x close

เคล็ดลับความงามของสาว ๆ แต่ละประเทศ

ผมเปีย



Beauty From NATURE เคล็ดลับความงามของสาว ๆ แต่ละประเทศ (นิตยสาร APPEAL)

           มนุษย์มักนำสมุนไพรและสิ่งที่มาจากธรรมชาติ มาใช้ในการประกอบอาหารหรือใช้เป็นยารักษาโรค นอกจากนี้ยังเป็นเคล็ดความงามที่ผู้หญิงใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ ถูกส่งต่อมายังรุ่นต่อรุ่น และผู้หญิงในแต่ละประเทศก็จะมีเคล็ดลับความงามไม่เหมือนกัน เรามาดูกันว่า สาว ๆ ประเทศไหนมีเคล็ดลับอะไรกันบ้าง

       Greece BEAUTY SECRET

           สาว ๆ กรีกชอบการอาบแดดเป็นชีวิตจิตใจ ผิวจึงมักถูก Sunburn วิธีในการบรรเทาผิวจากซันเบิร์น ที่ใช้กันมานาน ก็คือการใช้โยเกิร์ต รสธรรมชาติ ทาลงบนผิวหน้าและผิวกาย เพื่อลดผื่นแดงไหม้ หรือผิวลอกจากแดดเผาได้ เพราะในโยเกิร์ต มีกรดแลคติค โปรตีน และเอนไซม์ซึ่งช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้และลอกจากแสงแดด

       India BEAUTY SECRET

           สังเกตไหมว่าสาว ๆ ชาวอินเดียนั้นมักจะมีผมที่ดำ เงางามสลวย นั่นก็เพราะเคล็ดลับของสาวอินเดีย ก็คือ การหมักผมโดยใช้น้ำมันมะพร้าวอุ่น ๆ ทาลงบนผมตั้งแต่โคนผมไปจนถึงปลายผม ทิ้งไว้สักครู่ น้ำมันมะพร้าวจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้ผม ทำให้ผมนุ่มสลวย นอกจากนี้ยังช่วยในการเจริญเติบโตของผม ช่วยแก้ปัญหาผมแห้งหยาบกระด้าง ให้ผมกลับมาหนาแข็งแรง และเป็นประกายเงางาม

       New Zealand BEAUTY SECRET

           Manuka Honey เป็นน้ำผึ้งประจำท้องถิ่นของประเทศนิวซีแลนด์ น้ำผึ้งชนิดนี้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากมีคุณสมบัติเหนือกว่าน้ำผึ้งทั่วไปในการรักษาผิวต่อต้านแบคทีเรีย ซึ่งน้ำผึ้งมานูก้ามีเอนไซม์พิเศษที่ช่วยต่อต้านแบคทีเรียและสารอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากการเสื่อมโทรม กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยทำให้กระบวนผลัดเซลล์ผิวใหม่เป็นไปอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล ช่วยในการสร้างคอลลาเจน กำจัดแบคทีเรียสาเหตุของการเกิดสิว ฟื้นฟูสภาพผิวทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการรักษาจุดด่างดำและสิว รวมไปถึงโรคผิวหนังต่าง ๆ ได้อีกด้วย

       Israel BEAUTY SECRET

           ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง ทางแก้ของชาวอิสราเอล คือการแช่ตัวหรืออาบน้ำจากทะเลสาบ Dead Sea เพราะความเชื่อที่ว่าทะเลสาบ Dead Sea อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย ซึ่งช่วยในการรักษาผิว ลดการอักเสบของผิวและผื่นแดงต่าง ๆ แม้แต่พระนางคลีโอพัตรายังปรนนิบัติผิวของพระนางด้วยโคลนจาก Dead Sea เลย ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีการนำน้ำหรือโคลนจาก Dead Sea มาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหรือสกินแคร์











ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เมษายน 2555 ISSUE 12
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เคล็ดลับความงามของสาว ๆ แต่ละประเทศ อัปเดตล่าสุด 6 สิงหาคม 2555 เวลา 14:27:55
TOP