x close

ผิวตกกระและเป็นฝ้า



ผิวตกกระและเป็นฝ้า (Lisa)

 
          กระและฝ้าเป็นความผิดปกติชนิดหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นบนผิวหนัง มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทั้งนี้ ยืนยันได้จากสถิติที่พบว่า กว่า 80% ของคนเป็นกระหรือเป็นฝ้าจะเป็นผู้หญิง

          อย่างไรก็ดี กระและฝ้าไม่ใช่โรคร้ายที่ก่อให้เกิดอันตรายหรือความเจ็บปวดทรมานใดๆ กับผู้เป็น แต่หลายๆ คนก็อาจจะรู้สึกสูญเสียความมั่นใจไปเมื่อตัวเองมีกระหรือฝ้าขึ้น เพราะจะทำให้ผิวเป็นรอยจุดรอยปื้นดูกระดำกระด่างไม่เนียนสวย ที่สำคัญทั้งกระและฝ้ามักจะไปขึ้นบนใบหน้าซึ่งเป็นส่วนที่
สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

เราจะแยกแยะความแตกต่างระหว่างกระกับฝ้าได้อย่างไร

          ลักษณะของกระ หากพิจารณาดูดีๆ จะเห็นว่ามีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อนหรือสีเข้มกว่าสีผิวปกติกระจายตัวอยู่ทั่วไปบนใบหน้า โดยปกติกระธรรมดา เช่น กระเด็ก และกระแดด จะขึ้นอยู่แค่ชั้นบนของผิวหรือชั้นหนังกำพร้า ส่วนกระที่ไม่ปกติธรรมดา ได้แก่ กระเนื้อ ซึ่งมีสีเข้ม เป็นเนื้อนูนขึ้นมามาก มักพบเมื่อมีอายุมากขึ้น กระชนิดนี้ที่จริงแล้วไม่ใช่กระ แต่เป็นเซลล์ผิวที่แบ่งตัวผิดปกติรูปแบบหนึ่งซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ หากมีขนาดขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หรือมีเลือดออกซ้ำๆ ที่กระเนื้อนี้บ่อยๆ ก็ควรจะรีบไปพบแพทย์ผิวหนังโดยด่วน

          สำหรับในกรณีของฝ้า ฝ้าจะมีลักษณะเป็นรอยปื้นใหญ่สีน้ำตาลเข้มกว่าสีผิวปกติ โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ ชนิดตื้น และชนิดลึก ความแตกต่างของฝ้าทั้งสองชนิดก็คือความลึกของเม็ดสี ชนิดลึก เม็ดสีที่ผิดปกติจะอยู่ในชั้นหนังแท้ ส่วนชนิดตื้น จะอยู่แค่ชั้นหนังกำพร้า อีกทั้งความเข้มของเม็ดสีก็จะมีน้อยกว่าฝ้าชนิดลึก

อะไรเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวตกกระหรือเป็นฝ้า

          เป็นเรื่องธรรมชาติที่ผิวของคนเราอาจมีกระหรือฝ้าขึ้น ซึ่งบางคนอาจจะเป็นมากเป็นน้อยแตกต่างกันไป และต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดกระหรือฝ้า แท้จริงก็เป็นผลมาจากเซลล์สร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง (เมลานิน) ซึ่งเกิดการสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้นอย่างไม่สม่ำเสมอ จึงทำให้ผิวหนังบางบริเวณมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลกระจายตัวอยู่ทั่วไปบริเวณที่มักจะมีกระขึ้น ได้แก่ บนใบหน้า เนินอก หรือผิวที่แขน ทั้งนี้ตัวการที่มากระตุ้นให้เมลานินสร้างเม็ดสีที่ผิวเพิ่มมากขึ้นก็คือ รังสีอัลตร้าไวโอเลตจากแสงแดด นอกจากนี้แพทย์ยังเชื่อว่าอาจเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมก็เป็นได้ อย่างเช่น กระที่ขึ้นในเด็กฝรั่ง เป็นต้น

          ส่วนในกรณีที่ทำให้เกิดฝ้านั้นจะมีสาเหตุปัจจัยอยู่หลายประการเป็นตัวกระตุ้น กล่าวคือ นอกจากแสงแดด ซึ่งเป็นตัวการหลักแล้ว รังสีความร้อนจากเตาไฟ เช่น ในขณะประกอบอาหาร และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศในร่างกายก็อาจมีส่วนไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีผิวที่ผิดปกติได้เช่นกัน ดังจะเห็นได้จากผู้หญิงบางคนที่ตั้งครรภ์ หรือที่รับประทานยาคุมกำเนิดอาจจะมีฝ้าขึ้นมาก หรือในกรณีที่แพ้สารเคมีบางชนิดในเครื่องสำอางและครีมทาผิว เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้น การป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับต่อมไร้ท่อและโรคเกี่ยวกับตับก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฝ้าขึ้นได้เช่นเดียวกัน

การรักษากระและฝ้าสามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง

          วิธีการรักษาทั้งกระและฝ้า โดยหลักการแล้วก็จะใช้วิธีการทำลายเซลล์สร้างเม็ดสี (เมลานิน) เพื่อให้เซลล์ดังกล่าวยุติการผลิตเม็ดสีเพิ่มขึ้นด้วยการใช้สารสังเคราะห์บางชนิดซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกรด ที่จะช่วยกัดสีหรือฟอกสีผิวให้ขาวขึ้น หรือเร่งให้เซลล์สร้างเม็ดสีหลุดลอกออกไป หรืออาจจะใช้แสงเลเซอร์เข้าช่วย

          แต่วิธีการต่างๆ เหล่านี้ไม่มีวิธีไหนปลอดภัยที่สุด เพราะล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ผิวเกิดรอยช้ำ อักเสบ หรือไม่ก็เป็นรอยด่างขาว ด่าง ดำ ซึ่งอาจจะทำให้ต้องเข้ารับการรักษาแบบยืดเยื้อต่อเนื่องเป็นเวลานานและต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก อีกทั้งไม่สามารถรักกระและฝ้าหายหมดจดเกลี้ยงเกลาลงได้ตราบใดที่ยังโดนแดดจัดอีก

          ผลของการรักษาอาจจะทำได้ เพียงแค่ทำให้กระหรือฝ้าจางลง หรือจางหายไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าหากหลังการรักษารู้จักปกป้องดูแลผิวเป็นอย่างดี โอกาสที่กระและฝ้าจะกลับมาสีเข้มขึ้นหรือเป็นเพิ่มขึ้นก็จะช้าและน้อยลง

วิธีการป้องกันผิวให้ห่างไกลจากกระและฝ้าโดยมี่ต้องพึ่งสารเคมีหรือแสงเลเซอร์

          วิธีการปกป้องผิวก่อนที่จะปล่อยให้เกิดกระและฝ้า นั้นทำได้ไม่ยาก เนื่องจากแสงแดดเป็นตัวการอันดับหนึ่งที่ทำให้ผิวตกกระและเป็นฝ้า ฉะนั้น เมื่อใดก็ตามที่ต้องออกไปโดนแดดก็ควรจะสวมหมวก กางร่ม และทาครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวอยู่เสมอ

          และสำหรับผู้ที่เป็นกระหรือฝ้าไปแล้ว อาจเลือกใช้วิธีแบบธรรมชาติ ด้วยการหมั่นขัดผิวเบาๆ ด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว หรือน้ำมะกรูด เป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยให้กระและฝ้าจางลงพร้อมกับผิวที่ดูขาวขึ้น ซึ่งวิธีการนี้นอกจากจะประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายแล้ว ยังรับรองได้ว่าผิวของคุณจะปลอดจากสารเคมี แสงเลเซอร์ และผลข้างเคียงได้อย่างแน่นอน



เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.3 No.5 กุมภาพันธ์ 2545

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผิวตกกระและเป็นฝ้า อัปเดตล่าสุด 16 กรกฎาคม 2558 เวลา 15:52:42 18,490 อ่าน
TOP