x close

น้ำมันมะกอก Olive Oil


Olive Oil (Hair&Beauty)

          ในปัจจุบันมีน้ำมันสำหรับปรุงอาหารวางจำหน่ายอยู่หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันปาล์ม น้ำมันรำข้าว น้ำมันงา และน้ำมันมะกอก ซึ่งเป็นน้ำมันที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่สมัยอดีตกาล ไม่ว่าจะนำมาปรุงอาหารหรือรับประทานสดเพื่อเป็นยารักษาโรคทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งยังช่วยให้ความงามของผิวพรรณอีกด้วย

     กรดไขมันที่มีอยู่ในน้ำมันมะกอกเป็นชนิดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด Monounsaturated ที่ช่วยป้องกันในเรื่องของการเกิดกลิ่นเหม็นหืนและลดเปอร์เซ็นของกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด Polunsaturated ที่มีอยู่ในน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันดอกทานตะวันให้น้อยลง

          เนื้องจากกรดไขมันเหล่านี้มีความจำเป็นต่อร่างกายไม่สามารถผลิตได้เอง การรับประทานน้ำมันมะกอกจึงช่วยให้ร่างกายได้รับกรดไขมันที่จำเป็นเพียงพอสำหรับทุกวัย อีกทั้งยังช่วยสร้างความสมดุลระหว่างกรดไลโนเลอิคและกรดไลโนเลนิค ซึ่งกรดทั้งสองตัวนี้มีคุณสมบัติคล้ายน้ำนมแม่

          และการรับประทานน้ำมันมะกอกในผู้สูงอายุก็จะช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยให้ร่างกายดูซึงแร่ธาตุและวิตามินได้ดีขึ้น ป้องกันการสูญเสียแคลเซี่ยมในกระดูก และดีต่อระบบย่อยอาหาร เพราะน้ำมันทำหน้าที่ช่วยรักษาเยื้อบุลำไส้และลดภาวะการเกิดเกลือในกระเพราะอาหาร ช่วยรักษาโรคกระเพาะอักเสบได้ด้วย และในรายที่ท้องผูกแนะนำให้รับประทานในขณะท้องว่างจะช่วยเป็นยาระบายอ่อนๆ ได้ และอีกยังทำหน้าที่เพิ่มไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นสูงเพื่อช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลสู่ตับ ช่วยให้ตับทำหน้าที่เผาผลาญได้อย่างเต็มที่ และยังช่วยละลายหลอดเลือดที่แข็งตันอันเนื่องมาจากการเกาะตัวของคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ นอกจากนี้ ยังช่วยทำความสะอาดและสมานบาดแผลให้หายเร็วยิ่งขึ้น

     สรรพคุณในด้านความงามน้ำมันมะกอกก็มีมากมายหลายขนาน โดยสามารถนำมาฟื้นฟูและบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี เพราะในน้ำมันมีโครงสร้างที่คล้ายกับน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว จึงนำพาโมเลกุลของน้ำมาในน้ำมันให้ซึมผ่านลงไปหล่อเลี้ยงผิวได้ดี พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นเสมือนฟิล์มธรรมชาติคอยปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียน้ำหล่อเลี้ยง และถูกทำลายจากมลภาวะภายนอก วิตามินอีในน้ำมันมะกอกช่วยลดการเกิดออกซิเดชั่นตามธรรมชาติเป็นสาเหตุของฝ้า จุดด่างดำ บรรเทาอาการอักเสบของสิวและป้องกันรังสียูวีได้

         และไม่เพียงแค่ผิวที่สวยได้เท่านั้น วิตามินและโปรตีนในน้ำมันมะกอกจะช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มลื่น เงางาม หมดปัญหาผมเสีย ผมแห้งฟู ขาดน้ำหนัก ซึ่งเราสามารถมีผิวสวยและผมสวยได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอก

     ก่อนที่จะนำน้ำมันมะกอกมาใช้ เราควรศึกษาก่อนว่าแต่ละชนิดนั้นมีคุณประโยชน์อย่างไรและมากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้นำมาใช้ได้อย่างถูกประเภท ซึ่งชนิด Extra Virgin Oil เป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธ์ที่มีคุณค่าดีที่สุด สกัดโดยไม่ผ่านกระบวนการเคมีใดๆ เพียงแค่ใช้วิธีหีบเย็น มีสีเขียวหรือสีเหลืองทอง ให้กลิ่นและรสแรง

          ส่วน Virgin Olive Oil มีคุณภาพรองลงมา เนื่องจากคุณประโยชน์หลายชนิดถูกทำลายด้วยความร้อน กลิ่นและรสก็ด้อยกว่าด้วย

          Fine Oilve Oil สกัดจากเนื้อมะกอกด้วยกระบวนการอุตสาหกรรมด้วยความร้อนและสารเคมี มีการฟอกสีและกลิ่นออก ราคาจึงถูกกว่าสองประเภทแรก แต่ส่วนใหญ่จะมีการเติม Virgin Olive Oil ลงไปบ้างเพื่อให้ได้กลิ่น สี และสารต้านออกซิเดชั่นเพื่อเพิ่มคุณภาพ

          ส่วนชนิดสุดท้าย Pure Olive Oil เป็นน้ำมันที่มีเพียงกลิ่นอ่อนๆ ของมะกอก มีเพียงกรดไม่เกิน 4% เพราะถ้าเกินกว่านี้จะไม่สามารถรับประทานได้ แต่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือน้ำมันใส่ผม โดยเราจะนำน้ำมันมะกอกที่มีคุณภาพดีมาใช้เป็นเครื่องปรุงอาหาร น้ำสลัด หรืออาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เพราะความร้อนจะทำให้เสียรสชาติ หากคุณผัดหรือทอดก็ควรเลือกใช้น้ำมันมะกอกที่มีคุณภาพต่ำลงมาจะดีกว่า

Tips 

          ใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ให้เป็นประโยชน์กับเคล็ดลับความสวยด้วยน้ำมันมะกอกด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่นำน้ำมันหอมโรสแมรี่ผสมให้เข้ากันกับน้ำมันมะกอก นวดให้ทั่วโดยเฉพาะปลายผม หมักผมค้างไว้ 1 คืน นอกจากจะได้ผมสวยหลังสระผมแล้ว ยังช่วยขจัดรังแคได้อีกด้วย

          ส่วนสาวๆ ที่ผมชี้ฟูไร้น้ำหนัก ให้นำไข่ไก่ 2 ฟอง ผสมกับน้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ล้างออกด้วยน้ำเปล่า แค่นี้ก็เพิ่มความเงางามจัดทรงง่ายให้แก่เส้นผมแล้วค่ะ





เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นิตยสารHair&Beauty

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้ำมันมะกอก Olive Oil อัปเดตล่าสุด 21 กันยายน 2552 เวลา 18:46:16 5,272 อ่าน
TOP