เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
แม้ว่าการช้อปปิ้งกับผู้หญิง จะเป็นของคู่กันและแยกกันไม่ออกอยู่แล้ว แต่สาว ๆ เชื่อไหมว่า ในแต่ละช่วงของเดือน เรามีความต้องการช้อปปิ้งมากน้อยต่างกันไปตามช่วงเวลาด้วยนะเอ้า อ๊ะ ไม่เชื่อลองมาดูงานวิจัยที่เราเอามาฝากกันวันนี้ แล้วลองสังเกตตัวเองดูหน่อยเป็นไง เค้าว่ากันว่าผู้หญิงจะช้อปแหลก เบรคตัวเองไม่ค่อยได้ มีความต้องการซื้อของแบบพีคสุด ๆ ก็ตอนช่วงไข่ตกนี่แหละ
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เฮลธ์เดย์นิวส์ เปิดเผยงานวิจัยน่าสนใจที่เผยให้เห็นว่า พฤติกรรมของผู้หญิงมีความเชื่อมโยงกับช่วงเวลาไข่ตก พวกเธอจะช้อปปิ้งเก่งขึ้น และมีความต้องการช้อปมากที่สุดในช่วงนี้
งานวิจัยดังกล่าว เป็นของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอนคอร์เดีย ในเมืองมอนทรีออลของแคนาดา ได้ศึกษาเกี่ยวกับรอบเดือนที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคและการใช้เงินของผู้หญิงจำนวน 59 คน โดยให้พวกเธอได้บันทึกรายจ่ายในแต่ละวันว่า เธอเข้าร้านเสริมสวย ซื้อเสื้อผ้า และทานอะไรบ้าง รวมถึงให้พวกเธอบันทึกวันที่มีรอบเดือนด้วย จากนั้นทีมวิจัยก็ได้นำบันทึกพฤติกรรมการใช้จ่ายของพวกเธอมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับช่วงเวลาไข่ตก พบว่า ในช่วง 8-15 ก่อนประจำเดือนมา ซึ่งเป็นช่วงวันไข่ตก ผู้หญิงจะมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่มากขึ้น โดยเฉพาะการช้อปเสื้อผ้าและเสริมสวย ดูเหมือนว่าเงินจะถูกใช้ไปกับเรื่องเหล่านี้เยอะมากในช่วงวันดังกล่าว
ศาสตราจารย์กาด ซาอาด หัวหน้าทีมวิจัยชิ้นนี้ ได้เปิดเผยว่า "ในช่วงเวลาไข่ตก ผู้หญิงจะให้ความสนใจในเรื่องกิจกรรมที่ทำกับคู่รักมากที่สุด และจริง ๆ ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ที่จะทำให้ตัวเองดูมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามในช่วงที่ร่างกายพร้อมสำหรับการปฏิสนธิ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าผู้หญิงจะใช้จ่ายไปกับเรื่องสวย ๆ งาม ๆ มากที่สุดในช่วงที่พวกเธอไข่ตก นั่นก็เพราะธรรมชาติสั่งให้เธอพยายามเพิ่มแรงขับทางเพศให้มากที่สุดในช่วงนี้นั่นเอง"
ทั้งนี้ ทางทีมวิจัยหวังว่างานวิจัยดังกล่าวจะช่วยให้ผู้หญิงทั้งหลายได้สังเกตและรู้จักตัวเอง เพื่อยับยั้งความต้องการของตัวเองในช่วงเวลาไข่ตก อย่างน้อยก็อาจจะช่วยให้คุณผู้หญิง หรือคุณแฟนหนุ่มทั้งหลาย หลีกเลี่ยงการพาเธอออกไปช้อปปิ้งในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งก็คงช่วยประหยัดเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียวเชียว
เอ้า.. คราวนี้ก็ถึงเวลาสาว ๆ ทั้งหลาย มาลองคำนวณวันไข่ตกของตัวเองดูบ้าง และลองสังเกตดูซิว่า ที่งานวิจัยว่ามาทั้งหมดน่ะ มันเป็นจริงหรือเปล่า อิอิ
