เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการที่นี่หมอชิต
แม้ว่าวันนี้ "ชมพูฟรุตตี้" หรือ "สุทธิพงษ์วัฒนจัง" อดีตนักร้องวงฟรุตตี้ที่โด่งดังเมื่อเกือบ 30ปีที่แล้ว จะไม่ได้ร้องเพลงในฐานะนักร้องแล้ว แต่ "ชมพู" ก็ยังคลุกคลีอยู่ในวงการเพลงทั้งทำงานเบื้องหลัง เป็นผู้บริหาร และนักแต่งเพลงดัง ๆ หลายเพลงแต่นอกเหนือจากงานด้านดนตรีแล้ว เขาก็ยังมีอีกหนึ่งบทบาทคือการเป็นหัวหน้าครอบครัว"วัฒนจัง" ซึ่งรายการที่นี่หมอชิตเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาก็ได้พาคุณผู้ชมไปรู้จักกับครอบครัวของ "ชมพู ฟรุตตี้"พร้อมกับพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆที่ต้องบอกว่าน่าติดตามไม่น้อยเลยทีเดียว
งานนี้ "ชมพู ฟรุตตี้"ก็ได้พาครอบครัวซึ่งประกอบด้วย คุณบุ๋ม จุฑามาศ อิสรานุกฤต ภรรยาอดีตนักร้องวงปุยฝ้าย และลูกสาวอีก 2 คน คือ น้องเพนกวินและน้องกีวี ไปเที่ยวหัวหินพร้อม ๆ กับรายการที่นี่หมอชิตโดยคุณบุ๋มได้ขอพาลูกสาวไปเที่ยวชมตลาดน้ำหัวหินส่วนชมพูได้ปลีกตัวออกมานั่งสนทนาถึงความสำเร็จในอาชีพการงาน
โดยชมพูเล่าว่าเขาเคยทำงานเบื้องหลังอยู่กับบริษัทอาร์เอสมานาน และได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารแต่ตอนนี้ออกมาทำงานอิสระแล้ว และเปิดโรงเรียนสอนร้องเพลงซึ่งกว่าที่จะก้าวขึ้นมาได้ถึงวันนี้ เขาได้ผ่านจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตมานั่นเพราะก่อนหน้านี้ เขาเป็นคนนิสัยแย่มากในเรื่องของความใจร้อนและอารมณ์ร้ายซึ่งมีผลต่อการทำงานของเขา เพราะลูกน้องถูกด่ากระเจิงจนทยอยลาออกจนหมดทีม
"เบื้องหลังพี่บริหารแย่มาก ต้องใช้คำนั้นเรื่องจิตวิทยากับทีมไม่มี จะเอางานอย่างเดียว เสร็จแล้วลูกน้องก็ทยอยกันลาออกมาคิดได้ตอนที่ลูกน้องคนที่รัก 2 คน รักมากเลยมาลาออกพร้อมกัน เราก็อึ้ง เลยโทรไปถามเขาตรง ๆ ว่า เฮ้ย พี่ว่าพี่เป็นคนดีนะพี่ไม่เคยเอาเปรียบทุกคนเลย เอาใจใส่ทุกคน ทุกอย่างให้หมดเลย ทำไมถึงลาออกมันบอกตรง ๆ พี่ครับ พี่อ่ะดีกับผมมากเลย แต่เวลาพี่ทำงานแล้วเครียดมากแล้วพี่ด่าจนผมไม่อยากทำงานเลย ผมไม่อยากทำงานกับพี่แล้ว ทำกับพี่แล้วเครียดหลังจากนั้นก็คิดได้ว่า ความโกรธทำให้คนที่รักเราไม่สบายใจก็เลยคิดได้ว่าพรุ่งนี้จะไม่ด่าใครแล้ว และทำได้จริง ๆเพราะหลังจากนั้นมาก็ไม่เคยด่าใครอีกเลยซึ่งที่คิดได้เช่นนี้เพราะคุณแม่ปลูกฝังให้อยู่กับธรรมะตั้งแต่เด็ก ๆทำให้เข้าใจโลก"
เล่าถึงเรื่องการทำงานแล้วก็วกมาถึงเรื่องครอบครัวกันบ้าง ซึ่งเป็นเวลาที่คุณบุ๋มกับลูก ๆกลับมาจากการไปเที่ยวที่ตลาดน้ำหัวหินพอดี งานนี้คุณบุ๋มก็เลยได้มาร่วมนั่งเล่าย้อนความหลังถึงสมัยที่จีบกันใหม่ ๆ เสียหน่อย
คุณบุ๋ม เล่าถึงความหลังสมัยที่พบกับ"ชมพู ฟรุตตี้" ครั้งแรกว่ามาจากการที่ทั้งคู่ต้องมาจับคู่ร้องเพลง "นกเขาคู่รัก"ด้วยกันในอัลบั้มรวมดาว ของค่ายอาร์เอส ซึ่งครั้งนั้นคุณบุ๋มไม่ค่อยจะชอบหน้าชมพูเอาเสียเลยแต่กลับต้องมาร้องเพลงคู่และเล่นมิวสิควีดิโอร่วมกัน จึงโกหกชมพูไปว่าตัวเองมีแฟนแล้ว และบอกกับเขาว่า เวลาเล่นมิวสิควีดิโออย่ามาถูกเนื้อต้องตัวเด็ดขาด เพื่อเป็นการปกป้องตัวเอง
แต่ใช่ว่าคุณบุ๋มจะไม่ชอบชมพูเพียงฝ่ายเดียวเพราะทางฝ่าย "ชมพู ฟรุตตี้" เองก็เล่าว่า เมื่อครั้งที่เจอคุณบุ๋มครั้งแรก ก็รู้สึกว่า "ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงแต่งตัวแบบนี้ จะไปด้วยกันหรือ" พร้อมกับยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่สเปกเอาเสียเลย แต่เพราะความที่ต้องทำงานด้วยกันบ่อยๆ ทำให้เขาเริ่มรู้สึกสนิทสนมกับครอบครัวคุณบุ๋มมากขึ้น และรู้สึกว่าคุณบุ๋มเป็นคนน่ารักและเป็นคนดี ส่วนคุณบุ๋มเองก็มองว่าชมพูเป็นคนมีน้ำใจและช่วยเหลือคนรอบข้าง
สุดท้าย ชมพูก็เริ่มชอบคุณบุ๋มและเขียนจดหมายถามความรู้สึกจากคุณบุ๋ม จนตอบตกลงเป็นแฟนกันซึ่งคุณบุ๋มเองก็ทราบดีว่า ชมพูเป็นคนเจ้าชู้มากมีแฟนนับสิบคนยี่สิบคนในคราวเดียวกันแต่ทั้งคู่ก็ยังประคองรักกันมาได้จนตัดสินใจแต่งงานกันในที่สุดและสร้างครอบครัวอันแสนอบอุ่น โดยมีพยานรักด้วยกัน 2 คน คือน้องเพนกวิน และน้องกีวี่ที่น่ารักสุด ๆ นั่นเอง
เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวศิลปินที่น่ารักและอารมณ์ดีมาก ๆไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของครอบครัววัฒนจังตลอดรายการที่นี่หมอชิตตั้งแต่ต้นจนจบ
