึ่งมันจะเป็นประโยชน์ก็อาจจะได้ดูกัน แต่ไม่อยากให้มีวันนั้น
ผมปีนตั้งแต่สร้างบ้าน บ้านนี้ผมทำเองตั้งแต่รากฐาน รื้อเองอะไรเอง
ผมปีนอยู่ประจำ นี่บ้านผมเอง
เชื่อว่าพ่อบ้านหลายคนก็ปีนเหมือนกัน เป็นเรื่องปกติมาก
ไม่น่าเอามาเป็นประเด็น
ที่บอกว่าผมเข้าไปแล้วเสียงดังโวยวาย มันจะเป็นไปได้เหรอ ? เพราะพวกเราเพิ่งไปเที่ยวด้วยกันมา 3 คน มีลูกกับแม่ยายไปเที่ยวด้วยกัน บางครั้งก็มีหลานอีกคนหนึ่งไปด้วย ทริปไหน ๆ ก็ไปกัน 3-4 คน เวลามิ้วกี้ไม่อยู่เราก็ไปกัน เรายังเคยพูดกับแม่ว่าถึงแม้จะสถานะผมกับมิ้วกี้ไม่เหมือนเดิม แต่เราก็ยังแฮปปี้ไปด้วยกันได้เนอะแม่
ไม่ว่ายังไงผมก็ยังคงเป็นพ่อของกาเนสไปตลอดชีพ ไม่สามารถเปลี่ยนไปได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอยากให้คิดถึงกาเนสด้วย เด็กอายุ 5 ขวบครึ่งไม่ควรต้องมารับรู้อะไรแบบนี้ ตอนเห็นว่าแม่เอาลูกมานั่งไลฟ์ด้วย ผมก็โกรธนะ เอาลูกผมมาทำอะไรแบบนี้เลยเหรอ ลองคิดถึงใจผมที่เป็นพ่อ 1 เดือน เจอลูก 1 ครั้ง และ 2 เดือนเจอลูก 3-4 ครั้ง มันเป็นยังไง
แดนนี้ยืนยันว่าตอนเกิดเหตุไม่ได้เมาเลย ถ้าใครรู้จักผมจะรู้เลยว่าไม่ว่าจะวันเกิดเพื่อนหรืออะไรก็ตาม ผมไม่มี ผมมีหน้าที่รับผิดชอบคือ จะต้องส่งลูกให้ทันเวลาไปโรงเรียน ครูประจำชั้นจะรู้ดีที่สุด