ดร.คอนราด เมอร์เรย์
ไมเคิล แจ็คสัน
สรุปแล้วคดีแจ๊กสันโดนฆาตกรรม (ข่าวสด)
เมื่อ 24 ส.ค. เอพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเขตลอสแองเจลิส สหรัฐ สรุปสาเหตุการตายของ ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป๊อปชื่อก้องโลกแล้วว่า เป็นการฆาตกรรม จากการผสมปนเปของตัวยาหลายขนาน การสรุปผลดังกล่าวเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา ดร.คอนราด เมอร์เรย์ แพทย์ที่อยู่กับ ไมเคิล แจ็คสัน นักร้องคนดังในช่วงเสียชีวิตต่อไป
ผลการตรวจสอบสารในร่างกายของ ไมเคิล แจ็คสัน พบว่า มียาโปรโปฟอล ที่มีฤทธิ์ระงับความรู้สึก ทำให้ ไมเคิล แจ็คสัน ชาอย่างรุนแรง ผสมกับยาระงับประสาทอีก 2 ตัว ซึ่งจากเอกสารการรักษา หมอเมอร์เรย์ให้ยาโปรโปฟอล ขนาด 50 มิลลิกรัม กับ ไมเคิล แจ็คสัน เพื่อบรรเทาอาการนอนไม่หลับมานาน 6 สัปดาห์ ต่อมาลดลงเหลือขนาด 25 มิลลิกรัม เพราะเกรงว่า ไมเคิล แจ็คสัน จะติดยาตัวนี้ โดยใช้วิธีไปจ่ายยาอีก 2 ชนิดทดแทนเข้ามา
กระทั่ง 2 วันก่อน ไมเคิล แจ็คสัน เสียชีวิตในวันที่ 25 มิ.ย. หมอเมอร์เรย์ ให้การว่า ตัดโปรโปฟอลออกไป เหลือแต่ตัวยาอีก 2 ชนิดที่แทนเข้ามา จนถึงวันเกิดเหตุ หมอทยอยฉีดยาอีก 2 ตัวเดิมในเวลา ตี 2 ตามด้วยตี 3 แล้วให้ซ้ำอีกเวลา ตี 5 และ 7 โมงเช้า แต่ ไมเคิล แจ็คสัน นอนไม่หลับ และขอยาโปรโปฟอลที่ ไมเคิล แจ็คสัน เรียกว่า "นม" หมอจึงให้ขนาด 25 มิลลิกรัม ทำให้ ไมเคิล แจ็คสัน หลับได้ หมอเฝ้าอยู่ 10 นาที และออกไปเข้าห้องน้ำ 2 นาที กลับมาจึงพบว่า ไมเคิล แจ็คสัน ไม่หายใจแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
