x close

อัพเดทชีวิตส่วนตัว มาริโอ้ เมาเร่อ



มาริโอ้ เมาเร่อ


มาริโอ้ เมาเร่อ

มาริโอ้ เมาเร่อ


Mario What’re You doing ?  (ภาพยนตร์บันเทิง)
Cover Story เรื่อง : MinG / ภาพ : มานะ


           มีคนแอบบ่นคิดถึงหนุ่มหน้าใส มาริโอ้ เมาเร่อ ให้ได้ยินค่ะ ภาพยนตร์บันเทิง เลยย่องไปสืบมาซะหน่อยว่า ช่วงที่หายหน้าหายตาไปจากจอทีวีนั้น มาริโอ้ทำอะไรอยู่บ้าง มาอ่านกันดีกว่าว่าวันนี้ของมาริโอ้เป็นอย่างไร


  ตอนนี้มาริโอ้มีงานอะไรอยู่บ้างคะ

           มาริโอ้ : ตอนนี้ถ่ายละครเรื่อง "เพลิงทระนง" ครับ ถ่ายกันมาได้สักพักเรียกว่าเกินครึ่งเรื่องแล้วครับ สนุกนะครับ แรก ๆ ค่อนข้างยากหน่อยเพราะเป็นละครดราม่า แต่ก็ทำให้ผมได้ประสบการณ์อีกเยอะเลยครับ เพราะพี่ ๆ ทีมงานก็น่ารัก แล้วได้ทำงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่หลาย ๆ คน อย่างผู้จัดฯ อาจิ๋ม มยุรฉัตร ซึ่งเรื่องนี้ท่านเล่นด้วย เรียกว่าทุกคนช่วยแนะนำให้ผมทำงานง่ายขึ้น เพราะผมเองยังใหม่กับการถ่ายละคร เพราะเคยผ่านงานละครมาแค่เรื่องเดียว


  ยังไม่ชินกับการถ่ายละครว่าอย่างนั้นใช่ไหมคะ

           มาริโอ้ : จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ คือ เมื่อก่อนเราเล่นหนังมา ถามว่ามันเหมือนกันไหม ผมมองว่าไม่แตกต่างนะในเรื่องของการแสดง แต่ละครจะมีเทคนิคที่มากขึ้นนิดนึง อย่างเรื่องมุมกล้องอะไรแบบนี้ก็จะเยอะกว่าหนัง เพราะถ่ายหนังส่วนมากจะใช้แค่กล้อง ๆ เดียว แต่ละครไม่ใช่ ก็ต้องปรับต้องรู้มุมกล้องมากขึ้น เพราะกล้องเนี่ยจะมีถ่ายแบบหลายคัต มีทั้งคัตแคบ คัตใกล้ ไกล ซึ่งเทคนิคตรงนี้เราต้องเรียนรู้ไป วันนี้คิดว่าเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วนะครับ


มาริโอ้ เมาเร่อ

  ในเรื่องต้องรับบท "เพลิง" หนุ่มที่ทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อพ่อ แถมมีคาแรกเตอร์เอาจริงเอาจังมาก ๆ ยากไหมคะสำหรับโอ้

           มาริโอ้ : ยากไหม ก็ยากตรงการที่เราต้องซีเรียสแล้วก็เอาจริงเอาจังมากครับ คือ คาแรกเตอร์เราจะเอาการเอางาน เป็นคนจริงจัง มีจุดมุ่งหมายรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ตลอดเวลา แต่พอมาเจอนางเอกเราก็มีแกล้งเขาบ้างอะไรบ้าง จะว่าไปก็ใกล้กับตัวโอ้ตรงที่เป็นคนเอาการเอางานครับ แต่ในเรื่องเนี่ย จะหนักกว่า คือ เขาจริงจังมาก โอ้เองเอาการเอางาน แต่ก็คงไม่ขนาดนั้น คือ ถ้าต้องใช้ชีวิตกับงานตลอดคงเครียด เราก็ยังอยากมีเพื่อน มีเวลาเป็นของตัวเอง แต่ตัวละครเนี่ยจะเน้นไปที่ทำงานเพื่อสิ่งที่พ่อของเราฝันไว้ ต้องทำให้ได้ โดยไม่มองความต้องการของตัวเองเลย คือ ทำทุกอย่างเพื่อพ่อ เท่านั้น ตัวโอ้เองก็มีมุมนี้ คืออยากทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวด้วย แต่ก็อยากมีเวลาเป็นของตัวเองด้วย (หัวเราะ)


  ฉากที่ยากสำหรับโอ้

           มาริโอ้ : ที่ยากสำหรับโอ้ จะเป็นฉากที่ต้องเข้ากับพ่อครับ เพราะว่ามีความดราม่าเยอะ คือ ที่ผ่านมาผมจะถูกแซวว่าเล่นแข็ง แต่ผมคิดว่าเราก็ต้องเรียนรู้ไป ผมเองก็ไม่แคร์นะ แต่ต้องฟัง เพราะอะไรที่เราไม่ดียังไม่เก่งเราก็ต้องมาปรับตัว แรก ๆ มีข่าวแบบนี้มันก็เครียดอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องพยายามครับ พยายามทำให้ได้ เพราะทุกเสียงวิจารณ์มาจากคนที่ดูงานเรา ผมเองก็ตั้งใจทำการบ้านมากขึ้น คือ พยายามทำความเข้าใจกับบทให้มากที่สุด เรื่องนี้ พี่หนุ่ม กฤษณ์ เป็นผู้กำกับฯ พี่เขาพยายามให้โอ้ทำความเข้าใจเรื่องให้มากขึ้น ซึ่งพี่เขาเป็นคนอธิบายงานละเอียดอยู่แล้วครับ ก็เลยทำให้เราทำงานง่ายขึ้นครับ


มาริโอ้ เมาเร่อ


  การร่วมงานกับ "แต้ว" นางเอกของเรื่องละคะ เป็นอย่างไร

           มาริโอ้ : กับ แต้ว ณฐพร เข้าที่แล้วครับ ในเรื่องจะไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เจอกันในฉากจะทะเลาะกันตลอดเลย แต่ตัวจริงเวลาเจอกันไม่ทะเลาะกันนะครับ (หัวเราะ) แต้วเขาน่ารักดีอย่างในเรื่องเนี่ยจริง ๆ เป็นคนดีนะ แต่ก็มีแซวเขาบ้าง เข้าฉากกับแต้วส่วนมากจะต่อปากต่อคำกัน ไม่ค่อยมีซึ้ง ๆ อ้อ ! อย่างมีฉากนึงต้องเดินแฟชั่นโชว์เพชร แล้วก็ต้องเต้นคู่กัน ก็กลัวเหมือนกัน คือ เราเคยเดินแฟชั่นมา แต่เรื่องเต้นเนี่ย เราเคยเต้นแบบบ้าน ๆ โจ๊ะ ๆ แต่ต้องมาเต้นแบบลีลาศเลย ก็กลัวเหมือนกัน ต้องซ้อมเยอะหน่อย แล้วมีต้องยกตัวแต้วขึ้นด้วย ผมก็ฟิตมานะ เตรียมยกดัมเบลมาก่อนเลย (หัวเราะ)


  ในเรื่องรับบทเป็นหลานเจ้าของร้านเพชรชีวิตจริงถ้าโอ้รวยได้แบบนั้นจะทำอะไรบ้าง

           มาริโอ้ : โห ! ถ้าชีวิตจริงรวยได้ขนาดนี้นะครับ ผมคงขอไปเรียนก่อนเลย อยากเรียนเยอะ แล้วก็ไม่ต้องทำงานเยอะมากมายแบบวันนี้ เราไปเรียนแล้วก็ตั้งใจกลับมาช่วยธุรกิจที่บ้าน ซึ่งวิชาที่เรียนก็ต้องเกี่ยวกับธุรกิจที่บ้านเราเนี่ยล่ะครับ ซึ่งวันนั้นถ้าผมรวยแบบในเรื่องเนี่ย คงทำอะไร ได้เยอะเลย อยากได้อะไรคงซื้อ แต่สุดท้ายความภูมิใจ ผมก็ยังมองว่า การที่ผมทำงานหาเงินได้เอง แล้วใช้เงินที่เราหามาได้ มันเป็นความภูมิใจมากกว่าที่จะเป็นครอบครัว หรือพ่อแม่ให้มาอีกอย่างคือถ้าเราสามารถต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ให้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม พัฒนาได้ดีขึ้น มันก็จะเป็นความภูมิใจเหมือนกัน


  เงินที่หามาได้ สร้างความภูมิใจอะไรให้ตัวเองบ้างคะ

           มาริโอ้ : ก็มีซื้อรถเก่ามาคันนึงครับ เป็นรถเต่าปี’62 คือ ผมมีรถใหม่แล้วล่ะ แต่ผมชอบรถเต่านะ ผมว่ามันคลาสสิกดี เคยศึกษาปีแรกที่เขาผลิตคือปี’53 เห็นแล้วมันคลาสสิกดีก็เลยชอบครับ ซื้อมาแต่ยังไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่เลย เพราะทุกวันนี้ทำแต่งานอย่างเดียว ส่วนมากจะอยู่ในกองละคร


  โอ้ทำงานหนักขนาดนี้ พักผ่อนดูแลร่างกายอย่างไรคะ

           มาริโอ้ : พยายามนอนให้เยอะ ๆ ครับ แต่ส่วนมากจะได้นอนน้อย เพราะเราทำงาน อย่างถ่ายละครเลิกกองบางทีก็เที่ยงคืนตี 1 มันก็ต้องมีแอบนอนตามกองบ้างพักบ้าง (หัวเราะ) คือ ถ้าเราทำงานเยอะ ๆ สายตาเราก็ใช้เยอะ เรียกว่าเราใช้สายตาเยอะกว่าคนปกติ เลยจะแอบนอนกลางวัน งีบนึงสัก 20 นาทีก็ช่วยได้แล้วครับ เรียกว่าเป็นการชาร์จแบตไปในตัว ส่วนสุขภาพ เพราะต้องตื่นเช้าแล้วก็รีบออกจากบ้านไปทำงาน พอตื่นเช้ามาโอ้จะเปิดตู้เย็นกินนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์พลัสก่อนเลยครับ ทานทุกเช้าไม่งั้นเราไม่ค่อยมีพลังไปทำงาน ผมว่านมถั่วเหลืองช่วยให้ท้องไม่ว่าง พอท้องไม่ว่างมันก็ทำให้เราทำงานได้เต็มที่ อย่างอ่านบทก็จะทำให้จำได้ง่ายขึ้น ไม่ขี้ลืม อีกอย่างคือโอ้ชอบไปฟิตเนส แล้วเวลาเล่นฟิตเนสก็จะเพลีย เพราะเราออกกำลังกายเยอะ พอมาดื่มนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์พลัส ก็จะทำให้เราสดชื่นขึ้นจริง ๆ โอ้ดื่มไวตามิ้ลค์มานานแล้ว ก่อนจะมาเป็นพรีเซ็นเตอร์อีก โอ้ว่ามันทำให้เรามีพลังที่จะทำงานครับ


  ในเรื่องต้องทะเลาะกับนางเอกเกือบจะทุกฉาก ถ้าชีวิตจริง โอ้ว่าผู้หญิงที่ทะเลาะกันทุกวันอย่างนี้ จะมาเป็นคนรักกันได้ไหม

           มาริโอ้ : ผมเชื่อว่าได้ครับ เพราะการทะเลาะกัน มันไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้ากันไม่ได้ อย่างผู้ใหญ่หลายคนที่เป็นคู่ชีวิตกัน ก็ต้องมีวันที่ทะเลาะกันบ้างเหมือนกัน แต่สุดท้ายผมเชื่อว่าความรักจะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปได้ แล้วก็กลับมาเป็นคนรักกันเหมือนเดิม คือมันต้องมีความเข้าใจกันเป็นพื้นฐาน ไอ้จะทะเลาะกันทุกวันจนเลิกกันไปมันก็คงมี แต่ผมเชื่อว่าถ้าคนรักกันต่อให้ทะเลาะกันทุกวันนั้นก็ยังรักกันอยู่ครับ


มาริโอ้ เมาเร่อ


  จำเป็นไหม ที่แฟนกันจะต้องมีนิสัยเหมือนกันทุกอย่าง

           มาริโอ้ : การที่แฟนจะต้องเหมือนเราทุกอย่างไหม ไม่จำเป็นครับ ถ้าเหมือนกันทุกอย่างมันไม่ดีนะ ผมมองว่าการที่เป็นแฟนกันแล้วนิสัยไม่เหมือนกัน มันทำให้เข้าใจกันมากขึ้น ความคิดต่างกันทำให้เรามีการปรับตัวเข้าหากัน ซึ่งนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นคน ๆ เดียว ถ้าเหมือนกันซะทุกอย่างมันก็คงไปไม่รอด ต้องมีมุมที่ต่างกันไปบ้างครับ


  ความรักสำหรับมาริโอ้คืออะไร

           มาริโอ้ : ความรักสำหรับโอ้ โอ้มองว่ามันอยู่รอบตัวนะครับ ไม่ใช่แค่รักตัวเอง หรือรักคนรัก ต้องรักเพื่อน รักคนรอบตัวเราทั้งหมด อย่างความรักกับคนรัก ก็ต้องมองที่เรื่องความไว้ใจซึ่งกันและกัน ซึ่งคบกันไป มันมีอยู่แล้วที่วันนึงจะต้องมาทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน แต่ถ้าเรายังรัก ก็ต้องมีการให้อภัยกัน และยอมรับในข้อไม่ดีของแต่ละฝ่าย คือคนทุกคนมีข้อดีข้อเสีย อยู่ที่ว่าเราและเขา จะยอมรับและเข้าใจในจุดนั้นหรือเปล่าครับ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 37 วันที่ 25-31 พฤษภาคม 2554

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อัพเดทชีวิตส่วนตัว มาริโอ้ เมาเร่อ อัปเดตล่าสุด 30 พฤษภาคม 2554 เวลา 08:36:56 2,150 อ่าน
TOP