เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่ใช้ครีมขจัดเซลลูไลท์ที่ต้นขา เพื่อหวังมีต้นขากระชับสวยไร้ผิวเปลือกส้ม, ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนทุกสัปดาห์จะได้มีจมูกเนียนสวย หรือใช้ครีมทาผิวแบบเข้มข้นเพื่อการบำรุงที่ล้ำลึก บางทีสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ให้ผลอย่างที่เราคิดเอาไว้ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเราควรรู้ความจริงอะไรเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้บ้าง
1. แผ่นลอกสิวเสี้ยนช่วยลดสิวเสี้ยนวิธีที่จะเอาเจ้าสิวเสี้ยนตัวจริงออกจากจมูกให้ได้นั้น มีอยู่เพียงทางเดียวคือการเค้นมันออกมา ไม่ว่าจะใช้วิธีกดสิวหรืออะไรก็ตาม สำหรับการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน จุดดำ ๆ ที่ปรากฎให้เห็นนั้น ไม่ใช่อะไรเลยนอกจากเส้นขนและความสกปรกที่อุดตันอยู่รูขุมขนค่ะ อธิบายง่าย ๆ ก็คือแผ่นลอกสิวเสี้ยนไม่ได้ช่วยให้หัวสิวหลุดออกมา แต่ช่วยดึงสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดสิวเสี้ยนออกมาต่างหาก
2. ครีมนวดลดเซลลูไลท์ขจัดผิวเปลือกส้มได้ไม่ว่าผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะอ้างสรรพคุณจากการทดลองใช้จากผู้ใช้ กี่คนก็ตาม ความเป็นจริงก็คือ ยังไม่มีครีมหรือเจลตัวใดที่สามารถสลายเซลลูไลท์ หรือช่วยลดกระชับบริเวณที่มีผิวเปลือกส้มนี้ได้อย่างถาวรแน่นอนค่ะ
3. ใช้ครีมกันแดดแค่วันที่มีแดดก็พอในแสงแดดที่มีทั้งรังสี UVA และ UVB โดยรังสี UVB นั้นมาในรูปของความร้อน ทำให้เกิดอาการผิวแสบไหม้ ยิ่งแดดจ้ามากเท่าไหร่ รังสี UVB ก็ยิ่งเข้มข้น และทำให้ผิวไหม้ได้มากเท่านั้น ส่วนเจ้า UVA นั้นไม่ว่าจะแดดจัดหรือเมฆครึ้มเท่าไร รังสีตัวนี้ก็ยังสามารถแทรกลงมาทำลายผิวได้ทุกเมื่อ แม้ว่าคุณจะนั่งอยู่ในห้องที่กระจกติดฟิล์มกรองแสงก็ตาม ซึ่งเจ้า UVA นี้แหละเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอย ความเหี่ยวย่น และฝ้ากระจุดด่างดำต่าง ๆ บนผิว เพราะฉะนั้นหากคุณคิดว่าใช้ครีมกันแดดเฉพาะวันที่แดดออกละก็ คิดผิดถนัดเลยล่ะค่ะ
4. การใช้ซีรั่มทำให้เสียเวลาและเสียเงินโดยใช่เหตุหลาย ๆ คนคิดว่าซีรั่มไม่ใช่เรื่องจำเป็น ก็ในเมื่อมีทั้งมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ และครีมบำรุงอื่น ๆ อยู่แล้ว แต่ความจริงนั้น การใช้ซีรั่มก่อนที่จะลงมอยซ์เจอร์ไรเซอร์หรือครีมบำรุงต่าง ๆ จะช่วยกระตุ้นให้ผิวหน้าของเราดูดซับสารบำรุงในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่จะใช้ในขั้นต่อไปได้ดีขึ้น ทั้งนี้ ซีรั่มยังมีความเข้มข้นของสารอาหาร ที่จำเป็นต่อผิวมากกว่าครีมบำรุงทั่วไปด้วย
5. การใช้โทนเนอร์เป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าหลาย ๆ คนมองข้ามการใช้โทนเนอร์ ทั้งบางคนยังคิดว่าหน้าไม่ถูกกับโทนเนอร์ด้วยซ้ำ แต่นั่นอาจเป็นเพราะคุณแพ้แอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ก็ได้ ลองเปลี่ยนเป็นสูตรที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ดูสิคะ เพราะความจริงแล้ว โทนเนอร์ช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่าง ๆ และยังช่วยเรื่องสมดุลย์ของน้ำในผิวด้วย
6. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชนิดเดิมไม่เปลี่ยนบางคนใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประเภทเดิมต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งความจริงไม่ควรทำเช่นนี้นะคะ เพราะว่าสภาพผิวหน้าของเรามีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ กันไป ตามสภาพอากาศ ซึ่งหมายความว่า ในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวผิวเราย่อมมีสภาพผิวที่แตกต่างจากกัน และก็ต้องการการบำรุงผิวที่แตกต่างกันด้วยค่ะ จึงต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า ในแต่ละช่วงเวลาของปีด้วยนะคะ
7. อาหารมันและช็อกโกแลตทำให้เกิดสิวข้อนี้คาดว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินและเชื่อกันมานาน ว่าของมัน ๆ และช็อกโกแลตเป็นสาเหตุของการเกิดสิว แต่ความจริงแล้วจนกระทั่งบัดนี้ ก็ยังไม่มีหลักฐานใดหนักแน่นเพียงพอที่จะชี้ชัดได้ว่า พวกมันคือตัวการก่อให้เกิดสิวจริง ๆ
8. ผิวมันไม่ต้องการความชุ่มชื้นความคิดนี้ผิดโดยสิ้นเชิงค่ะ การเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เป็นสิ่งที่จำเป็นในการรักษาให้เซลล์ผิวมีสุขภาพดี เซลล์ผิวที่มีอาการขาดน้ำนอกจากแสดงอาการผิวแห้งแล้ว บางครั้งยังแสดงอาการหลั่งน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวด้วย เพราะฉะนั้น คนที่มีผิวหน้ามัน จึงไม่ได้หมายความว่าผิวไม่ต้องการความชุ่มชื้นนะคะ สำหรับสาวผิวมัน จึงต้องหลีกเลี่ยงครีมบำรุง หรือผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมัน แต่ให้เลือกใช้ครีมที่เติมความชุ่มชื้นแบบออยล์ฟรีแทนค่ะ
9. การนั่งไขว่ห้าทำให้เกิดเส้นเลือดขอดมีหลายคนเชื่อว่าการนั่งไขว่ห้างทำให้เส้นเลือดถูกกดทับ ความดันในเส้นเลือดที่ขาเพิ่มสูงและเกิดปัญหาเส้นเลือดขอดตามมา แต่ความเชื่อนี้ยังไม่เคยได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริงหรือไม่ ความจริงแล้ว สาเหตุสำคัญของอาการเส้นเลือดขอดนั้นมักมาจากกรรมพันธุ์, ปัญหาน้ำหนักเกิน และอายุที่มากขึ้น อย่างไรก็ตามมีงานศึกษาบางชิ้นชี้ว่า การใส่ปลอกกระชับขาจะช่วยลดความรุนแรงของอาการเส้นเลือดขอดได้ เพราะปลอกที่ว่านี้จะคอยบีบกระชับไม่ให้เส้นเลือดขยายตัวมากเกินไป
10. ครีมบำรุงเนื้อยิ่งข้นยิ่งดีสาว ๆ หลายคนมีความเชื่อเรื่องครีมบำรุงผิวว่า ยิ่งเนื้อผลิตภัณฑ์เข้มข้นเท่าไรก็ยิ่งบำรุงผิวได้ล้ำลึกเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผิวของเรามีขีดความสามารถที่จำกัดในการดูดซับความชุ่มชื้น ไม่ว่าเนื้อครีมจะเข้มข้นแค่ไหน ผิวหนังของเราก็ดูดซึมความชุ่มชื้นไปแค่เท่าที่ต้องการเท่านั้น แล้วก็ปล่อยครีมส่วนที่เหลือไว้ให้เหนอะหนะอยู่ด้านบนนั่นเอง
สาว ๆ คนไหนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ แล้วพบว่าตัวเองก็เคยมีความเข้าใจแบบผิด ๆ เหล่านี้อยู่ ตอนนี้ได้เวลาปรับความเข้าใจกันใหม่แล้วล่ะค่ะ ปรับเปลี่ยนความคิดและมุมมองเสียใหม่ คราวนี้เราจะได้สวยกันอย่างรู้เท่าทันค่ะ
