อั้ม อธิชาติ
อั้ม-อธิชาติ กับความรักที่ไม่มีกฏเกณฑ์ (เดลินิวส์)
โดย กาญจนา สิทธิเม่ง
"อธิชาติ ชุมนานนท์" พระเอกหน้าใส ที่เรียกว่าตอนนี้กำลังเรียกเรตติ้งจากละครเรื่อง "หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น" ทางช่อง 3 และถือได้ว่าเป็นพระเอกที่เนื้อหอมที่สุดอีกคนหนึ่ง เพราะมีงานต่อเนื่องออกมาไม่ขาด เช่นเดียวกับเรื่องความรัก ที่เราต่างรู้กันว่าเขาเพิ่งจะผ่านฟ้าหลังฝน แต่ล่าสุดดอกรักกำลังเริ่มต้นอีกครั้ง และในวันนี้ อั้ม-อธิชาติ จะมาเปิดอกพูดคุยกับเราถึงเรื่องที่ผ่านมา อย่าเสียเวลา ไปคุยกับหนุ่มอั้มกันเลยดีกว่าว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร 
ที่ผ่านมาชีวิตเสียหลักไปกับความรักบ้างไหม ?
อั้ม : ผมไม่รู้สึกว่าชีวิตเสียหลักไปไหนนะ เพราะจริง ๆ ชีวิตผมก็อยู่กับงานเป็นหลักอยู่แล้ว แต่บางทีเรื่องราวส่วนตัวมันต้องปรับเปลี่ยนไปตามเงื่อนไขนั้น ซึ่งถามว่าผมเป๋ไปไหม ไม่ได้เป๋ หลาย ๆ อย่างผมยังจัดการได้คนเดียว ยังมีหลักยังมีจุดมุ่งหมายในการทำอะไรต่ออะไรหลาย ๆ อย่างได้อย่างชัดเจน
ในเรื่องความรักที่ผ่านมา ช่วงนั้นเรียกว่าแย่ที่สุดในชีวิตไหม ?
อั้ม : ไม่ถึงขนาดนั้น มันเกิดจากการตัดสินใจ มันเป็นอย่างนี้มันก็ดีกับทั้งสองฝ่าย ได้มีเวลามานั่งคิดอะไรต่าง ๆ ได้ทำอะไรหลายอย่าง บางที ทำอะไรคนเดียว บางคนมองว่ามันว้าเหว่ไป แต่จริง ๆ การทำอะไรคนเดียวมันก็ให้คำตอบอะไรเราหลายอย่างเหมือนกัน
เหตุผลจริง ๆ ที่ทำให้แยกทางกัน ตอนนั้นพอจะบอกได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น ?
มันเป็นเรื่อง ของเราสองคนที่บางครั้ง เรามองแล้วว่าถ้าเราเดินออกมามันจะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย เราไม่โกรธ ไม่อะไรกันแบบนี้มันก็ดีกว่า มันเป็นเรื่องของจิตใจ คือน้องเขาก็ทำดีที่สุด ผมก็ทำดีที่สุด มันก็นั่นแหละครับ
แล้ววันนี้เป็นไง ?
อั้ม : ปกติดี ไม่ถึงขนาดบอบช้ำหรืออะไรมาก คือมันเป็นเรื่องของความเข้าใจกันมากกว่า กับพิ้งกี้ เหมือนเราพยายามที่จะเข้าไปทำความรู้จักเขามากในตอนนั้น พอมาถึงวันนี้ เราคิดว่าเราได้อะไรจากตรงนั้นบ้าง ถ้าเรามองตัวเราเอง ?
อั้ม : คือจริง ๆ อย่างที่เราบอกว่า เราเป็นคนเริ่มต้นเข้าไปในชีวิตน้อง พยายามทุกอย่างเพื่อจะให้สิ่ง ดี ๆ กับคนที่เรารู้สึกดีในตอนนั้น ผมไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่เคยทำร้ายความรู้สึกของน้อง ไม่เคยทำให้น้องเขาเจ็บช้ำน้ำใจ ผมเป็นคนเริ่มเอง เพราะฉะนั้นมาถึงวันนี้เราไปกันไม่ได้ มันก็เป็นความผิดของผมส่วนหนึ่งด้วย ที่ว่าเราเริ่มเดินเข้าไปในชีวิตน้องเขา ทำความรู้จักกับน้องเขา แต่ส่วนหนึ่งเรารู้สึกว่าเราพยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่คำว่าทำดีที่สุด ไม่ได้หมายความว่าเราสามารถไปกันได้หรือ มันไม่ใช่ดีที่สุดในแบบที่มันคิดตรงกัน
เคยคิดไหมว่ามันจะจบแบบนี้ ?
อั้ม : ไม่เคยคิด ผมเป็นคนที่แบบว่า ทุกการเริ่มต้นผมก็เต็มที่ แต่แบบว่า คือผมเป็นคนที่รู้ใจตัวเองว่าผมไม่ใช่คนที่จะทำให้ใครเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะฉะนั้นเวลาเริ่มต้น เราก็อยากจะให้เป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเขาคนเดียว คือมันไม่ใช่แบบ 1+1 แล้วมันจะต้องเป็น
อั้ม : ผมจะมองกับการคาดหวังต่าง ๆ คือผมจะบอกว่าความรักของดารามันก็ยังเป็นมนุษย์ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็แล้วแต่ ปัญหาต่าง ๆ ที่มันเกิดขึ้นมันก็เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทั่ว ๆ ไป ตัวอั้มเองตอนนี้กำลังถูก จับตามองเรื่องของ นัท มีเรีย อยู่ ?
อั้ม : ครับ คือพอเรา มีเวลาที่ต้องใช้เวลาคนเดียว ผมก็มีเพื่อนได้เจอเพื่อน ได้ใช้เวลากับอะไรหลาย ๆ อย่างเพิ่มมากขึ้น กับคุณนัท ผมก็ได้บอกว่าคุณนัทเป็นคนที่ดี ผมก็ดีใจที่ได้รู้จักคนที่ดี ๆ อย่างคุณนัท ไม่ว่าผมจะได้รู้จักคุณนัท ในฐานะอะไรก็ตาม กับนัท รู้จักกันมานานหรือยัง แล้วพูดคุยกันลึกซึ้งตอนไหน ?
อั้ม : ก็รู้จักกันมานาน แต่พอได้คุยมันเหมือนกับรู้จักกันมาก่อน กับนัท ตอนนี้ถือว่าเป็นคนที่เราสนิทมากที่สุดหรือเปล่า ?
อั้ม : ก็เป็นคนที่ผมสนิทมากที่สุดในตอนนี้ คือสังคมของผมในตอนนี้ค่อนข้างแคบมาก คือถ้าไม่อยู่ที่กอง ก็อยู่กับเพื่อน กับงาน กับคนที่ออฟฟิศ คนข้างนอกไม่ค่อยได้เปิดได้ไปรับรู้อะไรมากนะ
พอเริ่มต้นครั้งใหม่ เราได้ตั้งกฎเกณฑ์อะไรให้กับตัวเองบ้างไหม ?
อั้ม : ไม่ครับ เราไม่ได้รู้สึกว่าต้องมีกฎอะไร เพราะจริง ๆ เราก็รู้สึกว่าเราต้องการความรักอยู่ดี เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ดีหล่อเลี้ยงเรา มันเกิดอะไรดี ๆ ขึ้นในชีวิตเราหลายอย่างนะ เพราะฉะนั้นเวลาเราเริ่มต้นใหม่ เราเลยไม่คิดว่ามันจะต้องเป็นอะไรยังไงต่อไป เรื่องราวมันอาจจะเปลี่ยน เวลามันเปลี่ยนเพราะฉะนั้นเวลาที่เริ่มต้นใหม่ เราต้องทำอะไรให้มันดีที่สุดก่อน เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าเราทำดีที่สุดแล้วยัง คือความรู้สึกนี้มันเคยเกิดขึ้นกับผมมานานมากแล้วครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นมา ผมก็ไม่รู้สึกอย่างนั้น
อั้ม เชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม ?
อั้ม : เชื่อ ผมเชื่อนะ แล้ววันนี้มุมมองเราเปลี่ยนไปไหม ?
อั้ม : เราโตขึ้น มันก็ต้องมีเปลี่ยนไปบ้าง แต่ว่าไม่ได้ตั้งกับตัวเองว่า เรื่องมันเป็นแบบนี้มาแล้ว ต่อไปมันจะต้องเป็นอีกแบบหนึ่ง เราก็โตขึ้นเราต้องมีความเข้าใจอะไรต่าง ๆ มากขึ้นเท่านั้นเอง
ถึงวันนี้คิดเรื่องครอบครัวแล้วยัง ?
อั้ม : จริง ๆ เรื่องครอบครัวผมไม่เคยรู้สึกว่ามันอยู่ใกล้หรือว่าอยู่ไกลเลย จริง ๆ ผมว่าเวลาที่มันพร้อม มันก็คืออยู่ตรงนั้น ไม่ได้เคยคาดหวังหรือว่าเคยคิดไว้ขนาดนั้น วันหนึ่งถ้าความรู้สึกมันบอกว่ามันพร้อมหรือว่ามันอยู่ใกล้ มันก็จะบอกเราเองว่ามันอยู่ข้างหน้าเราแล้ว
คิดว่าตัวเองเป็นหนุ่มเนื้อหอมไหม ?
อั้ม : อันนี้ไม่รู้เลยจริง ๆ ครับ เจอแต่ลิงอยู่ในป่า ถ่ายละครอยู่ในป่า ไม่ค่อยได้เจอเลยครับ คงต้องให้พี่ ๆ น้อง ๆ บอกแล้วละครับ ว่าเนื้อหอมอยู่หรือเปล่า
อย่างที่โบราณว่าไว้ว่าฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ วันนี้สำหรับอดีตคนเคยรัก ทั้งคุณพิ้งกี้ (สาวิกา ไชยเดช) และอั้ม-อธิชาติ ต่างก็มีข่าวคราวเรื่องความรักครั้งใหม่ออกมาแล้ว แต่อนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นไม่มีใครตอบได้ เพราะฉะนั้นแฟนคลับของทั้งสองคนคงต้องลุ้นกันต่อไปแล้วละจ้า ว่ารักครั้งใหม่ของทั้งคู่จะประสบความสำเร็จหรือไม่
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
