เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าบ่าว-สาวมือใหม่ อะไรๆ ก็คงยังตื่นเต้นน่าดู และยิ่งต้องไปยืนอยู่บนเวที ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่จ้องมองมาทั้งงาน เชื่อว่าเจ้าบ่าว-สาวคงเกิดอาการเขินอายปนประหม่าแน่นอน และยิ่งถ้าต้องพูดต้องกล่าวอะไรๆ อยู่บนเวทียิ่งแล้วใหญ่ ความตื่นเต้นหรือความรู้สึกต่างๆ คงจะประดังประเดเข้ามาจนเกิดอาการทำอะไรไม่ถูก (จริงป่ะ)
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เจ้าบ่าว-สาวมือใหม่ควรเตรียมตัวก่อนขึ้นไปบนเวทีคือ การเขียนร่างคำขอบคุณที่ออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ไม่ต้องมีคำพูดที่แต่งขึ้นพิเศษเพื่ออะไร และต้องบอกกล่าวกับทางพิธีกรให้ทราบด้วยว่า เจ้าบ่าว-สาวจะกล่าวขอบคุณเมื่อไหร่ ตอนไหน พิธีกรจะได้กล่าวเกริ่นนำให้ก่อน
ทั้งนี้ ในการกล่าวคำขอบคุณอาจจะต้องแบ่งกันว่า ใครจะขอบคุณญาติ เพื่อน หรือผู้ใหญ่ที่เคารพท่านไหนบ้าง เพราะการจัดหมวดหมู่จะทำให้เรากล่าวคำขอบคุณได้ครบ แถมไล่ลำดับความสำคัญตามอาวุโสหรือตำแหน่ง และความสนิทส่วนตัวอย่างเหมาะสม เช่น เริ่มจากเจ้านาย ญาติพี่น้อง เพื่อนสมัยเรียนประถม มัธยม มหาวิทยาลัย เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนที่ช่วยงานแต่งงาน เพื่อนสนิท แล้วก็กลับมาที่คุณพ่อคุณแม่ และสุดท้ายของสุดท้ายก็คือคู่ชีวิตที่ยืนจับมือเราอยู่
ที่สำคัญควรใช้คำนำหน้าหรือสรรพนามที่เราใช้อยู่แล้ว เช่น เจ้านาย คุณลุง คุณอา พี่ น้อง เพื่อให้มีความรู้สึกที่อบอุ่นเป็นกันเอง และไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวกล่าวก่อน ใครกล่าวก่อนก็ได้ หรือดูว่าญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายไหนอาวุโสกว่าก็ได้
สำหรับ เทคนิคการกล่าวคำขอบคุณที่ดีคือ การสบตากับผู้ที่เราต้องการจะขอบคุณ แล้วก็พูดออกมาจากใจ ว่าเรารู้สึกเป็นเกียรติและรู้สึกดีใจที่เดินทางมาร่วมงาน เพราะการสบตาเหมือนกับว่าเราอยากบอกความรู้สึกดีๆ ให้อย่างแท้จริงๆ
เพียงเท่านี้เจ้าบ่าว-สาวก็จะไม่เกิดอาการประหม่าบนเวทีแล้วล่ะค่ะ
ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าบ่าว-สาวมือใหม่ อะไรๆ ก็คงยังตื่นเต้นน่าดู และยิ่งต้องไปยืนอยู่บนเวที ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่จ้องมองมาทั้งงาน เชื่อว่าเจ้าบ่าว-สาวคงเกิดอาการเขินอายปนประหม่าแน่นอน และยิ่งถ้าต้องพูดต้องกล่าวอะไรๆ อยู่บนเวทียิ่งแล้วใหญ่ ความตื่นเต้นหรือความรู้สึกต่างๆ คงจะประดังประเดเข้ามาจนเกิดอาการทำอะไรไม่ถูก (จริงป่ะ)
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เจ้าบ่าว-สาวมือใหม่ควรเตรียมตัวก่อนขึ้นไปบนเวทีคือ การเขียนร่างคำขอบคุณที่ออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ไม่ต้องมีคำพูดที่แต่งขึ้นพิเศษเพื่ออะไร และต้องบอกกล่าวกับทางพิธีกรให้ทราบด้วยว่า เจ้าบ่าว-สาวจะกล่าวขอบคุณเมื่อไหร่ ตอนไหน พิธีกรจะได้กล่าวเกริ่นนำให้ก่อน
ทั้งนี้ ในการกล่าวคำขอบคุณอาจจะต้องแบ่งกันว่า ใครจะขอบคุณญาติ เพื่อน หรือผู้ใหญ่ที่เคารพท่านไหนบ้าง เพราะการจัดหมวดหมู่จะทำให้เรากล่าวคำขอบคุณได้ครบ แถมไล่ลำดับความสำคัญตามอาวุโสหรือตำแหน่ง และความสนิทส่วนตัวอย่างเหมาะสม เช่น เริ่มจากเจ้านาย ญาติพี่น้อง เพื่อนสมัยเรียนประถม มัธยม มหาวิทยาลัย เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนที่ช่วยงานแต่งงาน เพื่อนสนิท แล้วก็กลับมาที่คุณพ่อคุณแม่ และสุดท้ายของสุดท้ายก็คือคู่ชีวิตที่ยืนจับมือเราอยู่
ที่สำคัญควรใช้คำนำหน้าหรือสรรพนามที่เราใช้อยู่แล้ว เช่น เจ้านาย คุณลุง คุณอา พี่ น้อง เพื่อให้มีความรู้สึกที่อบอุ่นเป็นกันเอง และไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวกล่าวก่อน ใครกล่าวก่อนก็ได้ หรือดูว่าญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายไหนอาวุโสกว่าก็ได้
สำหรับ เทคนิคการกล่าวคำขอบคุณที่ดีคือ การสบตากับผู้ที่เราต้องการจะขอบคุณ แล้วก็พูดออกมาจากใจ ว่าเรารู้สึกเป็นเกียรติและรู้สึกดีใจที่เดินทางมาร่วมงาน เพราะการสบตาเหมือนกับว่าเราอยากบอกความรู้สึกดีๆ ให้อย่างแท้จริงๆ
เพียงเท่านี้เจ้าบ่าว-สาวก็จะไม่เกิดอาการประหม่าบนเวทีแล้วล่ะค่ะ
