x close

เรื่องเซ็กส์ ที่ครอบครัวควรรู้




เรื่องเซ็กส์ ที่ครอบครัวควรรู้ (Modernmom)

          วิมลโนช ขอใช้ดวงใจฯสเปเชียล หนนี้เป็นเวทีในการพูดคุยเรื่องเซ็กส์กันแบบเปิดอกค่ะโดยได้รวบรวม 50 คำถามยอดฮิตเรื่องเพศและเรื่องอย่างว่ามาเพื่อค้นหาคำตอบและความกระจ่างให้คุณผู้อ่านได้รู้กันแบบลึกๆ เลย...!!!

ทำไมต้องเซ็กส์์..ส..ส. !!! ?

          โอ๊ย...!! ก็มันมีเหตุผลร้อยแปดพันเก้าที่อยากจะพูดนี่ค่ะและเซ็กส์์ในความหมายของเราก็ไม่ได้หมายถึงเรื่องพันอย่างว่าซะทีเดียวยังมีเรื่องความแตกต่างระหว่างเพศ ความเข้าใจเรื่องเพศและอีกเยอะแยะมากมาย

          แต่ที่อยากเสนอเป็นภาคแรกเลยก็คือเรื่องเซ็กส์ภายในครอบครัวซึ่งในสังคมไทยนั้นมีการพูดคุยเรื่องเซ็กส์ระหว่างสามีภรรยาน้อยมากทีเดียว(อันนี้รู้มาจากการสอบถามนักจิตวิทยาค่ะ)และอีกจำนวนไม่น้อยมีปัญหาเรื่องเซ็กส์ที่จูนกันไม่ค่อยติดฝ่ายหนึ่งต้องหวานอมขมกลืน อีกฝ่ายก็ต้องกล้ำกลืนปิดปัญหาพร้อมกับความไม่เข้าใจให้อยู่กับตัวเองจนเป็นเหตุให้เลิกราแยกเตียงกันไปโดยปริยายแม้จะยังอยู่บ้านเดียวกันและยังได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยากันก็เถอะมีช่องว่างอยู่ในบ้านแบบนี้ มันลำบากใจไม่ใช่น้อยเลยนะคะจนบางครั้งปัญหายังได้โยงมายังภาคที่สองด้วย....

          นั่นคือเซ็กส์กับการมีลูก ถ้าเรามีปัญหาเรื่องเซ็กสแล้วจะมีลูกมาเชยชมกันได้อย่างไรล่ะคะจริงไหม แต่ที่นำเสนอก็ไม่ใช่มเซ็กส์อย่างไรให้ได้ลูกเพียงอย่างเดียวนะคะยังมีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในคุณแม่การดูแลอารมณ์คุณแม่ยามท้อง หรือแม้แต่สามีจะแพ้ท้องแทนภรรยาได้ไหมและอีกมากมายที่ต้องติดตามค่ะ

          ภาคสุดท้ายก็คือเซ็กส์์ของลูกวัยซน คุณๆอาจสงสัยว่าฉันต้องสนใจเรื่องเซ็กซ์ของลูกวัยนี้ด้วยหรือไรยังตัวกะเปี๊ยกอยู่เลย อยากบอกว่าน่าสนใจแน่ค่ะเพราะคุณจะได้รู้ว่าลูกรู้จักเพศของตัวเองได้ตั้งแต่เมื่อไรสุขภาพเรื่องเพศของเด็ก พัฒนาการเรื่องเพศเป็นอย่างไรเราควรสอดแทรกคำสั่งสอนที่ถูกต้องตอนไหน และที่สำคัญคุณรู้หรือไม่ว่าคุณเองคือตัวอย่างแรกที่ลูกจะเลียนแบบในการวางตัวเรื่องเพศเรื่องเหล่านี้ไม่รู้ไม่ได้แล้วล่ะค่ะ

          ทั้งหมดนี้รวมอยู่ใน 50 คำถาม ที่ได้รับความกระจ่างจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน 2ท่านซึ่งได้แก่ นพ. สุกมล วิภาวีพลกุลจิตแพทย์ผู้ให้คำปรึกษาเรื่องเพศและครอบครัวทั้งเป็นวิทยากรผู้ให้ความรู้ผ่านสื่อต่างๆ มากมาย อาทิคอลัมน์เสวนาข้างหมอน ในนิตยสารรักลูก คลินิครัก www.eotoday.comซึ่งให้ความรู้ใน "ภาคเซ็กส์์เพื่อชีวิตคู่ คู่ชีวิต" และ "ภาคครอบครัวตัวดีมีน้อง"และ นพ.ดุสิต ลิขนะพิชิตกุลผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่นทั้งยังประจำตำแหน่งคอลัมน์นิสต์ในนิตยสารดวงใจพ่อแม่ ผู้ให้ความเข้าใจใน "ภาคครอบครัวยุคใหม่ เข้าใจเรื่องเพศ" ฉะนั้นเชื่อใจไปได้เลยว่า การเรียนรู้เรื่องเซ็กส์์ครั้งนี้ถูกต้องตามหลักวิชาการและที่สำคัญถูกใจคุณๆ แน่นอน....

ภาคเซ็กส์์เพื่อชีวิตคู่ คู่ชีวิต

1. ก่อนแต่งงานเราควรจะศึกษาอะไรในตัวคู่ครองเราบ้าง?

          ตอนเป็นแฟนกันเรามักรู้เรื่องราวของกันและกันมาส่วนหนึ่งแล้วแต่พอแต่งงานไปทั้งสองฝ่ายก็จะรู้เรื่องของอีกคนหนึ่งมากขึ้นซึ่งอยากให้คิดก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานกันว่าทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะต้องบรรลุวัตถุประสงค์ 2 ข้อด้วยกันคือ

          เมื่อเราอยู่ด้วยกันแล้ว จะต้องมีความสุขกว่าตอนที่เราอยู่คนเดียวโดยขึ้นอยู่ว่าเราจะชอบสเป๊คแบบไหนอย่างผู้หญิงบางคนชอบผู้ชายที่ปกป้องได้ เข้มแข็ง ดูเป็นผู้ใหญ่แต่บางคนจะชอบผู้ชายขี้เล่น มีอารมณ์ขันคงต้องหาอย่างที่ตรงสเป๊คมากที่สุดแต่ถ้าจะต้องใช้ชีวิตคู่กันทั้งชีวิตต่อไป จะต้องบรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่2 ด้วยครับ

          ต้องชั่งใจด้วยว่าคนที่เราจะอยู่ด้วย จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือเปล่า?จะดีขึ้นกว่าตอนที่อยู่คนเดียวไหม? เช่น ช่วยกันทำมาหากินนำชีวิตไปสู่จุดมุ่งหมายของแต่ละคนได้เร็วขึ้นอยู่ด้วยแล้วมีความสุขสบายใจในทางกลับกันต้องดูว่าเขาจะมาทำให้ชีวิตเราแย่ลงกว่าตอนที่อยู่คนเดียวหรือเปล่า เช่น เขาทำมาหากินไม่สุจริต เล่นการพนัน ขับรถเร็ววู่วามหุนหันพลันแล่น เพราะอาจจะทำให้เราเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุได้

2. ความเปลี่ยนแปลงจากแฟนมาสู่คู่สามีภรรยา?

          คนเราเมื่อเป็นแฟนกันก็มักจะหันด้านที่ดีของตัวเองเข้าหาอีกฝ่ายหนึ่งใช่ไหมครับ อย่างพยายามแต่งเนื้อแต่งตัวตามแฟชั่น ฉีดน้ำหอมให้ดูเท่ห์มีเสน่ห์นัดเที่ยว-ออกเดท-ดูหนัง-กินข้าว เสร็จแล้วแยกย้ายกลับบ้านพอแต่งงานอยู่บ้านเดียวกันจะเริ่มเห็นนิสัยใจคอของอีกฝ่ายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการเข้าห้องน้ำแปรงฟันหรือพฤติกรรมการนอนที่บางคนไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแฟนตัวเองนอนกรนมากเพิ่งมารู้ตอนที่แต่งงานแล้ว ฯลฯ

          ดังนั้น ต้องมีการปรับตัวเข้าหากัน เพราะความสัมพันธ์ของมนุษย์จะมีสมการเท่ากับ ความรู้สึก+ การสื่อสาร + การปรับตัว ดูว่าเรามีความรู้สึกที่ดีต่อกันหรือเปล่า มีการสื่อสารทางบวกเข้าหากันไหมปรับตัวกับความแตกต่างโดยขึ้นอยู่ว่าความแตกต่างนั้นจะทำให้เรามีความสุขได้หรือไม่ เช่นคนหนึ่งชอบดูข่าว อีกคนชอบดูละคร ต้องปรับตัวหลังการแต่งงานครับ

3. เพศชาย-เพศหญิง มีความแตกต่างกันอย่างไร?

          เพศชายจะเป็นฮอร์โมนแห่งเซ็กส์์และความก้าวร้าวฮอร์โมนเพศหญิงจะเป็นฮอร์โมนแห่งความรักความเสน่หาโดยมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดดังนี้ครับ

          ผู้หญิง : ผู้หญิงมีฮอร์โมนแห่งความรักความเสน่หาจึงมักมีอารมณ์ขี้หึงหวงมากกว่าผู้ชายแต่ในเรื่องการหึงหวงโดยใช้กำลังมีการลงไม้ลงมือกันจะเป็นผู้ชายมากกว่า

          นอกเหนือจากฮอร์โมนแห่งความรักความเสน่หายังมีฮอร์โมนของความเป็นแม่และความผูกพันรวมอยู่ด้วย โดยพบว่าจะมีสารOxytocin (สารแห่งความผูกพัน) หลั่งออกมาจากสมองเพื่อทำให้

มดลูกบีบตัวใน 3 สถานการณ์ด้วยกันคือ

          1. เมื่อท้องแก่มากใกล้คลอด จะทำให้แม่รู้สึกผูกพันกับลูก

          2. เวลาให้นมลูกด้วยนมแม่ จะทำให้แม่รู้สึกผูกพันกับลูกมากกว่าพ่อ เป็นปัจจัยทางชีวภาพของทุกชาติทุกภาษา

          3. เวลาที่ผู้หญิงมีเซ็กส์์จะรู้สึกผูกพันกับผู้ชายมากกว่าที่ผู้ชายรู้สึก

          ผู้หญิง : จะถนัดทำงานที่มีความละเมียดละไม รักสวยรักงาม เอาใจใส่ในเรื่องเล็กๆน้อยๆ เยอะ ใช้อารมณ์และความรู้สึกได้ดีกว่า อาทิ งานบริการประชาสัมพันธ์งานโรงแรม เมื่อเวลาเกิดความเครียดผู้หญิงจะต้องการใครสักคนพูดคุยปรึกษาด้วย เช่น เพื่อน หรือคนในครอบครัว

          ผู้ชาย : ผู้ชายมีฮอร์โมนแห่งเซ็กส์และความก้าวร้าวอยู่จึงมักมีความต้องการทางเพศสูงกว่าผู้หญิง สังเกตได้ว่าข่าวข่มขืนผู้กระทำคือผู้ชายนักกีฬาโลดโผน งานที่เสี่ยงอันตรายพฤติกรรมชอบต่อยตีกัน มักจะเป็นเพศชาย

          เมื่อผู้ชายไม่มีสาร Oxytocin จึงทำให้ไม่ค่อยรักเดียวใจเดียวเท่าไรแต่ในทางกลับกันผู้ชายจะมีฮอร์โมนวาโสเปรซิสซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งการปกป้องคุ้มครองโดยเมื่อหลังมีเซ็กส์ผู้หญิงจะรู้สึกผูกพันแต่ผู้ชายจะรูสึกว่าตนเองจะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นต้องปกป้องดูแลภรรยา และทำมาหากินเพื่อดูแลครอบครัว

          ผู้ชายจะทำเรื่อง Visual skill ได้ดีกว่าเช่น ขับรถ ขับเรือ ขับเครื่องบินซ่อมเครื่องยนตร์ บังคับเครื่องจักร ฯลฯ แต่ชอบมองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆทำให้ดูเหมือนไม่โรแมนติก

          หากเครียดมักจะหามุมสงบอยู่เงียบๆ เพียงคนเดียวใช้เวลานั่งคิดตรึกตรองแก้ไขปัญหาจนบางทีฝ่ายหญิงคิดว่าผู้ชายไม่ไว้วางใจตัวเองเพราะเวลามีปัญหาจะไม่ยอมพูดคุยด้วย

4. หญิง-ชายในคืนแรกของสองเรา...ต่างกันไหม? 

          เมื่อพูดถึงเรื่องเซ็กส์์แล้ว ไม่ว่าจะคืนแรกหรือคืนไหนๆผู้ชายมักจะไปถึงจุดสุดยอดได้อย่างสบายๆ ไม่ยากเย็นเข็ญใจแต่เซ็กส์์ครั้งแรกของผู้หญิง จะเต็มไปด้วยการคาดหวัง ความกังวลระบบประสาทตึงเครียด จนไปไม่ถึงดวงดาวกันสักเท่าไร(ภาษาทางการก็คือไปไม่ถึงจุดสุดยอดนั่นเองค่ะ)

          ทั้งนี้ หากเจอผู้ชายที่ไม่มีความละเมียดละไม ไม่โรแมนติก ใจร้อนผู้หญิงก็จะเจ็บ ไม่มีการตื่นตัวทางเพศรู้สึกเฉยๆ ไปเลยบางคนโดนเพื่อนขู่ไว้เยอะ กลัวจนเกร็งเจ็บทำให้สอดใส่ไม่ได้อารมณ์ที่มีอยู่ก็หายเกลี้ยง เรื่องแบบนี้ค่อยๆ เรียนรู้กันไปดีที่สุดครับ

          ...ส่วนคำพังเพยที่ว่าผู้หญิงเหมือนเตาถ่านผู้ชายเหมือนเตาแก๊ส หมายความว่าอะไร?และอีก 40 กว่าคำถามที่ช่วยทำให้ข้อสงสัยเรื่องเซ็กส์ที่หลายคนไม่กล้าถามได้คำตอบแบบเคลียร์คัต แถมเป็นแนวทางให้ได้นำไปปรับใช้กับชีวิตคู่กันแบบนี้พลาดไม่ได้ พลาดไม่ได้จ้า




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องเซ็กส์ ที่ครอบครัวควรรู้ อัปเดตล่าสุด 2 กันยายน 2552 เวลา 18:48:35 2,094 อ่าน
TOP