ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram seanjindachot
ฌอห์ณ จินดาโชติ พิธีกรและนักแสดงหนุ่มวัยรุ่น ที่เรามักจะคุ้นชินกับภาพของวัยรุ่นฮิป ๆ สนใจแต่เรื่องเทคโนโลยีและเเฟชั่น ใช้ชีวิตสนุกสนานไปวัน ๆ แต่แท้จริงแล้ว ฌอห์ณ กลับเป็นคนที่มีความคิดแตกต่างจากวันรุ่นทั่วไป ซึ่งเขาเอง สามารถถ่ายทอดข้อคิดดี ๆ โดยการหยิบยกจากประสบการณ์ส่วนตัว และสิ่งที่ได้ประสบพบเจอมา นำมาเขียนลงเป็นโน๊ตสั้น ๆ ลงในอินสตาแกรม เพื่อเป็นการบอกเล่าและแฝงข้อคิด ให้แก่ผู้คนที่บังเอิญมาอ่านอีกด้วย
ส่วนข้อความที่ ฌอห์ณ เขียนเองนั้น จะใช้ Hash Tag ที่ชื่อว่า #jindacollection เป็นคำพูดสั้น ๆ ไม่กี่บรรทัด แต่เเฝงไปด้วยข้อคิดเเละความหมายกินใจ เช่น "หากวันนี้โลกยังไม่รู้ว่าตัวตนคุณว่าคือใคร คงไม่เป็นไร แต่อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปจนคุณไม่รู้จักตัวเอง ให้ดีพอ จาก จินดาโชติ" หรือแม้กระทั่งที่วันที่ ฌอห์ณ ขึ้นรถแท็กซี่ แล้วไปพบเจอกับคนขับเเท็กซี่พ่อลูกอ่อน ที่ขอให้ลูกชายติดสอยห้อยตามขึ้นรถมาด้วย เขาก็ยังสามารถถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ออกมาในภาษาที่สละสลวย ลึกซึ้งกินใจ และให้ข้อคิดเป็นอย่างดี
ส่วนข้อคิดอื่น ๆ นั้น กระปุกดอทคอม ก็ได้รวบรวมเอามาไว้ที่นี่หมดแล้วจ้า
ชีวิตบนรถเขียวเหลือง::น้อยคนนักที่จะได้เป็นผู้โดยสารบนรถแท็กซี่แล้วคนขับถามเราก่อนที่เราจะบอกทางว่าไปที่ใด ว่า"พี่จะว่าไหมถ้าผมเอาลูกไปด้วย"? ความเป็นจริงชีวิตคนเรามันรีบเร่งเหลือเกิน เพราะคําว่าทุกเวลามีค่าเสมอมีอยู่กับเราทุกคน แม้แต่พ่อลูกอ่อน ทีต้องหากินพร้อมกับการดูแลลูก จะมีสักครั้งเชียวที่คนขับรถแท็กซี่ หันมาบอกคุณว่า"ถ้าพี่ไม่ว่าสอนการบ้านผมด้วยนะ":) 
หากวันนี้โลกยังไม่รู้ว่าตัวตนคุณว่าคือใคร คงไม่เป็นไร แต่อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปจนคุณไม่รู้จักตัวเอง ให้ดีพอ จาก จินดาโชติ 
พ่อแม่มักจะกล่าวกับเราเสมอว่า วันใดเมื่อเราเป็นพ่อแม่คน วันนั้นเราจะเข้าใจกันและกันมากยิ่งขึ้น และวันนั้นก็มาถึง วันที่ลูกสาวแม่เป็นแม่คน วันที่เราต้องเริ่มเรียนรู้การให้อย่างไร้เหตุผล ให้กับคนที่เรายังไม่ทันได้เห็นหน้าเเต่เราก็รักเขาไปแล้ว วันที่เรายังไม่รู้จักเขา แต่เราก็วาดอนาคตและพร้อมที่จะสู้เพื่อเขา ตราบที่เรายังหายใจอยู่ และนี่คือคำพูดของคนเป็นแม่ ที่กำลังพูดให้กับเเม่เขาซึ่งเป็นคนที่เคยพูดอย่างนี้ กับเขาเช่นกัน จาก แม่พลอย จินดาโชติ 
คนโบราณกล่าวว่า หากวันใดที่เมฆหมอกเริ่มก่อตัว ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ให้พึงระวัง เพราะนั่นเเปลว่า พายุกำลังมา ไม่น่าแปลก เพราะช่วงนี้ท้องฟ้าเริ่มเป็นอย่างนั้นทุกวัน จนอารรมณ์คนเกือบจะเป็นตามกันไปหมด ยิ่งหากมีภาวะเศร้าผสมอยู่ด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ เเต่คนโบราณคงลืมไปว่า หากคราใดที่ฝนโปรยลงมาขณะต้องแสงตะวัน มันจะเกิดความสดใสของฟากฟ้า คือ รุ้งกินน้ำ สิ่งที่ผมกำลังบอกนั้นก็คือ ไม่มีฝนตกทั่วฟ้าตลอดชาติ ถึงเเม้มันเป็นจริง คุณก็ต้องลองหารุ้งกินน้ำสักที่ เพราะฉะนั้น จะเป็นเหตุที่บอกว่า คราใดที่เเย่อยู่ ย่อมมีสิ่งสวยงามให้เห็น เพียงเเต่เราต้องหา 
เมื่อใดที่เราชัดเจนทางคำพูด สอดคล้องกับการกระทำ เมื่อนั้นจะไม่มีคำถามต่อท้ายแน่นอน ว่า คือ อะไร 
ณ เวลาที่ยุคบริโภคนิยมและการหาตัวตนจากคนสื่อกลางกำลังแพร่หลาย พี่สาวผม ได้หันกลับมาถามผมอีกรอบว่า ไงละ ตอนนี้อยากเป็นใคร ผมตอบว่า ผมอยากเป็นตัวเอง เพราะมันคงดีที่เราเป็นเรา เธอตอบกลับ ยินดีด้วยนะที่เรารู้ว่า เราคือใครนะ เพราะพี่ก็ตอบแม่อย่างนั้นเหมือนกัน 
ผมมีโอกาสได้ไปงานสัมมนา เขาให้โจทย์ว่า ให้ใช้กระดาษทำให้เป็นเครื่องบิน เพื่อให้ข้ามห้องจากฝั่งซ้ายไปฝั่งขวา ซึ่งระยะทาง แน่นอนว่า ไกลพอสมควรมาก หลายต่อหลายคนพยายามที่จะพับเครื่องบินเพื่อให้ข้ามไป แต่ก็ไม่มีใครทำสำเร็จ จนกระทั่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่ง หยิบกระดาษขึ้นมา แล้วขยำมันเสียจนผู้คนต่างตกใจว่า เขาทำอะไรกัน เขาได้ขว้างกระดาษออกไป แล้วมันก็ข้ามไปอีกฝั่งได้จริง เรื่องที่ผมพูด สอนให้เรารู้ว่า เราเอาแต่คิดตามวิธีแบบการของคนอื่นจนเคยชิน จนลืมคิดไปว่า ความคิดนอกกรอบของตน ก็สามารถเป็นผลได้เช่นกัน 
ปล่อยให้ความจริง มาเจอเราทางสายตา ดีกว่าปล่อยความจริงมาทางวาจา ตามสายลม 
กำลังใจ และเเรงศรัทธาในตนเอง อาจเป็นเรื่องโง่เขลาและหลงตัวเองสำหรับใครบางคน เเต่เชื่อผมเถอะว่า มันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อเราไม่มีใครข้างกายแล้ว เราจะได้บอกตนเองว่า เรายังมีเรา อยู่เสมอ 
คำว่าครอบครัวของเรา ณ วันที่แย่ที่สุด จะกลับกลายเป็นวันที่ดีที่สุด เมื่อเรายืนหยัดเพื่อใครบางคน ที่เรารัก 
ทุกวันนี้ โลกยังคงล้วนกล่าวยกย่อง บุคคลที่ทำให้โลกหมุนเร็วขึ้น และคิดว่า คงจะมีความสุขมากขึ้น เพราะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ความสุขของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น เพราะ เขาได้กล่าวสั้น ๆ อย่างน่าชื่นชมว่า ความสุขไม่ได้อยู่ที่คุณมีหรือเป็นอะไร เเต่อยู่ที่ว่า คุณคิดอย่างไรกับสิ่งที่คุณมีและสิ่งที่คุณเป็น 
