x close

12 สัญญาณ บ่งบอกให้โบกมือลาผู้ชายของคุณ

ความรัก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หากคุณกำลังอยู่ในช่วงคบหาดูใจใครอย่างจริงจังนั้น จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาเป็นคนที่คุณสามารถไว้วางใจได้ และเป็นคนที่ใช่ของคุณจริง ๆ หากคุณรู้สึกว่าหนุ่มคนนี้ใช่สำหรับคุณแน่ ๆ บางอย่างจะส่งสัญญาณให้คุณรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าเกิดว่าเขาเป็นคนที่ไม่ใช่ขึ้นมาล่ะ จะดูออกได้อย่างไร คราวนี้เราเลยหยิบยก สัญญาณ 12 ประการ ที่บ่งบอกว่าผู้ชายของคุณคนนี้ อาจจะไม่ใช่คนที่คุณเฝ้ารออยู่ ขืนคบกันไปยาว ๆ คงไม่มีความสุขเป็นแน่ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

1. ไม่เคยทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นคนพิเศษสำหรับเขา

          หากเป็นคนรักกันจริง ๆ ล่ะก็ ไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไร เขาก็จะมองว่าคุณเป็นคนที่สวยที่สุด น่ารักที่สุด ฉลาดที่สุด เพอร์เฟ็คสมบูรณ์แบบที่สุด และแน่นอนว่าต้องเป็นคนพิเศษที่สุดสำหรับเขาด้วย แต่หากชายหนุ่มของคุณ ไม่เคยทำให้คุณรู้สึกเช่นนี้ได้เลยแม้สักครั้งเดียว ถึวเวลาแล้วที่คุณจะต้องทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขา ว่าตกลงมันคืออะไรกันแน่ บางทีมันคงไม่ใช่ความรักแล้วล่ะ

2. คุณเป็นคนสุดท้ายที่เขานึกถึงยามชวนไปเที่ยว

          การไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง หากเขาตั้งใจจะไปกับคุณจริง ๆ เขาย่อมบอกคุณเป็นคนแรก ทั้งยังกระตือรือร้นในการคะยั้นคะยอ ให้คุณออกไอเดียว่าจะไปทำอะไร ที่ไหนด้วยซ้ำ แต่หากคุณมักเป็นคนสุดท้ายที่เขาชวนอยู่เสมอ ประเภทที่ว่าถึงที่หมายแล้วถึงยกหูโทรศัพท์มาเอ่ยชวน หรือชวนคุณไปสมทบกับเขาและเพื่อนที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว แบบนี้ก็ตีความได้กลาย ๆ ว่า เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับคุณเลย หรือบางทีเขาก็อาจโทรหาคุณเพราะว่าเขาหาใครไปเป็นเพื่อนไม่ได้จริง ๆ เป็นคนสุดท้ายที่เขาคิดถึงแบบนี้ มันน่าน้อยใจไหมล่ะ ?

3. ชมผู้หญิงอื่นต่อหน้าคุณ

          เมื่อไหร่ก็ตามที่หนุ่มของคุณ พูดถึงแต่เรื่องของผู้หญิงคนอื่น ประเภทที่ว่าชมได้ไม่ขาดปาก ไม่ว่าตัวเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม นั่นเริ่มส่งสัญญาณแล้วว่า เขาชักจะเขวเสียแล้ว เมื่อใจเขายังคิดไปถึงคนอื่นได้ อีกไม่นานตัวเขาก็คงตามไปเช่นเดียว เปล่าประโยชน์ที่จะดึงรั้งไว้เพื่อคบกันยาว ๆ

4. มีความลับในโทรศัพท์

          ถ้าเขามักจะรับโทรศัพท์แล้วหลบไปคุยคนเดียว หรือรีบรับโทรศัพท์ประเภทดังปุ๊บยกหูปั๊บ แบบที่ไม่อยากให้คุณเห็นว่าใครโทรมา แถมตัวเขายังไม่ใช่คนแบบที่จะโทรศัพท์คุยกับแม่บ่อย ๆ และมักบอกกับคุณว่า เป็นโทรศัพท์เรื่องงาน หรือเป็นเพื่อนสมัยเรียนโทรมา นั่นเริ่มแสดงอาการให้คุณจับพิรุธแล้วว่า เขามีลับลมคมในอะไรซ่อนไว้แน่ ๆ บางทีคำแก้ตัวแบบนี้เขาก็คงใช้บอกกับผู้หญิงคนอื่น ที่เขาอยู่ด้วยเวลาคุณโทรมาเช่นกัน

5. ชวนขึ้นเตียงตั้งแต่เดทแรก

          แม้เราจะรู้ ๆ กันอยู่ว่าพวกผู้ชายมักคิดอะไรไม่ค่อยพ้นใต้สะดือ แต่หากเขาคิดถึงเรื่องบนเตียงอยู่ตลอดเวลา ขนาดชวนคุณขึ้นเตียงตั้งแต่ครั้งแรกที่เพิ่งรู้จักกันแล้วล่ะก็ เดินออกมาให้ห่างจากชีวิตผู้ชายคนนั้นเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ ไม่ว่าคุณสมบัติอื่นเขาจะดีพร้อมขนาดไหน แต่ถ้าเอ่ยปากขอมีเซ็กส์ด้วยตั้งแต่รู้จักกันยังไม่ทันไรแบบนี้ ก็แสดงว่าเขาไม่ได้ประเมินค่าคุณไปมากกว่าผู้หญิงหากินด้วยซ้ำ แล้วคุณจะเอาคนแบบนี้เข้ามาพัวพันในชีวิตทำไม จริงไหม ?

6. ขุดคุ้ยเรื่องเก่ามากลบเกลื่อนเวลาทะเลาะกัน

          หากเขามักขุดคุ้ยเรื่องเก่า ๆ ขึ้นมาพูดเวลาคุณกับเขามีปากเสียงกัน โดยเฉพาะเรื่องเก่า ๆ ที่คุณเคยทำพลั้งพลาด หรือไม่ก็พูดทำนองว่าคุณงี่เง่า ไม่มีเหตุผล ใช้นิสัยผู้หญิง ฯลฯ นั่นมักเป็นเพราะเขารู้ว่าตัวเองทำผิดจริง และต้องการกลบเกลื่อนเปลี่ยนประเด็นไม่ให้ตัวเองถูกโจมตีนั่นเอง

7. ปล่อยให้ผู้หญิงนำเกมรักอยู่ฝ่ายเดียว

          หนุ่ม ๆ มักถูกคาดหวังว่าจะต้องเป็นฝ่ายนำกับเรื่องบนเตียง ถึงมันจะไม่ได้เป็นไปตามนี้เสมอไปก็ตาม แต่ถ้าหากคนรักของคุณนอกจากจะไม่แอคทีฟแล้ว ยังนอนนิ่งให้คุณเป็นฝ่ายนำเกมอยู่ร่ำไป หากเป็นแบบนี้ไปบ่อย ๆ เข้า ชีวิตรักคุณคงไม่ราบรื่นแน่นอน เพราะผู้ชายประเภทนี้มีแนวโน้มว่าจะไม่หยิบจับ หรือทำอะไรด้วยตัวเองในเรื่องอื่น ๆ ด้วย

8. เกาะติดคุณหนึบ

          ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นที่สุด เมื่อคนทั้งสองได้มีเวลาเป็นส่วนตัวโดยไม่ขึ้นต่อกันและกันบ้าง แม้จะรักกัน แต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องตัวติดกันตลอดเวลา หากหนุ่มของคุณออกอาการติดคุณแจ ไปไหนต้องตามไปด้วย ต้องการใช้เวลาอยู่ใกล้ ๆ คุณทุก ๆ วินาที แบบนี้ก็ตีความได้สองแบบ อย่างแรกคือรักคุณเอาเสียมาก ๆ แบบไม่อยากแยกจากกันเลย และอย่างที่สองคือคิดอะไรเองไม่เป็น ต้องมีคนคอยนำตลอดเวลา ลองพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาดูให้ดีว่าเข้าข่ายแบบแรก หรือแบบหลัง ถ้าหากเป็นแบบหลังแล้วละก็ ท่าทางคุณคงจะอยู่ในสถานะแม่คนที่สองของเขา มากกว่าที่จะเป็นแฟนแล้วล่ะ

9. ผู้ชายติดแม่

          ไม่ใช่เรื่องผิดหากผู้ชายจะสนิทแม่ เพราะไม่ว่าอย่างไรความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก ก็เป็นสิ่งที่ตัดไม่ขาด แต่ถ้าหากแม่ของเขารู้ทุกเรื่องในความเป็นไประหว่างคุณสองคน ทั้งที่บางเรื่องเป็นเรื่องที่คุณ อยากจะให้เป็นเรื่องที่รู้กันสองคนแค่คุณกับเขาเท่านั้น คุณคงต้องมาทบทวนดูใหม่ว่า หนุ่มของคุณเป็นแค่ ผู้ชายที่สนิทกับแม่ หรือเป็นผู้ชายติดแม่กันแน่ ?

10. ไม่เปิดใจกับคุณ

          แม้ผู้ชายส่วนใหญ่จะถูกคาดหวังว่าจะต้องไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น หรืออ่อนแอจนต้องยืมไหล่ใครมาซบ แต่อย่างน้อยในความสัมพันธ์ใกล้ชิดแบบคนรู้ใจกัน ผู้ชายก็ควรจะเปิดใจให้เห็นด้านที่เป็นตัวตนจริง ๆ ของเขาบ้าง แม้จะไม่ถึงขนาดซบไหล่ร้องไห้สะอื้น แต่อย่างน้อยก็ย่อมต้องเผยให้คุณได้รับรู้ ว่าเขานึกคิดอะไรอยู่บ้าง หากคุณและเขาคบกันมาหลายเดือน แต่เขายังไม่เคยปริปากพูดถึงเรื่องส่วนตัว อย่างเรื่องสมัยเด็ก หรือเรื่องความใฝ่ฝันที่อาจจะดูเพ้อฝันไปสักหน่อย ให้คุณฟังบ้าง นั่นอาจหมายความว่าเขายังไม่เปิดใจรับคุณเข้าไปก็ได้

11. เลือกสื่อผ่านตัวอักษร มากกว่าการพบปะสนทนาจริง

          แม้จะรู้ดีกันอยู่ว่า เดี๋ยวนี้การเจรจาอะไร ๆ ก็ง่ายขึ้นด้วยการสื่อสารผ่านอีเมล์ การส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ การแชท หรือผ่านสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก อย่าง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ฯลฯ บางครั้งหนุ่ม ๆ ก็นิยมส่งข้อความหวาน ๆ เหล่านี้แทนการพูดจากปากตัวเอง ด้วยอาจเขินอายไม่กล้าสบตาสาวเจ้าในสถานการณ์เช่นนั้น แต่หากเป็นเรื่องที่ซีเรียสจริงจัง หรือเรื่องคอขาดบาดตายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณทั้งสอง แต่เขากลับบอกคุณผ่านสื่อเหล่านี้ แทนที่จะมาพบหน้าพูดคุยกันแบบตัวต่อตัว แสดงว่าเขาหลีกเลี่ยงการพบคุณ และอาจมีเรื่องที่ปิดบังคุณอยู่ก็เป็นได้

12. ไม่เคยอยู่เคียงข้าง ในยามที่คุณต้องการเขามากที่สุด

          การมีคู่นั้นย่อมหมายถึง การมีเพื่อนคู่คิดที่จะพร้อมก้าวเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะในทางดีหรือร้าย โดยเฉพาะในสถานการณ์ย่ำแย่ที่สุดที่คุณย่อมต้องได้เจอ เช่น การสูญเสียคนที่รักอย่างพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่, ถูกเจ้านายตำหนิ หรือตกงาน ฯลฯ ในเวลาเช่นนี้ สิ่งที่คุณต้องการเพียงแค่คนจับมือคอยให้กำลังใจ และคน ๆ นั้นคุณก็อยากให้เป็นเขา แต่เขากลับไม่เคยอยู่เคียงข้างคุณ เพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้เลยสักครั้ง บางทีปล่อยให้เขาไปตามทางของเขา แล้วคุณก็ทำใจรับมือกับปัญหาโดยลำพัง จะดีกว่ามีแฟนทั้งคนแต่เขาไม่เคยใส่ใจเรา

          เฮ้อ! อ่านแล้วเหนื่อยใจจริง ๆ ค่ะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าหากเขามีอาการแบบนี้ ก็คงต้องคิดถึงเรื่องชีวิตคู่ ที่คาดหวังว่าจะเดินไปร่วมกันให้มากขึ้นไปอีก หากลองปรับแล้วก็ยังเข้ากันไม่ได้ ก็โบกมือลาเขาเสียเถิดค่ะ ถ้าผู้ชายนิสัยแบบนี้จริง ๆ ก็ไม่รู้จะฝืนอยู่ให้เจ็บทำไม จริงไหมคะสาว ๆ





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
12 สัญญาณ บ่งบอกให้โบกมือลาผู้ชายของคุณ อัปเดตล่าสุด 22 กรกฎาคม 2554 เวลา 10:40:35 14,139 อ่าน
TOP