หยุด...ก่อนที่เขาจะทิ้งคุณ (Lisa)
“เร็วเข้า ใครก็ได้ช่วยดิฉันด้วย เขาคนนั้นกำลังจะหนี ตีตัวออกห่างจากดิฉันไปแล้ว”
คุณเคยเจอหรือมีความรู้สึกว่าคุณกำลังจะถูกทิ้งมั้ย และคุณเคยค้นหาเหตุผลหรือไม่ว่า ทำไมเขาหนีคุณ แต่ที่นี่มีคำตอบให้คุณนำไปลองปรับปรุงตัว และแนะแนวทางให้คุณอ่านใจชายที่คุณรักว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้เขาทนผู้หญิงไม่ได้
นอกจากหญิงและชายจะมีสรีระที่ต่างกันแล้ว ความคิดความรู้สึกก็ยังต่างกันด้วย บางเรื่องที่ผู้หญิงเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่ผู้ชายกลับคิดอีกอย่างหนึ่งที่คุณคาดไม่ถึง รู้มั้ยว่าบางครั้งเรื่องที่คุณพูดคุยสนุกสนานนั้นมันไปกระทบโดนใจที่เปราะบางของเขาอย่างจัง โดยที่คุณไม่คาดคิดว่าเขาจะโกรธกับเรื่องที่คุณเห็นว่าเล็กน้อย (สำหรับคุณ) คุณต้องยอมรับว่าผู้ชายเขามีความรู้สึกนึกคิดที่ต่างไปจากผู้หญิง และมีหลายสิ่งที่เขาทน (คุณ) ไม่ได้
สิ่งที่ผู้ชายเกลียดก็คือ
1.การถูกบังคับให้บอกในเรื่องของความรู้สึก
2.การเรียกร้องให้เขาต้องแสดงอารมณ์กับคำสามคำ “ผมรักคุณ” ซึ่งคำนี้เขาเห็นว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
3.เป็นตัวตลกของคุณในหมู่เพื่อนพ้องของเขา
ผู้ชายจะรู้สึกไม่พอใจ ถ้าคุณ...
1.เปรียบเขาเป็นเหมือนชายแก่ เพราะคุณแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ได้เร็วกว่า
ในเรื่องของคอมพิวเตอร์ รถยนต์ เทคนิค เป็นสิ่งที่ผู้ชายภาคภูมิใจนักหนา หากสาวคนรักขอให้เขาช่วยเหลือเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เขาจะรู้สึกภูมิใจเหมือนถุงลมที่โป่งพองเชียว แต่ถ้าผู้หญิงแสดงให้เขาเห็นว่าเรื่องรถยนต์ คอมพิวเตอร์ เทคนิคต่างๆ เป็นหน้าที่ของผู้หญิงด้วยเหมือนกันที่จะต้องรู้เรื่องเหล่านี้และผู้หญิงก็ทำได้ไม่แพ้ผู้ชาย มันทำให้ผู้ชายรู้สึกว่าความลับอันยิ่งใหญ่ที่เขาซ่อนไว้ถูกเปิดเผยเสียแล้ว เขาจะรู้สึกหดหู่เหมือนลูกโป่งหมดลมแฟบลงไป วันหยุดเขาก็จะนอนเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยเพราะคุณเก่งแล้วนี่ ฉะนั้นคุณจึงควรปล่อยให้เขาแสดงความสามารถในเรื่องดังกล่าว แม้ว่าคุณจะทำได้แต่ก็ควรยกย่องให้เขาได้แสดงความภูมิใจต่อไป
2.พูดถึงหน้าผากเถิกล้านของเขาว่า “เมื่อก่อนผมของคุณหนากว่านี้”
แม้คุณจะพูดเพิ่มเติมให้ดูดีว่า ผู้ชายหัวล้านหน่อยๆ ดูเซ็กซี่ดีก็ตาม เขากลับไม่รู้สึกว่าเป็นคำปลอบใจ ศาสตราจารย์ ฮันส์ โวล์ฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ชาวเยอรมัน ให้เหตุผลว่าสิ่งที่ผู้ชายกลัวมากที่สุดก็คือ ผมร่วงหัวล้าน และผู้ชายจะรู้สึกวิตกกังวลที่ผมบนศีรษะหลุดร่วงเหลือน้อยเส้น จนทำให้เซ็กซ์ของเขาเสื่อมถอยได้เพราะความเครียด จากการศึกษาพบว่าผู้ชายที่ผมร่วงจะมีความทุกข์ใจและกังวลใจ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องจริงที่ว่าผู้ชายหัวล้านมีประสิทธิภาพต่ำหรือดูเซ็กซี่เป็นพิเศษ ฉะนั้นอย่าพูดถึงผมอันน้อยนิดบนศีรษะของเขาจะดีที่สุด
3.ไม่ให้ความสำคัญกับความเจ็บปวดของเขา
เมื่อผู้ชายไม่สบาย รู้สึกหัวสมองมึนงงเหมือนบวมๆ และตาก็อักเสบ มันทำให้เขาวิตกทุกข์ร้อนไม่สบายกายและกังวลใจ กระนั้นก็ตามคุณก็ไม่ควรเรียกเขาว่า “คนอ่อนแอ” หรือ “คนเจ้าทุกข์” เด็ดขาดเพราะสองคำนี้เมื่อผ่านเข้าไปในหูผู้ชาย เขาจะฟังเป็นว่า “คนขลาด” หรือ “ปวกเปียก” ซึ่งผู้ชายฟังเป็นคำด่าไปเสียนี่ อย่างที่สองก็คือ นอกจากคุณไม่ให้กำลังใจเขาแล้ว คุณยังทำให้เขารู้สึกแย่กว่าเดิมเสียอีก
ผู้ชายรู้สึกโกรธ ถ้าคุณ...
4.เล่าเรื่องอ่อนแอของเขาให้เพื่อนๆ ของเขาฟัง เช่น เขาดูหนังไททานิกแล้วร้องไห้
ปกติผู้ชายด้วยกันที่เป็นเพื่อนกันจะมีความรู้สึกแข่งขันกันอยู่ในที ดังนั้นพวกเขาจะไม่แสดงความรู้สึกลึกๆ ออกมาในหมู่เพื่อนชายด้วยกัน ผู้ชายจึงต้องเก็บรักษาความรู้สึกที่อ่อนแอเอาไว้เป็นส่วนตัว คุณจึงไม่ควรนำเอาด้านที่อ่อนแอของเขามาล้อเลียนให้เพื่อนๆ ของเขาเห็นเป็นเรื่องตลกขบขัน
5.ทำให้รถของเขามีรอยขีดข่วนเสียหาย
รถยนต์เป็นของรักของหวงอันดับที่สองรองจากเจ้าโลกของเขาทีเดียว เขาจะรู้สึกเจ็บปวดถ้ารถของเขามีรอยขีดข่วน ขึ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งหลุดเสียหาย มันจะทำให้เขาแทบหัวใจวายหรือประสาทเสียไปเลย เพราะผู้ชายถือว่ารถของเขาไม่ใช่รถบรรทุกไว้ลุยงานหนัก แต่เป็นสมบัติที่ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและในขณะเดียวกันรถก็เปรียบเสมือนกระจกที่สะท้อนอีโก้ของเขาด้วย
6.ด่าว่าแม่ของเขา
ผู้ชายคิดว่าแม่เปรียบเสมือนบุคคลศักดิ์สิทธิ์ที่จะถูกลบหลู่ไม่ได้ เพราะแม่ของเขาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไม่เคยต้องการอะไรจากเขา นอกจากอยากเห็นเขามีความสุขก็พอใจแล้ว แม่คือผู้ใหญ่ เรียกร้องจากเขาและคอยดูแลให้เขาได้กินอาหารอร่อยๆ เอาใจใส่เสื้อผ้าของเขาให้ดูสะอาดสะอ้านเสมอ ดังนั้นเขาจะรู้สึกแย่มากหากคุณบอกว่าเขาว่าวันสุดสัปดาห์ไปเข้าคอร์สเสริมสวยดีกว่าที่จะไปเยี่ยมแม่ของเขา แม้ว่าเขาจะมีความคิดนี้เหมือนกันเป็นบางครั้ง แต่เมื่อคุณพูดออกมาตรงๆ มันไม่ได้แค่ทำให้เขารู้สึกถึงความกตัญญูเท่านั้น แต่มันยังทำให้เขารู้สึกกดดันจิตใจและสำนึกถึงความผิดชอบชั่วดีที่เขามีต่อแม่
7.บอกเขาว่า อีกไม่นานคุณจะมีรายได้มากกว่าเขา
เงินไม่ได้มีบทบาทกับผู้ชายแค่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเท่านั้น แต่มันยังหมายถึงความเป็นผู้นำในครอบครัว และไม่ต้องทำงานบ้าน เพราะเป็น
ข้อสรุปของเขาว่า “ที่รัก ตราบใดที่ผมเป็นหลักใหญ่ในการหาเลี้ยงครอบครัว คุณจะคาดหวังให้ผมทำงานในบ้านด้วยไม่ได้” แต่เมื่อคุณบอกว่าคุณจะมีรายได้มากกว่าเขา มันทำให้เขานึกถึงภาพจานชาม เสื้อผ้าที่ต้องซักวิ่งวนเข้ามาในความนึกคิดของเขาทันที เขาจะรู้สึกเสียหน้าขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าคุณมีรายได้มากกว่าเขา
เขาจะไม่ชอบใจ ถ้า...
8.คุณจะพาเขาไปปรึกษาหมอเรื่องชีวิตคู่
นายแฮร์มัน เอมันน์ นักจิตวิทยาชาวเยอรมันอธิบายว่า ผู้ชายจะรู้สึกเหมือนฝันร้ายทีเดียว หากเขาจะต้องสูญเสียอำนาจและความเข้มแข็งของเขาให้กับผู้อื่น เช่น คุณกับเขามีความขัดแย้งกันบ่อย คุณจึงคิดจะชวนเขาไปพูดคุยกับหมอ เขาจะนึกถึงภาพที่น่ากลัวทีเดียว เพราะผู้ชายไม่ชอบพูดคุยบอกเล่าความรู้สึก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายไม่มีความรู้สึก แต่เป็นเพราะว่าในสมองด้านซ้ายของผู้ชาย ที่มีหน้าที่เก็บข้อมูลและอารมณ์ความรู้สึกนั้น มันมีส่วนบกพร่องในการทำหน้าที่ดังกล่าว
9.คุณรื้อเก็บของให้เขาโดยไม่ถามเขาก่อน
ผู้ชายจะรู้สึกโกรธถ้าคุณไปรื้อเก็บของส่วนตัวของเขา เช่น ซีดี เพราะของเก่าๆ ที่เขาสะสมไว้ มันคือประวัติศาสตร์ความทรงจำเก่าๆ ที่อยากเก็บไว้เป็นความลับส่วนตัว และของบางอย่างที่เขาต้องใช้เป็นประจำจนรู้ว่าอยู่ที่ใดบ้าง เมื่อคุณไปรื้อเก็บให้เขาโดยไม่ถามเขาก่อนเขาจะรู้สึกโกรธที่ความเป็นส่วนตัวของเขาถูกรุกล้ำและเขาหาของที่ต้องไม่เจอ
10.มองอาวุธประจำกายของเขาแล้วพูดปลอบขวัญว่า “ความสุขนี่ไม่เกี่ยวกับขนาดเลยจริงๆ”
โดยทั่วๆ ไปแล้วผู้ชายจะมีอีโก้มากกับความเป็นเพศชายของเขา และเขาจะเปราะบางกับสัญลักษณ์ความเป็นชายของเขา เพราะ 54% ของผู้ชายมีความแคลงใจเสมอในเรื่องที่ว่าอาวุธประจำกายของเขามีความสวยงามจริงหรือเปล่า และกลัวว่าสักวันหนึ่งจะมีคนสะกิดข้อสงสัยของเขาในเรื่องขนาดความเป็นชายของเขา ฉะนั้นคุณจึงไม่ควรพูดหยอกเย้าเขาให้เกิดความรู้สึกเหมือนถูกลบหลู่ใจที่เคยพองเหมือนลูกโป่งที่ให้ความสุขทางเพศกับคุณ มันจะยุบแฟบลงทันที
“เร็วเข้า ใครก็ได้ช่วยดิฉันด้วย เขาคนนั้นกำลังจะหนี ตีตัวออกห่างจากดิฉันไปแล้ว”
คุณเคยเจอหรือมีความรู้สึกว่าคุณกำลังจะถูกทิ้งมั้ย และคุณเคยค้นหาเหตุผลหรือไม่ว่า ทำไมเขาหนีคุณ แต่ที่นี่มีคำตอบให้คุณนำไปลองปรับปรุงตัว และแนะแนวทางให้คุณอ่านใจชายที่คุณรักว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้เขาทนผู้หญิงไม่ได้
นอกจากหญิงและชายจะมีสรีระที่ต่างกันแล้ว ความคิดความรู้สึกก็ยังต่างกันด้วย บางเรื่องที่ผู้หญิงเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่ผู้ชายกลับคิดอีกอย่างหนึ่งที่คุณคาดไม่ถึง รู้มั้ยว่าบางครั้งเรื่องที่คุณพูดคุยสนุกสนานนั้นมันไปกระทบโดนใจที่เปราะบางของเขาอย่างจัง โดยที่คุณไม่คาดคิดว่าเขาจะโกรธกับเรื่องที่คุณเห็นว่าเล็กน้อย (สำหรับคุณ) คุณต้องยอมรับว่าผู้ชายเขามีความรู้สึกนึกคิดที่ต่างไปจากผู้หญิง และมีหลายสิ่งที่เขาทน (คุณ) ไม่ได้
สิ่งที่ผู้ชายเกลียดก็คือ
1.การถูกบังคับให้บอกในเรื่องของความรู้สึก
2.การเรียกร้องให้เขาต้องแสดงอารมณ์กับคำสามคำ “ผมรักคุณ” ซึ่งคำนี้เขาเห็นว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
3.เป็นตัวตลกของคุณในหมู่เพื่อนพ้องของเขา
ผู้ชายจะรู้สึกไม่พอใจ ถ้าคุณ...
1.เปรียบเขาเป็นเหมือนชายแก่ เพราะคุณแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ได้เร็วกว่า
ในเรื่องของคอมพิวเตอร์ รถยนต์ เทคนิค เป็นสิ่งที่ผู้ชายภาคภูมิใจนักหนา หากสาวคนรักขอให้เขาช่วยเหลือเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เขาจะรู้สึกภูมิใจเหมือนถุงลมที่โป่งพองเชียว แต่ถ้าผู้หญิงแสดงให้เขาเห็นว่าเรื่องรถยนต์ คอมพิวเตอร์ เทคนิคต่างๆ เป็นหน้าที่ของผู้หญิงด้วยเหมือนกันที่จะต้องรู้เรื่องเหล่านี้และผู้หญิงก็ทำได้ไม่แพ้ผู้ชาย มันทำให้ผู้ชายรู้สึกว่าความลับอันยิ่งใหญ่ที่เขาซ่อนไว้ถูกเปิดเผยเสียแล้ว เขาจะรู้สึกหดหู่เหมือนลูกโป่งหมดลมแฟบลงไป วันหยุดเขาก็จะนอนเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยเพราะคุณเก่งแล้วนี่ ฉะนั้นคุณจึงควรปล่อยให้เขาแสดงความสามารถในเรื่องดังกล่าว แม้ว่าคุณจะทำได้แต่ก็ควรยกย่องให้เขาได้แสดงความภูมิใจต่อไป
2.พูดถึงหน้าผากเถิกล้านของเขาว่า “เมื่อก่อนผมของคุณหนากว่านี้”
แม้คุณจะพูดเพิ่มเติมให้ดูดีว่า ผู้ชายหัวล้านหน่อยๆ ดูเซ็กซี่ดีก็ตาม เขากลับไม่รู้สึกว่าเป็นคำปลอบใจ ศาสตราจารย์ ฮันส์ โวล์ฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ชาวเยอรมัน ให้เหตุผลว่าสิ่งที่ผู้ชายกลัวมากที่สุดก็คือ ผมร่วงหัวล้าน และผู้ชายจะรู้สึกวิตกกังวลที่ผมบนศีรษะหลุดร่วงเหลือน้อยเส้น จนทำให้เซ็กซ์ของเขาเสื่อมถอยได้เพราะความเครียด จากการศึกษาพบว่าผู้ชายที่ผมร่วงจะมีความทุกข์ใจและกังวลใจ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องจริงที่ว่าผู้ชายหัวล้านมีประสิทธิภาพต่ำหรือดูเซ็กซี่เป็นพิเศษ ฉะนั้นอย่าพูดถึงผมอันน้อยนิดบนศีรษะของเขาจะดีที่สุด
3.ไม่ให้ความสำคัญกับความเจ็บปวดของเขา
เมื่อผู้ชายไม่สบาย รู้สึกหัวสมองมึนงงเหมือนบวมๆ และตาก็อักเสบ มันทำให้เขาวิตกทุกข์ร้อนไม่สบายกายและกังวลใจ กระนั้นก็ตามคุณก็ไม่ควรเรียกเขาว่า “คนอ่อนแอ” หรือ “คนเจ้าทุกข์” เด็ดขาดเพราะสองคำนี้เมื่อผ่านเข้าไปในหูผู้ชาย เขาจะฟังเป็นว่า “คนขลาด” หรือ “ปวกเปียก” ซึ่งผู้ชายฟังเป็นคำด่าไปเสียนี่ อย่างที่สองก็คือ นอกจากคุณไม่ให้กำลังใจเขาแล้ว คุณยังทำให้เขารู้สึกแย่กว่าเดิมเสียอีก
ผู้ชายรู้สึกโกรธ ถ้าคุณ...
4.เล่าเรื่องอ่อนแอของเขาให้เพื่อนๆ ของเขาฟัง เช่น เขาดูหนังไททานิกแล้วร้องไห้
ปกติผู้ชายด้วยกันที่เป็นเพื่อนกันจะมีความรู้สึกแข่งขันกันอยู่ในที ดังนั้นพวกเขาจะไม่แสดงความรู้สึกลึกๆ ออกมาในหมู่เพื่อนชายด้วยกัน ผู้ชายจึงต้องเก็บรักษาความรู้สึกที่อ่อนแอเอาไว้เป็นส่วนตัว คุณจึงไม่ควรนำเอาด้านที่อ่อนแอของเขามาล้อเลียนให้เพื่อนๆ ของเขาเห็นเป็นเรื่องตลกขบขัน
5.ทำให้รถของเขามีรอยขีดข่วนเสียหาย
รถยนต์เป็นของรักของหวงอันดับที่สองรองจากเจ้าโลกของเขาทีเดียว เขาจะรู้สึกเจ็บปวดถ้ารถของเขามีรอยขีดข่วน ขึ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งหลุดเสียหาย มันจะทำให้เขาแทบหัวใจวายหรือประสาทเสียไปเลย เพราะผู้ชายถือว่ารถของเขาไม่ใช่รถบรรทุกไว้ลุยงานหนัก แต่เป็นสมบัติที่ต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและในขณะเดียวกันรถก็เปรียบเสมือนกระจกที่สะท้อนอีโก้ของเขาด้วย
6.ด่าว่าแม่ของเขา
ผู้ชายคิดว่าแม่เปรียบเสมือนบุคคลศักดิ์สิทธิ์ที่จะถูกลบหลู่ไม่ได้ เพราะแม่ของเขาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไม่เคยต้องการอะไรจากเขา นอกจากอยากเห็นเขามีความสุขก็พอใจแล้ว แม่คือผู้ใหญ่ เรียกร้องจากเขาและคอยดูแลให้เขาได้กินอาหารอร่อยๆ เอาใจใส่เสื้อผ้าของเขาให้ดูสะอาดสะอ้านเสมอ ดังนั้นเขาจะรู้สึกแย่มากหากคุณบอกว่าเขาว่าวันสุดสัปดาห์ไปเข้าคอร์สเสริมสวยดีกว่าที่จะไปเยี่ยมแม่ของเขา แม้ว่าเขาจะมีความคิดนี้เหมือนกันเป็นบางครั้ง แต่เมื่อคุณพูดออกมาตรงๆ มันไม่ได้แค่ทำให้เขารู้สึกถึงความกตัญญูเท่านั้น แต่มันยังทำให้เขารู้สึกกดดันจิตใจและสำนึกถึงความผิดชอบชั่วดีที่เขามีต่อแม่
7.บอกเขาว่า อีกไม่นานคุณจะมีรายได้มากกว่าเขา
เงินไม่ได้มีบทบาทกับผู้ชายแค่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเท่านั้น แต่มันยังหมายถึงความเป็นผู้นำในครอบครัว และไม่ต้องทำงานบ้าน เพราะเป็น
ข้อสรุปของเขาว่า “ที่รัก ตราบใดที่ผมเป็นหลักใหญ่ในการหาเลี้ยงครอบครัว คุณจะคาดหวังให้ผมทำงานในบ้านด้วยไม่ได้” แต่เมื่อคุณบอกว่าคุณจะมีรายได้มากกว่าเขา มันทำให้เขานึกถึงภาพจานชาม เสื้อผ้าที่ต้องซักวิ่งวนเข้ามาในความนึกคิดของเขาทันที เขาจะรู้สึกเสียหน้าขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าคุณมีรายได้มากกว่าเขา
เขาจะไม่ชอบใจ ถ้า...
8.คุณจะพาเขาไปปรึกษาหมอเรื่องชีวิตคู่
นายแฮร์มัน เอมันน์ นักจิตวิทยาชาวเยอรมันอธิบายว่า ผู้ชายจะรู้สึกเหมือนฝันร้ายทีเดียว หากเขาจะต้องสูญเสียอำนาจและความเข้มแข็งของเขาให้กับผู้อื่น เช่น คุณกับเขามีความขัดแย้งกันบ่อย คุณจึงคิดจะชวนเขาไปพูดคุยกับหมอ เขาจะนึกถึงภาพที่น่ากลัวทีเดียว เพราะผู้ชายไม่ชอบพูดคุยบอกเล่าความรู้สึก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายไม่มีความรู้สึก แต่เป็นเพราะว่าในสมองด้านซ้ายของผู้ชาย ที่มีหน้าที่เก็บข้อมูลและอารมณ์ความรู้สึกนั้น มันมีส่วนบกพร่องในการทำหน้าที่ดังกล่าว
9.คุณรื้อเก็บของให้เขาโดยไม่ถามเขาก่อน
ผู้ชายจะรู้สึกโกรธถ้าคุณไปรื้อเก็บของส่วนตัวของเขา เช่น ซีดี เพราะของเก่าๆ ที่เขาสะสมไว้ มันคือประวัติศาสตร์ความทรงจำเก่าๆ ที่อยากเก็บไว้เป็นความลับส่วนตัว และของบางอย่างที่เขาต้องใช้เป็นประจำจนรู้ว่าอยู่ที่ใดบ้าง เมื่อคุณไปรื้อเก็บให้เขาโดยไม่ถามเขาก่อนเขาจะรู้สึกโกรธที่ความเป็นส่วนตัวของเขาถูกรุกล้ำและเขาหาของที่ต้องไม่เจอ
10.มองอาวุธประจำกายของเขาแล้วพูดปลอบขวัญว่า “ความสุขนี่ไม่เกี่ยวกับขนาดเลยจริงๆ”
โดยทั่วๆ ไปแล้วผู้ชายจะมีอีโก้มากกับความเป็นเพศชายของเขา และเขาจะเปราะบางกับสัญลักษณ์ความเป็นชายของเขา เพราะ 54% ของผู้ชายมีความแคลงใจเสมอในเรื่องที่ว่าอาวุธประจำกายของเขามีความสวยงามจริงหรือเปล่า และกลัวว่าสักวันหนึ่งจะมีคนสะกิดข้อสงสัยของเขาในเรื่องขนาดความเป็นชายของเขา ฉะนั้นคุณจึงไม่ควรพูดหยอกเย้าเขาให้เกิดความรู้สึกเหมือนถูกลบหลู่ใจที่เคยพองเหมือนลูกโป่งที่ให้ความสุขทางเพศกับคุณ มันจะยุบแฟบลงทันที