Get The Look: Formal Look by Puyisme
Get the look ในตอนนี้ขอเปลี่ยนแนวมาเอาใจสาว ๆ ที่อยากแต่งสวย แต่ไม่ชอบแต่งหวาน ไม่ชอบเปรี้ยว ไม่เซ็กซี่ แต่ก็สามารถดูดีได้ในแบบสุภาพ ๆ กันบ้างค่ะ
ลุคนี้เป็นลุคสำหรับงานที่ต้องการความสุภาพ เป็นทางการ ซึ่งทำให้เราดูสวยได้แบบเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ด้วยเทคนิคการแต่งหน้าที่ไม่หวือหวา เน้นความเรียบง่าย และใช้โทนสีเข้มที่ดูสุภาพทำให้เราดูมีคุณวุฒิและวัยวุฒิ มีพลังอำนาจและดูน่าเชื่อถือขึ้น และนอกจากงานที่เป็นทางการแล้ว เรายังสามารถนำลุคนี้ไปประยุกต์ใช้ได้กับหลาย ๆ บทบาทอาชชีพ เช่น การสมัครงานเป็นสาวออฟฟิศ ผู้ประกาศข่าว ผู้ดำเนินรายการ รวมถึงแอร์โฮสเตส
"เทคนิคการแต่งหน้าที่ไม่หวือหวา เน้นความเรียบง่าย และใช้โทนสีเข้มที่ดูสุภาพ"
ภาพรวมของลุคนี้คือ
ใบหน้า - ดูเรียบเนียนระดับมืออาชีพ ด้วยการใช้รองพื้นเนื้อครีมที่ให้ระดับการปกปิดสูง และการใช้แสงเงาที่ทำให้ใบหน้าของเราดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ดวงตา - ไล่มิติที่คมเข้มด้วยโทนสีเอิร์ธ โทนอย่างสีเบจที่ให้ความเรียบง่าย และสีน้ำเงินเข้มที่ทำให้ดวงตาของเรามีพลังอำนาจน่านับถือ ซึ่งลุคนี้เราใช้เส้นขอบตาและขนตาที่มีลายเส้นดูเป็นธรรมชาติ แต่เพิ่มความคมเข้มด้วยความหนาแทนการใช้ลายเส้นแบบแฟชั่น แก้ม - ดูสุภาพด้วยโทนสีเข้ม ให้ตำแหน่งและน้ำหนักที่ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ ปาก - ดูเป็นผู้ใหญ่ด้วยลิปสติกสีเข้มที่มีเทคเจอร์แบบแม็ตสุดท้ายเลือกทรงผมและเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะที่เราจะไป เท่านี้เราก็สามารถสวย ดูดี อย่างสุภาพ ได้แล้วล่ะค่ะ
เคล็ดลับเพิ่มเติมจาก Puyisme
Makeup base ไม่ต้องลงทั้งหน้า ลงเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีความเรียบเนียน หรือมีความไม่สม่ำเสมอ เช่นบริเวณที่มีรูขุมขนกว้าง ๆ เช่น ข้างแก้ม หรือบริเวณหน้าผาก รวมถึงปีกจมูก สันจมูก หลังจากที่ลงรองพื้นแล้ว เราสามารถใช้ ฟองน้ำ ค่อย ๆ กดรองพื้นลงไปที่ผิวของเราเพื่อให้รองพื้น ติดทนมากขึ้น และเรียบเนียนมากขึ้น การใช้แป้งฝุ่นเพื่อควบคุมความมัน ควรใช้ในปริมาณน้อย ๆ เพราะแป้งฝุ่นที่ใช้ในขั้นตอนนี้ จะช่วยในการเซ็ตผิวให้ครีมที่ลงรองพื้นไปแล้วติดทนเท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้มีการปกปิดเพิ่มเติม แต่ถ้าใครที่ปยากปกปิดเพิ่มเติมก็ให้ใช้แป้งแบบ two way หลังจากที่เราลงแป้งฝุ่นไปแล้ว โดยใช้แปรงมาปัดที่ใบหน้า เพื่อให้ texture ไม่ถูกปกปิดจนเกินไป อายแชโดว์ ในการแต่งหน้าลักษณะนี้ควรใช้สีที่สุขุม เช่น สีน้ำตาล สีเบจ หรือสีน้ำเงินเข้ม ที่ทำให้เราดูมีอำนาจมากขึ้น และอย่าลืม เคาะผงอายแชโดว์ส่วนเกินออกด้วยเพื่อไม่ให้ผงกระเด็นเข้าตา การเลือกแปรง ในขั้นตอนการคัดเบ้าตามีความสำคัญ ควรเลือกให้ขนาดพอเหมาะเพื่อให้สามารถคัดบริเวณเบ้าตาได้อย่างสะดวก และได้รูปร่างของเบ้าตาที่มีความคมชัดมากยิ่งขึ้นหากใครอยากเพิ่มลูกเล่นของดวงตาให้ดูมีมิติก็สามารถทำได้ แต่ก็ขอให้ใช้ความบางเบาของสีให้น้อยที่สุด เช่นการใช้สีอ่อนแบบสีขาวมุก ด้วยแปรงที่ให้เท็กซ์เจอร์แบบฟุ้ง ๆ เรียกว่า blending brush เริ่มจากบริเวณหัวตา
การเลือกขนตา ควรเลือกขนตาที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด เพราะว่าหากเราเลือกขนตาที่ดูโอเวอร์มากเกินไปก็จะดูเป็นแฟชั่นไปในที่สุดซึ่งใน look นี้ ปุ้ยเลือกเบอร์ 311 ขั้นตอนการปัดแก้ม สามารถใช้พวกชิมเมอร์เข้ามาช่วยได้แต่อย่ามากจนเกินไป ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ PuYisme
