ปลวกกินยับ! กรุรองเท้านับพันของอดีตสตรีหมายเลข 1 ฟิลิปปินส์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก traveloscopic.blogspot.com , sponsoredbyrupert.blogspot.com , theclosettravelblogger.blogspot.com และ pcij.org

          นี่เป็นภาพรองเท้าของนางอิเมลด้า มาร์กอส อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งผู้เป็นภริยาของประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ทิ้งเอาไว้ในฟิลิปปินส์ หลังหนีออกนอกประเทศจากเหตุปฏิวัติยึดอำนาจ ในปี 2529 ถูกปลวกกัดแทะทำลายเสียพรุน รวมทั้งบางส่วนก็ถูกทำลายจากเชื้อราและความชื้น จนหมดคราบความหรูหราที่เคยเป็นมาเมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว ทำเอาคุณผู้หญิงที่ได้เห็นภาพความเสียหายนี้กัดริมฝีปากด้วยความเสียดายแทน เพราะนอกจากจะมีรองเท้าที่ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยช่างท้องถิ่นฝีมือดีแล้ว ก็ยังมีรองเท้าแบรนด์ดังระดับโลก อย่าง ปราด้า, กุชชี่, ชาร์ล จอร์แดน, คริสเดียน ดิออร์ และ เฟอร์รากาโม รวมอยู่ด้วย


          ย้อนกลับไปในปี 2529 ครอบครัวมาร์กอสต้องหลบหนีออกนอกประเทศเพราะเกิดการปฏิวัติ จึงจำต้องทิ้งสมบัติบางส่วนเอาไว้ รวมถึงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและรองเท้าเอาไว้ที่ทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งนับได้กว่า 3,000 คู่เลยทีเดียว พวกมันถูกแสดงโชว์เอาไว้ที่นั่นในสมัยของประธานาธิบดีคนถัดมา จนกระทั่งถูกเก็บลงกล่องเมื่อถึงยุคเปลี่ยนผ่านผู้นำ แล้วก็ถูกนำไปไว้ที่ห้องใต้ดินของทำเนียบเป็นเวลานานหลายปีโดยไม่มีใครเอาใจใส่ดูแล จนพบว่ามันถูกทำลายไปด้วยความชื้น และเชื้อรา บางชิ้นก็ย่ำแย่เกินกว่าจะแก้ไขให้คืนสภาพเดิมได้ จึงย้ายพวกมันส่วนใหญ่ไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติฟิลิปปินส์ แต่โชคร้ายก็ยังซ้ำเติมอีก เพราะรองเท้าที่ถูกย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ได้รับความเสียหายจากน้ำที่ซึมลงมาตามหลังคาที่รั่ว เนื่องด้วยพายุฝนที่ซัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อเดือนที่แล้ว จึงทำให้รองเท้าเหล่านี้ยิ่งอับชื้นและโทรมกว่าเดิม แถมยังโดนปลวกกินจนผุพังอย่างที่เห็นในภาพ ทำให้รองเท้าเสียหายไปเป็นจำนวน 1,220 คู่ด้วยกัน


          อย่างไรก็ดี ยังมีความโชคดีในความหายนะเหลือรอดอยู่บ้าง เพราะยังมีรองเท้าประมาณ 800 คู่ ถูกพิพิธภัณฑ์รองเท้ามาริกิน่า ที่เมืองมาริกิน่า ขอแบ่งไปเก็บไว้ตั้งแต่ปี 2009 เพื่อนำไปแสดงโชว์ โดยทิ้งรองเท้าซึ่งกลายเป็นพวกที่โชคร้ายไว้ให้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ต่อไป รองเท้าจำนวนร้อยกว่าคู่เหล่านี้จึงยังถูกเก็บรักษาในสภาพดีเยี่ยม และสร้างรายได้ให้กับเมืองด้วยการเรียกนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชม ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะออกอาการคล้าย ๆ กัน คืออ้าปากค้างในความอลังการและจำนวนที่มากมาย (ซึ่งความจริงเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง) ของรองเท้าที่อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนนี้เคยเป็นเจ้าของและสวมใส่ อันสะท้อนให้เห็นความเรืองอำนาจบนความทุกข์ยากของประชาชน เพราะขณะที่ อิเมลด้า สวมใส่รองเท้าหรูหราราคาแพงระยับ ประชาชนบางส่วนกลับยังเดินเท้าเปล่าอยู่เลยด้วยซ้ำ แต่มันก็ยังนับเป็นสมบัติที่มีค่าของแผ่นดิน ในฐานะทรัพย์สินของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ที่ได้ใส่เข้าร่วมงามสำคัญระดับชาติ ระดับอาเซียน หรือระดับโลกมาแล้ว

          แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า สมบัติของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศที่เรืองนาม จะต้องมีจุดจบเช่นนี้..จริงไหม ?