ญาติ ภาวนา ชนะจิต โต้ไม่ได้แย่งสมบัติ เชื่อเป็นฆาตกรรม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเจาะข่าวเด่น โพสต์โดยคุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

          ญาติ - ลูกบุญธรรม ภาวนา ชนะจิต ขอความเป็นธรรมใน รายการเจาะข่าวเด่น เชื่อเป็นการฆาตกรรม เผยพบพิรุธ นายณัฐพงษ์ ยันไม่ได้แย่งสมบัติ แค่ต้องการค้นหาสาเหตุการเสียชีวิต

          สืบเนื่องจากกรณีศึกชิงมรดกพันล้านของ ภาวนา ชนะจิต อดีตดาราดัง ที่ยังไม่สามารถเจรจากันได้อย่างลงตัวระหว่าง นายณัฐพงษ์ หลวงศิริกุล อายุ 57 ปี สามีของ ภาวนา ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส กับ นายอภิชา เหล่าแสงทอง อายุ 21 ปี บุตรบุญธรรมของ ภาวนา ชนะจิต ที่จดทะเบียนรับรองบุตรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กับบรรดาญาติพี่น้อง ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วนั้น

          ล่าสุด ช่วงเย็นวานนี้ (17 กันยายน) รายงานเจาะข่าวเด่น จึงได้เชิญญาติ ๆ ของ ภาวนา ชนะจิต มาร่วมพูดคุยชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว โดย นางหัถยา เหล่าแสงทอง น้องสาวของ ภาวนา ชนะจิต กล่าวว่า ที่ตนมาในวันนี้เพื่อขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายในการทำคดีให้ความจริงกระจ่าง เนื่องจากตนยังติดใจในหลายประเด็นว่าคดีดังกล่าวเป็นการฆาตกรรม

          ขณะที่ทางด้าน น้องไต๋ หรือ นายอภิชา เหล่าแสงทอง บุตรบุญธรรม เล่าว่า จากสำนวนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปก็คือ แม่พลัดตกลงไปในบ่อขณะกำลังให้อาหารปลานั้น ตนสงสัยเนื่องจากในบ่อน้ำไม่มีปลาอยู่เลย รวมถึงพฤติกรรมและคำให้การของ นายณัฐพงษ์ หลวงศิริกุล ด้วยเช่นกัน

          ทางด้าน นายพันธ์ยศ รัชดาภรณ์วานิชย์ กล่าวว่า วันนั้นที่เข้าไปในบ้าน เจตนาจริง ๆ ก็คือต้องการเข้าไปดูเอกสารหลักฐานธุรกรรมต่าง ๆ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของพี่สาว เช่น ตั๋วรับจำนำที่นางภาวนาไปไถ่คืนมาหรือเอกสารการโอนต่าง ๆ ยืนยันว่า ไม่ได้เข้าไปแย่งสมบัติตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เนื่องจากเรื่องนี้จบไปตั้งแต่น้องไต๋เกิดเมื่อ 21 ปีแล้ว มันเป็นสิทธิของน้องไต๋อยู่แล้ว ขณะนี้น้องอายุเกิน 20 ปี ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ตนเป็นพ่อไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้

          เมื่อถาม น้องไต๋ อภิชา เหล่าแสงทอง ถึงภาพวันแรกที่ปรากฏออกมาว่า เห็นน้องไต๋ คว้าถุงบางสิ่งบางอย่างออกมานั้น เจ้าตัว กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุมีคนงานมาช่วยค้นหาหลักฐานกันเยอะ ตนเห็นคนงานมาป้วนเปี้ยน ๆ จึงพยายามเก็บของของแม่เพื่อป้องกันการสูญหาย ซึ่งมีเครื่องประดับและพระนิดหน่อย

          ขณะที่ นางหัถยา เหล่าแสงทอง กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้นนายณัฐพงษ์ก็ได้มาทวงขอถุงเอกสารสำเนาต่าง ๆ คืน ซึ่งเราก็ไม่ได้เอาไป ตนจึงสงสัยมากว่า ศพของพี่สาวขณะนั้นยังหาไม่เจอเลย เหตุใดจึงต้องมาห่วงเอกสารขนาดนี้ จึงมีปากเสียงกันและเขาก็เอาปืนออกมาไล่ยิง


          เมื่อถามถึงการรับรองบุตรบุญธรรมของ น้องไต๋ อภิชา นั้น เจ้าตัว กล่าวว่า ตนได้รับการรับรองเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่เดือนมกราคม 2535 ตั้งแต่ตนอายุ 8 เดือน จนกระทั่งหลังจากที่นายณัฐพงษ์ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ตนจึงมาอยู่หอพักของมหาวิทยาลัย ด้าน นางหัถยา กล่าวเสริมว่า ก่อนที่น้องไต๋จะเกิด ตนได้มีการตกลงกับพี่สาวที่จะมีลูกคนนี้ให้ เพราะพี่สาวไม่มีลูก และน้องไต๋ก็อยู่กับพี่สาวมาโดยตลอด

          เมื่อถามว่า ภาวนา และสามีใหม่มีปากเสียงทะเลาะกันบ้างไหม น้องไต๋ เผยว่า คนสองคนอยู่ด้วยกันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีเรื่องทะเลาะกัน ทั้งนี้ แม่ตนเป็นคนปากไว เวลามีปากเสียงก็จะรุนแรงหลายรอบ แต่ไม่เคยเห็นมีการลงไม้ลงมือกัน

          และเมื่อพิธีกรถามว่าอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งมองว่าแม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่อยู่กินกันมาเป็นเวลานาน ดังนั้นทรัพย์สินที่ได้มาถือว่าหามาร่วมกันนั้น น้องไต๋มองว่าอย่างไร เจ้าตัว ตอบว่า ถ้าเขาช่วยกันสร้างตนก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ทั้งนี้ ทรัพย์สินก่อนที่แม่จะเจอคุณเปรม ณัฐพงษ์ นั้นมีเยอะมาก ซึ่งตนได้ให้ทนายจัดการแล้ว ตนขอยืนยันว่าไม่ได้คิดจะแย่งกับใคร แต่ไม่ต้องการให้ใครมาฉวยโอกาสเอาสิ่งที่แม่ได้เก็บหอมรอมริบสร้างขึ้นมาด้วยตัวเขาเอง ตนจึงคิดว่าเป็นสิ่งของ ๆ แม่ที่ตนควรจะปกป้องเอาไว้