x close

เสิร์ฟเมนู 2 สไตล์จากมะสัง แกงเลียง VS สปาเก็ตตี้


masang
เลียงมะสังใส่ปลากด


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการภัตตาคารบ้านทุ่ง โพสต์โดย คุณ LadyBimbettes สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          มาแล้วจ้า... รายการสารคดีความรู้คู่กับความอร่อย ภัตตาคารบ้านทุ่ง ที่ครั้งนี้ (22 กรกฎาคม) ได้พาคุณผู้ชมไปยังตำบลหนองแตง อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นแหล่งต้นตอของอาหารพื้นบ้านที่เรานำมาฝากในวันนี้ นั่นก็คือ เมนูอาหารจาก "ต้นมะสัง" ...เชื่อได้เลยว่า ชื่อต้นไม้ที่ว่านี้คงไม่ค่อยคุ้นหูเราสักเท่าไร ดังนั้น เรามาดูกันเลยว่า ต้นมะสัง มันคือต้นอะไรกันน้า จะนำมาทำอาหารแสนอร่อยให้เราทานกันได้อย่างไรบ้าง ตามมาเลยจ้า...

masang

          ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับวัตถุดิบของเราในวันนี้ก่อน ชาวบ้านตำบลหนองแตง ได้อาสาปีนขึ้นไปเก็บมะสังจากต้นกันเลยทีเดียว ขึ้นไปเก็บจากกิ่งก้านต่าง ๆ ได้เต็มถุงเลย สำหรับต้นมะสังนั้นเป็นไม้เนื้อแข็งที่นิยมนำมาทำบ้าน แต่ก็ไม่นิยมปลูกในบ้าน เพราะลำต้นมีหนาม คนโบราณถือว่า ถ้าเอาต้นมะสังไปปลูกในบ้านจะเจออุปสรรคขวากหนามนั่นเอง แต่ในปัจจุบันนี้ ต้นมะสังกลายเป็นต้นไม้มีราคา เพราะว่าถูกพัฒนาไปเป็นไม้กระถาง หรือที่เรียกว่า บอนไซ เพราะต้นสามารถตัดแต่งกิ่งให้สวยงามได้นั่นเอง

masang

          สำหรับภายนอกของมะสัง มีผิวเปลือกนอกเป็นตุ่ม ๆ คล้ายมะกรูด แต่มีลูกแป้น ๆ คล้ายมะนาว เปลือกจะแข็งมาก ส่วนภายในลูกมะสัง จะไม่เหมือนมะนาวและมะกรูดที่มีเนื้อเป็นกลีบ ๆ แต่ข้างในจะมีเมล็ดคล้าย ๆ กับเมล็ดฝรั่ง เมื่อกัดกินเข้าไปแล้ว จะรู้สึกว่ามีรสชาติเปรี้ยว ซ่า นอกจากนี้ มะสัง ยังมีความโดดเด่นเรื่องกลิ่นหอม เพราะมีน้ำมันหอมระเหยที่เกิดจากการสะสมอาหารของพืชที่เปลี่ยนรูปไปเป็นส่วนต่าง ๆ มีสรรพคุณช่วยในการขับไขมันออกจากร่างกาย ช่วยขับเหงื่อ ขับลม

masang

          ส่วนกลิ่นหอมของมะสังนั้น จะมีไว้เพื่อดึงดูดสัตว์ให้มากินผล สาเหตุที่ต้องให้สัตว์มากินผลก็เพื่อให้เกิดการงอกของเมล็ด เนื่องจากลูกมะสังแข็งมาก ตกก็ไม่แตก อีกทั้งรสเปรี้ยวของมะสังนั้นยังเป็นตัวยับยั้งการงอกของเมล็ด ถ้าปล่อยให้ผลสุกและงอกตามธรรมชาติ จะใช้เวลานานมาก ต้องรอให้รสเปรี้ยวสลายไป ทั้งนี้ เราจะเห็นต้นมะสังได้ทั่วไปตามท้องทุ่งท้องนา เพราะมะสังชอบแสงแดดจัด ทนโรค ทนแล้ง

          เมื่อได้มะสังกันมาเต็มถุงแล้ว ก็เตรียมเข้าครัวทำอาหารอร่อย ๆ ด้วยสูตรเด็ดของชาวบ้านที่สืบทอดกันมานาน กับเมนู "เลียงมะสังใส่ปลากด" ตามนี้เลยจ้า

masang

ส่วนผสม

          มะสัง
          ยอดมะสัง
          ปลากด
          น้ำปลา
          ปลากดต้มสุก
          ฟัก

ส่วนผสมพริกแกง

          เนื้อมะสัง
          กระชาย
          ตะไคร้
          ปลาร้า
          เกลือป่น
          กะปิ
          พริกแห้งเม็ดเล็ก
          กระเทียบกลีบเล็ก

masang

masang

วิธีทำ

          1. ใช้มีดหั่นปลากดออกมาเป็นชิ้น ๆ นำไปล้างน้ำเตรียมไว้ พร้อมนำน้ำใส่หม้อตั้งบนเตาถ่านรอน้ำเดือด

          2. ปอกเปลือกฟัก ผ่าแบ่งเป็นชิ้น ๆ แกะกระเทียม หั่นกระชาย นำพริกมาแช่น้ำเตรียมไว้

          3. นำชิ้นปลาที่หั่นเตรียมไว้ลงหม้อต้มให้สุก

          4. นำมะสังมาสับแบ่งครึ่งลูก ใช้ช้อนงัดแงะเมล็ดมะสังออก

          5. ล้างยอดมะสัง เด็ดส่วนที่อ่อนสุดเพื่อนำมาผสมปรุงแกง

          6. นำพริก เกลือ กระเทียม กระชายมาตำโขลกให้เข้ากัน พร้อมนำเนื้อปลากดที่ต้มแล้วมาโขลกให้เข้ากับพริกแกงด้วย จากนั้นเติมกะปิ

          7. ส่วนเนื้อมะสังแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งนำมาโขลกกับพริกแกง อีกส่วนหนึ่งนำไปต้มกับน้ำแกงเพื่อให้ความเปรี้ยวแทนมะนาว

          8. เปิดหม้อที่ตั้งเตรียมไว้ แต่จะไม่ใส่เครื่องแกงก่อน เป็นสูตรเด็ดของคนโบราณที่นี่ ดังนั้นจึงใส่ฟักลงไปก่อน รอให้เดือดสุก

          9. ตักปลากดและไข่ปลากดลงหม้อ ผ่านไปซักพัก ตักพริกแกงที่โขลกไว้ใส่ลงไป และอาจเหยาะน้ำปลา หรือน้ำปลาร้าลงไปสักหน่อย

          10. นำเมล็ดมะสังลงเติมเพิ่มความเปรี้ยว

          เพียงแค่นี้ก็ได้น้ำแกงเลียงหอม ๆ รสชาติเปรี้ยวซ่า กระแทกลิ้น มาซดกินกันอย่างอร่อยสบายอุราแล้วล่ะ งั้นลองมาดูเมนูต่อไปของเราบ้าง กับเมนู "มะสังน้ำพริก คลิกสปาเก็ตตี้" ของไทยรสดีกลมกลืนกับอาหารดีของอิตาเลียน ว่าแล้วก็มาดูวิธีทำกันเลยดีกว่าจ้า

masang

ส่วนผสมน้ำพริก

          มะสัง
          เนื้อกุ้งสด
          พริกขึ้หนูสวน
          มะเขือพวง
          น้ำตาลปี๊ป
          กะปิหยาบ
          กะปิละเอียด

ส่วนผสมผัดสปาเก็ตตี้

          เส้นสปาเก็ตตี้
          แครอท
          พริกขี้หนู
          หมูสามชั้น
          หอมหัวใหญ่
          น้ำมันพืช
          กุ้งสด
          กระเทียมกลีบใหญ่
          เกลือป่น

masang

วิธีทำ

          1. วางกะปิหยาบและกะปิละเอียดลงไปใบตอง ห่อแล้วนำไปย่างไฟ

          2. ปอกกุ้ง ซอยกระเทียม หั่นหมูสามชั้น ปอกเปลือกแครอท หอมใหญ่ หั่นเป็นชิ้น ๆ ก่อนหั่นแบ่งมะสังเตรียมไว้

          3. นำกระทะที่เติมน้ำแล้วขึ้นวางบนเตาถ่าน ปิดฝารอให้เดือด เมื่อเดือดแล้ว เติมเกลือ หยอดน้ำมันพืช จับเส้นสปาเก็ตตี้ไปต้ม ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที

          4. เมื่อเส้นสุกแล้ว ตักลงใส่กระชอน แล้วตักน้ำเย็นราด เพื่อไม่ให้เส้นสุกไปมากกว่าที่ต้องการ ก่อนจะใส่น้ำมันพืชลงคลุกเส้นอีกรอบเพื่อไม่ให้เส้นเหนียวติดกัน จากนั้น ทอดกุ้งสดเตรียมไว้

          5. นำกระเทียม กุ้งเจียวกระเทียม กะปิย่าง เนื้อมะสัง น้ำตาลปี๊ป มะเขือพวง โขลกให้เป็นเนื้อเดียวกัน

          6. ผัดเส้นสปาเก็ตตี้ เริ่มจากเจียวกระเทียมใส่หอมใหญ่ พริก หมูสามชั้น แครอท จากนั้น เติมน้ำพริกมะสังที่โขลกเตรียมไว้ใส่ลงไปเพิ่มรสสะเด็ด ก่อนนำเส้นสปาเก็ตตี้ลงไปผัดคลุก เติมเนื้อกุ้งตัวโต ๆ ลงไป


masang
มะสังน้ำพริก คลิกสปาเก็ตตี้

          อุว้าว... กุ้งตัวโต ๆ กับเส้นสปาเก็ตตี้นุ่ม ๆ ลื่นคอดีแท้ ส่วนรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึง เข้ากันพอดิบพอดีเป๊ะ กลมกลืนมีความหอมหวาน ลงตัว แบบนี้ไม่ลองทำไม่ได้แล้วววว



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เสิร์ฟเมนู 2 สไตล์จากมะสัง แกงเลียง VS สปาเก็ตตี้ อัปเดตล่าสุด 24 กรกฎาคม 2555 เวลา 16:25:47 1,602 อ่าน
TOP