x close

11 ปัญหาผิวและวิธีดูแล เพื่อผิวใสไร้ที่ติ

ผิวสวย



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ผิวสวย ๆ ที่ไร้จุดด่างดำ ดูแล้วกระจ่างตา ทั้งยังละเอียด นุ่มนวล และไร้ริ้วรอย เป็นผิวที่ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ย่อมปรารถนา สาว ๆ จึงหมั่นบำรุงรักษาผิวกันสารพัด ซึ่งวิธีดูแลผิวก็มีเยอะเสียจนจำไม่หมดเก็บรายละเอียดกันไม่ถ้วนเลยทีเดียว กระปุกดอทคอมจึงขอรวบรวมเอาวิธีการดูแลบำรุงผิวทั้งหลายเหล่านั้นมาเป็น สารพัดปัญหาผิว 11 ประการ พร้อมข้อแนะนำในการดูแลที่สาว ๆ ควรนำไปทำตามเพื่อผิวใสไร้ที่ติกันค่ะ

   1. ชะลอริ้วรอยอย่างไรให้ได้ผล

         ทุก ๆ เช้าต้องทาครีมกันแดดก่อนออกไปทำงาน (รวมทั้งต้องทาแม้ว่าจะออกบ้านด้วย)

        ทุกคืนก่อนนอนทาโลชั่นที่มีส่วนผสมของเรตินอล แต่หากคุณพบว่ามันทำให้ผิวของคุณแดงในเช้าวันถัดมา ให้บีบมันลงในฝ่ามือแล้วผสมให้เข้ากันกับมอยส์เจอไรเซอร์ที่คุณใช้อยู่ จากนั้นค่อยนำไปใช้กับผิวหน้า

        ทุก ๆ 2 คืน ทาครีมที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก ที่จะช่วยลอกผิวที่ตายแล้วออกมา ทั้งนี้หากใช้ครีมเรตินเอร่วมด้วย ให้เว้นระยะการใช้ครีมทั้งสองตัวให้ห่างกันอย่างน้อย 30 นาที

   2. ดูแลริมฝีปากไม่ให้แห้งแตก

          เมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่อากาศแห้ง ลมแรง หนาวจัด หรือร้อนจัด ให้พกลิปบาล์มเนื้อข้นที่มีค่า SPF30 ไปใช้ด้วย ส่วนเมื่ออยู่ในร่มก็ให้ใช้ลิปบาล์มสูตรบำรุงความชุ่มชื้นหรือใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ทาริมฝีปากเพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นก็ได้เช่นกัน

   3. ทำอย่างไรให้รูขุมขนดูเล็กลง

          ผิวหน้าดูหยาบเมื่อรูขุมขนอุดตันไปด้วยความมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จัดการทำความสะอาดรูขุมขนด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกเข้มข้น 0.5-1% เป็นประจำทุกวันเว้นวัน และให้ใช้ร่วมกับการใช้ครีมที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง นอกจากนี้คุณยังสามารถพรางรูขุมขนที่ดูใหญ่ได้ ด้วยการใช้แปรงแตะแป้งฝุ่นโปร่งแสงปัดเพื่อพรางผิวบริเวณนั้น

     4. จัดการปัญหาหน้ามัน

          ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณจัดการปัญหาหน้ามันได้

         มอยส์เจอไรเซอร์แบบควบคุมความมันที่มีค่า SPF เพราะแสงแดดคือสาเหตุตัวสำคัญที่ทำให้ผิวมันได้

         แป้งอัดแข็งผสมรองพื้นจะช่วยให้เครื่องสำอางที่คุณแต่งลงไปเซ็ตตัวดี และไม่เลอะเลือนไปโดยง่ายในระหว่างวัน หากรองพื้นที่คุณใช้ตามปกติเป็นชนิดเหลว ให้ใช้แป้งอัดแข็งผสมรองพื้นปัดทับลงไปบาง ๆ อีกครั้งเมื่อแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยด้วย

         ผลิตภัณฑ์ซับมันชนิดแผ่นฟิล์ม จะช่วยซับเอาความมันส่วนเกินออกไปจากใบหน้าคุณได้โดยไม่ทำให้เครื่องสำอางที่คุณแต่งไว้เลอะเลือน

   5. ปกปิดรอยคล้ำใต้ดวงตาอย่างไรให้ทนนาน

          ใช้อายครีมเนื้อเบาที่ช่วยกระจายแสงได้แต้มเป็นจุด ๆ ที่ใต้ดวงตา ตบเบา ๆ รอจนมันซึมลงไปและแห้งดี วิธีเช่นนี้จะช่วยให้คุณเกลี่ยคอนซีลเลอร์ที่จะทาตามลงไปได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้อย่าลืมเลือกใช้คอนซีลเลอร์ที่มีสีพอดีกับผิวของคุณเท่านั้น การเลือกใช้สีที่อ่อนกว่าผิวจริงไม่ได้ทำให้ใต้ดวงตาดูกระจ่างใสขึ้น แต่กลับทำให้มันดูบวมและสังเกตเห็นปัญหาได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

   6. "สิว" ปัญหาใหญ่ที่ต้องจัดการ

          แต้มสิวด้วยยาทาสิว หรือมาส์กด้วยโคลนมาส์กสำหรับผิวเป็นสิวที่มีส่วนผสมของซัลเฟอร์เป็นเวลา 5 นาที หรือจนกว่ามันจะแห้ง แล้วจึงล้างออก วิธีนี้จะช่วยให้หัวสิวของคุณยุบแห้งลง จากนั้นก่อนนอนทุกคืนให้ทาหน้าบาง ๆ ด้วยครีมที่มีส่วนผสมของเบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) เข้มข้น 2.5% อันจะช่วยฆ่าเชื้อ ลดอาการอักเสบของสิวทั้งใบหน้าได้ รวมทั้งทำให้สิวที่มีอยู่เดิมแห้งไวขึ้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือห้ามบีบแคะแกะเกาสิวเด็ดขาด ปกติแล้วบนใบหน้าที่สะอาดสิวจะยุบลงไปได้เองภายใน 4-5 วัน แต่หากไปรบกวนมันด้วยการบีบแคะแกะเกาคุณอาจต้องใช้เวลาในการรักษา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว

     7. ทำอย่างไรให้ผิวชุ่มชื้นได้เนิ่นนาน

          เริ่มต้นที่การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ทำความสะอาดล้ำลึกจนดึงเอาน้ำมันในผิวตามธรรมชาติออกไปเสียหมด และต้องทำหน้าที่เป็นสครับอย่างอ่อนโยนเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เพราะเซลล์ผิวตายแล้วที่ทับถมกันอยู่นี่เองเป็นตัวปิดกั้นไม่ให้มอยส์เจอไรเซอร์ที่คุณใช้ซึมลึกลงไปบำรุงผิวเบื้องล่าง จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุง ในตอนเช้าให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ SPF จากนั้นจึงใช้มอยส์เจอไรเซอร์แบบเจือสี เพื่อเป็นการเตรียมผิวพร้อมรับการแต่งหน้า ส่วนในยามค่ำคืนให้เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ครีมเนื้อหนัก ๆ ทาผิวหน้าแล้วปิดไฟนอนได้เลยค่ะ

     8. จัดการผิวคล้ำอย่างไรให้เห็นผล

          ผิวที่ดูหมองคล้ำมีสาเหตุสำคัญมาจากเซลล์ผิวตายแล้วที่ยังคงไม่หลุดไปไหน กุญแจสองดอกที่จะจัดการกับปัญหานี้ได้คือ การสครับผิวอย่างอ่อนโยน และการเพิ่มประกายให้กับผิว เริ่มจากการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกเป็นประจำ จากนั้นจึงใช้พีลลิ่งมาส์กหรือมาส์กแบบลอกออกได้ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกมา เท่านี้ผิวก็ดูสดใสขึ้นกว่าเดิมมาก และหากต้องการเติมประกายให้ผิวดูสุขภาพดีเป็นพิเศษ ให้ใช้ทรีตเมนท์เนื้อเจลทาที่โหนกแก้มทั้งสอง หน้าผาก และสันจมูก เพียงเท่านี้ใบหน้าก็ดูมีประกายสุขภาพดี และหน้าไม่มันด้วย

   9. เซรั่มแบบไหนที่ตรงความต้องการของผิว

         ถ้าผิวต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ให้ใช้เซรั่มที่มีส่วนสผมของกรดไฮยาลูโรนิก

         ผิวที่มีริ้วรอยและขาดความกระชับ ต้องเป็นเซรั่มที่เข้มข้นไปด้วยเรตินอลและเปบไทด์

         ต้องการลดเลือนจุดด่างดำ ใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของถั่วเหลือง

   10. จัดการผิวแห้งกร้านหยาบเป็นขุย

          รับมือกับปัญหาผิวแห้งกร้านจนเป็นขุยได้ด้วยการสครับและบำรุงผิวอย่างถูกวิธี เพราะการสครับเพียงอย่างเดียวโดยขาดการบำรุงจะยิ่งทำให้สภาพผิวของคุณดูแย่กว่าเดิม หลังจากสครับผิวด้วยสครับแบบที่คุณใช้อยู่เป็นประจำแล้ว (อย่าลืมเน้นที่ข้อศอกและหัวเข่า ซึ่งแห้งและกร้านมากกว่าส่วนอื่น ๆ) หลังอาบน้ำให้ใช้ออยล์ทาผิวลูบไล้ให้ทั่วทั้งที่ตัวยังเปียกอยู่ และเมื่อซับตัวแห้งดีแล้วให้ทาโลชั่นตามทันที เท่านี้ก็มั่นใจได้ว่าผิวที่เพิ่งสครับมาจะได้รับการดูแลเต็มที่ และอ่อนนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอย่างแน่นอน

   11. รับมือปัญหาจุดด่างดำ

          การจะแก้ปัญหาจุดด่างดำได้ย่อมต้องใช้เวลา และที่สำคัญคือต้องเลี่ยงการถูกแดดเพราะจะยิ่งทำให้จุดด่างดำที่มีสีเข้มขึ้น

         จุดด่างดำที่ไม่ชัดเจนมากนัก ให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอลทาบาง ๆ ทั่วทั้งหน้าก่อนเข้านอน จะช่วยให้จุดด่างดำค่อย ๆ ดูจางลง และสีผิวสม่ำเสมอกันทั่วทั้งใบหน้า

         จุดด่างดำที่มีสีเข้มมาก อาจจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อสั่งยา โดยมากแล้วมักเป็นไฮโดรควิโนน แต่หากผิวคุณเกิดอาการระคายเคืองกับมัน แพทย์ก็สามารถเลือกสั่งยาที่มีความอ่อนโยนขึ้นได้


          หากปัญหาของใครตรงกับ 11 ข้อที่รวบรวมมาฝากกันนี้ ก็อย่าลืมบำรุงดูแลจัดการปัญหาตามวิธีที่ได้แนะนำมาพร้อมกันด้วยนะคะ





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
11 ปัญหาผิวและวิธีดูแล เพื่อผิวใสไร้ที่ติ อัปเดตล่าสุด 7 สิงหาคม 2555 เวลา 13:49:46 2,057 อ่าน
TOP