x close

ทำไมต้องนอกใจ


ทำไมต้องนอกใจ

ทำไมต้องนอกใจ (รักลูก)

โดย: นพ. สุกมล วิภาวีพลกุล


          เมื่อเวลาผ่านไป ความเลวร้ายของผู้ชายก็ฉายแววออกมาไม่น้อย

           "เมียน้อย คือผู้หญิงที่ดีที่สุดของผู้ชาย ที่เพิ่งมาค้นพบในภายหลัง" เป็นคำกล่าวของเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง ซึ่งผมกำลังลุ้นอยู่ว่าในอนาคตเขาอาจเสียชีวิตจากเมียหลวง ผู้ที่เขาให้ความหมายว่า "ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยดีมาก่อน แต่กาลเวลาได้กัดกร่อนความดีงามของเธอจนหมดสิ้น" แต่เพื่อนผมมันก็ลืมตัวไปเหมือนกันว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความเลวร้ายของผู้ชายก็ฉายแววออกมาไม่น้อย

          ถ้าเจอกรณีคู่สมรสประเภท "หญิงก็ร้าย – ชายก็เลว" ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะเป็นฝ่ายจำยอม หรือยับยั้งชั่งใจได้มากกว่า ในขณะที่ฝ่ายชายมีมีทางออกได้เยอะ เรื่องสามีนอกใจภรรยาจึงพบบ่อยกว่าอีกฝ่าย ซึ่งถ้อยคำ "นอกใจ" จะถูกแทนที่ด้วยคำว่า "คบชู้" รุนแรงกว่าหลายเท่า

 หญิงกับชาย : คิดและรู้สึกไม่เหมือนกัน

          จิตใจของผู้ชายกับผู้หญิงนี่ไม่เหมือนกันจริง ๆ ครับ หนังสือที่พูดถึงจิตวิทยาความแตกต่างระหว่างชายหญิงชื่อดังสองเล่ม ได้แก่ Men are from Mars, women are from Venus โดยนักจิตวิทยาชื่อ John Grey กับอีกเล่มที่ตีพิมพ์เมื่อหลายปีก่อน (1999) ชื่อ Why men don’t listen & women can’t read maps โดยสองสามีภรรยา Allan & Barbara Pease ที่ต่างก็ยืนยันความแตกต่างนั้น ไม่ได้เป็นผลจากการเลี้ยงดู แต่เป็นเพราะมันถูกกำหนดมาแล้วในเลือดเนื้อและชีวิต

 หญิงกับชาย : อารมณ์ความรู้สึกไม่เหมือนกัน

          ยกตัวอย่างประสบการณ์ตรงให้ชัด ๆ จากการทำงานเป็นจิตแพทย์ผู้ให้การปรึกษาเรื่องชีวิตคู่ ผมพบว่า 80 % ของผู้ชายมักมีปัญหาข้อคำถามเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ และส่วนใหญ่ของผู้หญิงก็เป็นทุกข์เพราะความรัก

          ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ…ฮอร์โมนเพศหญิง (estrogen) เป็นฮอร์โมนแห่งความรัก ความเสน่หา ส่วนฮอร์โมนเพศชาย (testosterone) เป็นฮอร์โมนแห่งความต้องการทางเพศ และความก้าวร้าว

          ในขณะที่ผู้ชายมีฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) สูงกว่าผู้หญิงถึง 10 - 20 เท่า และศูนย์กระตุ้นทางเพศ (sex center) ในสมองส่วน hypothalamus ของผู้ชายก็มีขนาดใหญ่กว่าเพศตรงข้ามอีกด้วย ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผู้ชายถึง "บ้าเซ็กส์" มากกว่าผู้หญิง นี่พูดถึงคนส่วนใหญ่นะครับ ส่วนน้อยอาจมีบ้างที่กลับกัน

          ฮอร์โมนเพศหญิงมีสองชนิด คือ Estrogen และ progesterone ขึ้น ๆ ลง ๆ สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงเยื่อบุผนังมดลูกตามรอบเดือน แต่เราเพิ่งเข้าใจกันมาเมื่อไม่กี่ปีนี้เองว่ามันส่งผลต่อจิตใจทำให้ผู้หญิงมีบทบาทเป็นแม่ บังเกิดความรู้สึกอยากเลี้ยงดูและให้อาหารแก่บุตร Progesterone เป็นฮอร์โมนแห่งความเป็นแม่

          นอกจากฮอร์โมนแห่งความรักแล้ว ธรรมชาติยัง "ซ้ำเติม" ผู้หญิงด้วย oxytocin เป็นฮอร์โมนแห่งความผูกพัน (emotional attachment) ซึ่งมีผลต่อร่างกาย ทำให้มดลูกบีบตัว จะหลั่งออกมา 3 กรณี

           1.ขณะคลอดลูก มดลูกบีบตัว และรู้สึกผูกพันกับเด็กที่คลอดออกมา 

           2.ขณะให้นมลูก น้ำนมที่ไหลรินกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน เกิดความผูกพันกับลูกน้อยในอ้อมแขน 

           3.ขณะมีเพศสัมพันธ์ มดลูกบีบตัว พร้อมความรู้สึกผูกพันกับชายหนุ่มในอ้อมขา!! 

          ผู้หญิงมี oxytocin เยอะ ในขณะที่ผู้ชายมีน้อย…รู้เหตุผลหรือยังครับว่าทำไมผู้หญิงรักเดียวใจเดียว แต่ผู้ชายจึงหลายใจ เพราะฉะนั้น ผู้ชายเองก็ขาด "ภูมิต้านทานการนอกใจ" เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว บางคนกำลังมีความคิดว่าน่าจะมีโรงงานสังเคราะห์ oxytocin ผลิตออกมาเป็นวิตามินบำรุงความรักความผูกพัน ให้สามีกินประจำเช้าและก่อนนอน เพิ่มพูนความต้านทานลดอาการอยากนอกใจคู่ชีวิต

          ทำไมหนอสามีจึงนอกใจ ผมเรียบเรียงดูว่ามีกรณีไหนบ้างในประสบการณ์จริงที่เคยเจอ นอกเหนือจากที่อ่านจากตำราซึ่งว่ากันตามทฤษฎี

 อดอยากปากแห้งในเรื่องเซ็กส์

          ลองดูตัวอย่างจดหมายจากสามีที่เขียนบรรยายความทุกข์ จากการที่ได้ภรรยาแสนดีรายนี้

          "ผมรู้จักกับแฟนโดยการสนับสนุนของผู้ใหญ่สองฝ่าย เธอเป็นผู้หญิงสวยน่ารัก มารยาทดี ผมจึงแต่งงานกับเธอโดยไม่เคยคิดว่าการเป็นกุลสตรีของเธอจะก่อปัญหา เธอเห็นว่าการร่วมเพศก็เพื่อมีลูกเท่านั้น ผมมีความต้องการสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แฟนก็ว่าผมหมกมุ่นเรื่องนี้มากไป เราประนีประนอมกันว่าจะร่วมรักกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เธอก็หาเรื่องบ่ายเบี่ยงตลอด ผมซื้อหนังสือเพศศึกษาให้เธอ เธอก็ไม่ยอมอ่าน นัดไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาเธอก็ว่าผมบ้า ที่เอาเรื่องส่วนตัวไปเล่าให้คนอื่นฟัง

          ผมขอไปเที่ยวหญิงบริการจะได้ไม่กวนเธอ เธอก็บอกว่ายอมไม่ได้ จับได้จะขอหย่า หลัง ๆ ถึงขนาดทะเลาะกัน เธอบอกว่าเธอเป็นแม่บ้านที่ดีทุกอย่าง ผมไม่รักเธอเพราะเรื่องเดียว เธอขอว่าไม่ร่วมรักได้ไหม แล้วเธอจะทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด ผมไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะผมมีความต้องการทางเพศ และไม่คิดว่าตัวเองหมกมุ่นหรือผิดปกติด้วย ผมทำให้เธอมีความสุขเรื่องนี้ได้ยาก เพราะเธอไม่ร่วมมือ เวลาทำก็เร่งผมให้เสร็จเร็ว ๆ เวลาอื่นผมกอดเธอจูบเธอ เธอจะอารมณ์เสียเพราะคิดว่าผมกำลังจะขอร่วมเพศ ผมอยากขอคำปรึกษาครับจากใครก็ได้ ผมไม่อยากหย่าภรรยาทั้ง ๆ ที่เธอดีแต่มีปัญหาเรื่องเซ็กส์เรื่องเดียว อย่าแนะนำให้ผมอดทนนะครับเพราะมันไม่แก้ปัญหา"

          นี่เป็นกรณีสุดโต่งที่ฝ่ายหญิงเป็น "โรครังเกียจการมีเพศสัมพันธ์" (Sexual Aversion Disorder) ซึ่งถือเป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง อันเป็นผลมาจากการเลี้ยงดูหรือประสบการณ์ในวัยเด็ก ทำให้มีทัศนคติทางลบอย่างรุนแรงต่อเรื่องเพศ ผมว่ารายนี้ ถ้าภรรยาไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อบำบัดรักษาโรคที่ตัวเองเป็น ชีวิตคู่คงสิ้นสุดด้วยการแยกทางกัน หรือไม่แล้วก็ต้องมีมือที่สามเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด สามีต้องหาทางออกที่นอกบ้าน

          ผมได้รับการปรึกษาจากผู้หญิงไม่น้อยที่สามีปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ จนทำให้ฝ่ายหญิงแปลกใจและอึดอัด เหมือนชีวิตคู่ขาดอะไรบางอย่าง แต่ที่คิดถึงกับจะนอกใจนอกกายคู่สมรส กลับมีไม่มากเมื่อเทียบกับกรณีเดียวกันที่เกิดกับฝ่ายชาย...

          ก็บอกแล้วว่า ฮอร์โมนเพศชายเป็นฮอร์โมนแห่งเซ็กส์ ผู้หญิงส่วนใหญ่ทนเรื่องขาดเซ็กส์ได้ดีกว่าผู้ชาย

          ขอมีของหวานเสริมสักหน่อย…น่าจะเป็นประเด็นที่พบบ่อยที่สุด อย่างที่เคยพูดเคยเขียนอยู่หลายครั้งว่าแนวคิดของเพศชาย คือ "เซ็กส์ในบ้าน อิ่มแต่ไม่อร่อย - เซ็กส์นอกบ้าน อร่อยแต่ไม่อิ่ม" ภรรยาไม่มีความบกพร่องใด ๆ การปรนนิบัติไม่เคยขาด การสนองเรื่องเพศไม่มีที่ติ ไม่เคยอดอยากปากแห้ง แต่ผู้ชายก็ยังรู้สึกไม่พอ ต้องขออาหารเสริมจากภายนอก

          การแก้ไขป้องกันต้องเป็นการสื่อสารทางบวกด้วยภาษาคำพูดและภาษากายที่จะพัฒนาหรือ Upgrade ความรักจากเสน่หาเมื่อเริ่มต้นชีวิตคู่ มาเป็นเมตตาต่อกัน ทำสติ๊กเกอร์แปะไว้ในห้องน้ำ "สามีมีเมตตา - ภรรยาไม่ช้ำใจ"

          ความเมตตาเป็นวัคซีนที่สำคัญ ป้องกันการนอกใจ ช่วยให้สามียับยั้งชั่งใจต่อกิจกรรม "เกมซ่อนเนื้อ" กับหญิงอื่น…ภรรยาต้องยืนยันหนักแน่นเสมอว่า การนอกใจเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และหากมีสิ่งใดที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ ต้องช่วยกันสร้างสรรค์ "เปลี่ยนที่ก็ยังพอทน แต่ถ้าเปลี่ยนคนก็พอกันที"

          บรรยากาศในบ้านต้องอบอุ่นและเป็นสุข ภรรยาต้องเป็นคนที่สามีอยู่ใกล้แล้วจิตใจเป็นสุข เพราะธรรมชาติของมนุษย์ก็คือ ที่ใดไปแล้วมีสุข เราก็อยากไปอีก คนไหนที่อยู่ใกล้แล้วมีสุข เราก็อยากเจอคนนั้นบ่อย ๆ และคน ๆ นั้นควรต้องเป็นภรรยาที่บ้าน ไม่ใช่บรรดาน้อง ๆ ตองสาม เหล่านางงามในตู้กระจก ใครจะเหนือชั้นกว่าใคร ให้มันรู้ไป

  สามีสันดานเจ้าชู้

          ปัจจุบันเราไม่ค่อยแน่ใจว่า "ความเจ้าชู้" ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้หรือไม่ และนิสัยเจ้าชู้เป็นสิ่งที่ติดตัวอยู่ในสมองหรือโครโมโซมหรือเปล่า เพราะความเจ้าชู้ของผู้ชายหลายคนตั้งแต่วัยหนุ่มมันหยั่งรากฝังลึกในจิตวิญญาณจนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แม้วัยมากขึ้น และแม้ว่าจะรักภรรยาปานจะกลืนกิน เมตตาแค่ไหน สามีก็มิอาจควบคุมใจในเรื่องนี้ ต้องหากินนอกบ้านร่ำไป เพราะปัญหาสำคัญคือ วุฒิภาวะของสามี คือความสามารถในการควบคุมแรงขับในใจ และแสดงออกอย่างเหมาะสม

          พูดอีกอย่าง วุติภาวะคือความสามารถที่สมองส่วนคิดทำงานเหนือสมองส่วนอยาก เพราะฉะนั้น ถ้าสามีของเราเป็นคนที่สมองส่วนอยากทำงานมากกว่าสมองส่วนคิด ไม่แยแสต่อความรู้สึกของภรรยา ทางออกสองอย่าง คือ ถ้าไม่อยากเปลี่ยนผัวใหม่ ก็ต้องทำใจยอมรับ อยู่กับสิ่งที่เขาเป็น อย่างไม่เป็นทุกข์มากนัก "สุขหรือทุกข์ในใจเรา อย่าให้คนอื่นเขามากำหนด" หากเป็นเจ้าของตัวเขาคนเดียวไม่ได้ เราก็ต้องเป็นเจ้าของชีวิตและจิตใจตัวเราเอง


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทำไมต้องนอกใจ อัปเดตล่าสุด 7 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 16:32:26 8,894 อ่าน
TOP