วิธีป้องกันผมเสีย จากการว่ายน้ำ เจอคลอรีนหนักแค่ไหนก็ไม่หวั่น

          วิธีป้องกันผมเสีย จากการว่ายน้ำ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชอบว่ายน้ำคงต้องกลุ้มใจหนักหน่อยเวลาผมโดนคลอรีนเป็นระยะเวลานาน อาจถึงขั้นทำให้ผมเปลี่ยนสีได้เลย พอจะมีทางป้องกันแบบง่าย ๆ ได้บ้างไหมนะ

          สำหรับเมืองร้อนอย่างประเทศไทย หลาย ๆ คนหนีร้อนด้วยการกระโดดลงสระน้ำ แหวกว่ายให้เย็นชื่นใจ แต่ในขณะที่ร่างกายเย็นสดชื่น เส้นผมของเรากลับถูกทำลายลงในเวลาเดียวกัน เนื่องจากคลอรีนที่มีอยู่ในสระว่ายน้ำนั่นเอง "คลอรีน" เป็นสารที่เติมลงในสระว่ายน้ำ เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและทำลายคราบโปรตีนต่าง ๆ ทำให้น้ำสะอาดตลอดเวลา แต่ของแถมที่ไม่พึงปรารถนาก็คือ มันสามารถทำลายเส้นผมของเราซึ่งเป็นสารประกอบจากโปรตีนเช่นกัน หลังจากว่ายน้ำเราจึงสังเกตได้ว่า ผมจะแห้งหยาบกว่าปกติ ยิ่งในผู้ที่ว่ายน้ำเป็นประจำอยู่แล้ว ผมก็จะยิ่งแห้งเสีย เปราะขาดง่าย ไร้น้ำหนัก ส่วนผู้ที่ทำสีผมหรือทำไฮไลต์มา คลอรีนก็จะทำให้สีผมผิดเพี้ยนไปได้เร็วขึ้น ยิ่งเป็นสีอ่อนอย่างสีบลอนด์ ผมอาจเปลี่ยนกลายเป็นสีเทาได้เลยทีเดียว ยิ่งลงว่ายน้ำกลางแดดจัด ความร้อนจากแสงแดดจะเปิดเกล็ดผม ทำให้คลอรีนแทรกซึมถึงแกนผมและทำร้ายผมได้รุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันเส้นผมจากคลอรีนในสระว่ายน้ำ ลองปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ดูนะคะ

1. สวมหมวกว่ายน้ำทุกครั้ง

          สาว ๆ หลายคนอาจจะนึกสงสัยว่าการสวมหมวกว่ายน้ำจะป้องกันผมเสียจากคลอรีนได้อย่างไร เพราะถึงเราสวมหมวกยังไงผมก็เปียกน้ำอยู่ดี ซึ่งนั่นก็ดูจะเป็นเรื่องจริงบ้างแต่หากสวมหมวกว่ายน้ำทุกครั้ง ก็ช่วยลดโอกาสที่จะให้เส้นผมสัมผัสกับน้ำและคลอรีนโดยตรงได้ แล้วก่อนสวมหมวกก็ลงครีมนวดผมป้องกันไว้สัก 1 ชั้น เมื่อผมเปียกน้ำแล้วคลอรีนจะได้ไม่โดนผมนั่นเอง

2. ล้างผมก่อนเล่นน้ำ

          การล้างตัวและล้างผมก่อนเล่นน้ำเป็นสิ่งที่หลายคนมักมองข้ามไป ด้วยคิดว่าอย่างไรก็ต้องตัวเปียกระหว่างเล่นน้ำอยู่แล้วนั่นเอง แต่จะบอกว่าการล้างผมให้เปียกด้วยน้ำสะอาดที่ไม่มีคลอรีนมากนัก เปรียบเสมือนเกราะป้องกันเส้นผมได้ดีทีเดียว เพราะน้ำสะอาดที่เราล้างผมมาก่อนหน้านี้จะทำให้คลอรีนเกาะผมได้ยากมากขึ้น ดังนั้นทุกครั้งก่อนเล่นน้ำ สาว ๆ ควรล้างตัวล้างผมให้เรียบร้อย ทั้งผมและผิวจะได้ไม่โดนคลอรีนกัดได้ง่าย ๆ นั่นเอง

3. ใช้ครีมนวดผมก่อนลงสระทุกครั้ง

          สาว ๆ ที่รักเส้นผมควรชโลมผมด้วยครีมนวดก่อนลงว่ายน้ำทุกครั้ง ด้วยวิธีนี้ครีมนวดผมจะช่วยเคลือบเส้นผม และปิดเกล็ดผมไม่ให้คลอรีนแทรกซึมเข้ามาทำลายจนผมเสียความชุ่มชื้นมากนัก แล้วก็อย่าลืมมัดผมพร้อมกับใส่หมวกด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ครีมนวดบนเส้นผมของเราลงไปผสมในน้ำนั่นเอง

4. สระผมด้วยยาสระผมที่อ่อนโยนทุกครั้งหลังว่ายน้ำ

          แม้น้ำในสระว่ายน้ำจะมีความสะอาดก็จริง แต่การปล่อยให้ผมแห้งไปพร้อมคลอรีนมหาศาลบนเส้นผมของเราคงไม่ดีแน่ ดังนั้นแล้ว หลังการว่ายน้ำทุกครั้งควรสระผมให้สะอาด ด้วยยาสระผมที่มีความอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนที่จะไปอุดตันรูขุมขนบนหนังศีรษะ เพราะในเมื่อผมของเราโดนคลอรีนและเปียกน้ำมาหลายชั่วโมงแล้ว หากใช้สารเคมีหนัก ๆ มาสระผมอีกคงไม่ดีแน่ ควรเป็นยาสระผมที่มีไม่มีสารเคมีจะดีที่สุด แล้วตามด้วยครีมบำรุงผมชนิดเข้มข้นเพื่อฟื้นฟูเส้นผมด้วยจะดีมาก

5. หากเพิ่งย้อมสีผมมาควรรอ 1 สัปดาห์ก่อนลงว่ายน้ำ

          หลังจากที่เราเพิ่งทำสีผมมา มักจะได้ยินคำแนะนำจากช่างทำผมมืออาชีพว่า ควรสระผมหลังจากทำสีผมมาแล้ว 3 วันเท่านั้น เนื่องจากสีที่ทำมาอาจหลุดลอกได้ง่ายมาก หากสระผมเร็วเกินไปก็จะไม่ได้สีตามที่เราต้องการ แล้วทําสีผม ว่ายน้ำได้ไหม อันที่จริงสาว ๆ ยังคงว่ายน้ำได้ตามปกติแต่ก็ไม่ควรลงเล่นน้ำในทันทีที่ทำสี ควรรอไปอีกสัก 7 วันถึงลงเล่นน้ำได้ อีกทั้งต้องไม่ลืมสวมหมวกคลุมผมด้วย เพื่อให้สีผมที่เพิ่งทำติดทนนานนั่นเอง

6. ฟื้นฟูผมเสียจากคลอรีนด้วยการหมักผม

          บางครั้งแค่ป้องกันผมเสียจากคลอรีนอาจจะยังช่วยได้ไม่มากพอ อีกทั้งสาว ๆ บางคนก็ว่ายน้ำบ่อยมาก จนทำให้ผมเสียขั้นสุด ถ้าอย่างนั้นควรหันมาหมักผมหรือทำทรีทเมนต์สัปดาห์ละครั้ง จะช่วยได้มากแต่ถ้าใครไม่อยากเสียเงินมากมายก็ลองใช้สูตรหมักผมแบบทำเองง่าย ๆ ด้วยการนำน้ำมะนาว 1/4 ถ้วย มาผสมกับเบคกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะและยาสระผมสูตรอ่อนโยนอีก 1 ช้อนชา จากนั้นล้างผมให้เปียกด้วยน้ำสะอาด นำส่วนผสมข้างต้นมาชโลมให้ทั่วเส้นผม หมักทั้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อเป็นชำระล้างคลอรีนที่ยังติดค้างอยู่ในเส้นผมนั่นเอง เมื่อหมักผมจนถึงเวลาแล้วก็สระผมตามปกติ แล้วอย่าลืมลงครีมนวดผมเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อจะได้แก้ปัญหาผมเสียได้อย่างอยู่หมัดนั่นเอง

          ทั้งหมดที่กล่าวมาก็คือวิธิรับมือและป้องกันเส้นผมจากการถูกทำร้ายขณะว่ายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นคลอรีนตัวร้ายในสระว่ายน้ำหรือป้องกันสีผมที่เพิ่งย้อมมาไม่ให้หลุดลอกไปอย่างรวดเร็ว รู้อย่างนี้คราวหน้าสาว ๆ ก็กระโดดลงสระได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวผมเสียแล้ว

ข้อมูลจาก : stylecaster.com, health.com, swimspray.com